ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

การศึกษากับแนวทางการปรับตัวของสถาบัน (s.176)



#busguy #ธุรกิจแบ่งปัน #business 
.
เทคโนโลยีทำให้เราใช้คนน้อยลงในอนาคต ทำงานสมาร์ทขึ้น แต่กำลังแรงงานที่จะมาทดแทนในอนาคตก็มีแนวโน้มว่าน่าจะไม่เพียงพอ และที่สำคัญคือเศรษฐกิจใหม่จำเป็นต้องใช้คนที่มีทักษะใหม่ ซึ่งคนเจนเนอเรชั่นก่อนๆ อาจไม่มีหรือไม่เชี่ยวชาญ
.
วิธีจัดการเรื่องทักษะความเชี่ยวชาญอย่างหนึ่งคือการที่เราต้องทำการยกระดับทักษะเดิม (Upskill) และสร้างทักษะใหม่ (Reskill) ให้กับแรงงาน
.
ปัญหาหนึ่งที่เกิดขึ้นในที่ทำงานที่มีคนทำงานระหว่างวัยทำงานร่วมกันคือ "ช่องว่างระหว่างเจน"  ซึ่งองค์กรจะทำอย่างไรให้ทุกเจนที่อยู่ในตลาดแรงงานพูดจาภาษาเดียวกัน สื่อสารกันเข้าใจ  ทั้งนี้พื้นฐานของเรื่องนี้อยู่ที่ "การเปิดใจ" และ "ปรับมุมมอง" อันเป็นเรื่องวิธีคิดและทัศนคติมากกว่าเรื่องความรู้และทักษะ
.
จากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง สถาบันการศึกษาควรปรับตัวเพื่อให้ตอบโจทย์ทั้งความเร็วของการพัฒนาและความแตกต่างของเจนต่างๆ โดยมีแนวทาง 5 ด้าน ได้แก่

1. ปรับลงบทบาทความเป็น "แหล่งความรู้" ให้น้อยลง

2. เพิ่มบทบาทความเป็น "แพลตฟอร์มสร้างทักษะ" โดยต้องมีความยืดหยุ่นสูงในระดับที่คนเรียนสามารถเลือกเฉพาะเรื่องที่อยากเรียน โดยเรียนในเวลาที่ต้องการและในรูปแบบที่เหมาะสมกับเงื่อนไขการเรียนรู้ของแต่ละคน

3. อาศัยความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับภาคเอกชนและอุตสาหกรรม ในการสนับสนุนทั้งการให้โจทย์เพื่อการเรียนและการวิจัย การเปิดให้เข้าถึงทรัพยากรเพื่อการเรียนรู้ภาคปฏิบัติในชีวิตจริง

4. ยกเครื่อง "โครงสร้างรายได้" โดยสถาบันการศึกษาต้องปรับลดการพึ่งพิงรายได้จากค่าหน่วยกิจที่เรียกเก็บจากนักศึกษา และหันมาสร้างรายได้จากด้านอื่นๆ ให้มากขึ้น

5. สร้าง "กลไกการกำกับดูแลตนเองที่เป็นอิสระจากภาครัฐ" คือ รัฐบาลต้องทำให้น้อย ต้องยกเลิกกฎระเบียบที่ล้าหลังและกำกับดูแลเฉพาะเรื่องสำคัญๆ

ทั้งนี้สิ่งที่รัฐบาลควรต้องทำเป็นหลัก คือ 1.การกำหนดนโยบายให้ชัดเจนว่าอยากให้การศึกษาไปในทางใด 2.จัดงบประมาณให้สอดคล้องกับนโยบายโดยการสนับสนุนสถาบันการศึกษาทุกประเภทที่เดินตามนโยบาย และ 3.ให้อิสระแก่ทุกสถาบันการศึกษาให้มีองค์กรกำกับดูแลตนเอง
.

ที่มา: หนังสือพิพม์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 7 ธ.ค.63 บทความเรื่อง "การศึกษาต้องตอบโจทย์ 5G - 5Gens" โดย รศ.เกศินี วิฑูรชาติ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กระตุ้นพฤติกรรม ด้วยโบนัสแบบ Spot (s.154)

  บริษัทจำนวนมาจะมีระบบการให้ผลตอบแทนที่เรียกว่า "โบนัส" ประจำปี  โดยอาจพิจารณาจากผลประกอบการของบริษัทร่วมกับผลงานของพนักงาน และโบนัสดังกล่าวมักอยู่ในรูปของเงินก้อนใหญ่เมื่อเปรียบกับเงินเดือนของพนักงานผู้นั้น ทำให้บริษัทต้องมีภาระทางการเงินเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาดังกล่าวที่มีการให้โบนัส  อย่างไรก็ดียังมีวิธีหนึ่งในการให้ผลตอบแทนพนักงานซึ่งเป็นการให้ที่ถี่กว่าและจำนวนเงินก้อนเล็กกว่าเมื่อเทียบกับโบนัสประจำปี ซึ่งอาจเรียกว่าโบนัสในลักษณะนี้ว่าเป็น Spot Bonus โดยทั่วไปนั้น Spot Bonus จะให้กับพนักงานหรือกลุ่มของพนักงานสำหรับพฤติรรม การกระทำ หรือผลลัพธ์ในเรื่องหนึ่งๆ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกระตุ้นผลงานและสร้างแรงจูงใจของพนักงานในการทำงาน โดยมักเกี่ยวข้องกับงานที่เป็นโครงการ หรือเป็นการให้เพื่อส่งเสริมการกระทำหรือพฤติกรรมบางอย่างที่บริษัทประสงค์จากตัวพนักงาน.  ประโยชน์การนำ Spot Bonus มาใช้ในองค์กรนั้นมีประเด็นที่น่าสนใจที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ ดังนี้ 1. Spot Bonus สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับพนักงานได้บ่อยครั้งขึ้น - แทนที่ต้องรอโบนัสในช่วงปลายปี การให้ Spot Bonus จะ...

หงส์ดำ แรดเทา ความเสี่ยง (s.257)

#busguy #ธุรกิจแบ่งปัน #business . สัตว์สองตัวที่มักถูกนำมาเรียกเปรียบเปรยในช่วงสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 นี้ได้แก่ หงส์ดำ (Back Swan) และ แรดเทา (Grey Rhino) ซึ่งมีนอกเหนือจากที่มีการเปรียบเปรยแล้ว ยังมีการถกเถียงกันถึงเรื่องว่าเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโควิดนี้ควรจัดเป็นเหตุการณ์ลักษณะของ หงส์ดำ หรือ แรดเทา กันแน่ โดยเหตุการณ์ทั้งสองถือเป็นสิ่งเราควรเรียนรู้ในเรื่องของการบริหารความเสี่ยง . เรื่องของ หงส์ดำ มีมาช้านานแล้ว โดยใช้เปรียบเปรยในลักษณะของเหตุการณ์ที่เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากในอดีตนั้น คนส่วนใหญ่จะคิดว่าหงส์จะต้องเป็นสีขาวเท่านั้น ดังนั้นหงส์ดำจึงเป็นสิ่งนอกความคิดหรือเป็นไปไม่ได้. อย่างไรก็ดี เมื่อต่อมาได้มีการค้นพบหงส์ดำเกิดขึ้นจริง การเปรียบเปรยหงส์ดำก็กลายเป็นการกล่าวถึงเหตุการณ์ที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้หรือไม่น่ามีทางเกิดขึ้น แต่สุดท้ายก็เป็นไปได้. ทั้งนี้เหตุการณ์ที่จะเป็นหงส์ดำต้องมีลักษณะ 1.เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดมาก่อน ข้อมูลในอดีตไม่มีการบ่งบอกที่จะเกิดเหตุการณ์นั้น 2. มีผลกระทบที่รุนแรง และ 3. เมื่อมันเกิดขึ้นจริง แล้วเรามองย้อนกลับไป ก็จะสามารถหาเหตุผลมาอธิบายการเกิดข...

Word of the Year 2022 (s.540)

  #จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy  ➼ Word of The Year ที่นำเสนอโดยสำนักพิมพ์ดิกชันนารีออกฟอร์ด ซึ่งได้ประกาศออกมาโดยการใช้วิธีการโหวตออนไลน์ ได้คำว่า "goblin mode" ซึ่งหมายถึงชนิดของพฤติกรรมที่ตามใจตนเอง ขี้เกียจ ดูสกปรก ไร้ระเบียบ มีลักษณะทั่วไปที่ปฏิเสธแบบแผนของสังคมซึ่งเป็นที่ยอมรับกัน. ➼ การตีความว่าคนอยู่ในโหมดของการเป็น goblin หมายถึงคนที่เลือกเองว่าจะอยู่ในโหมดของการเป็นคนสกปรก ขี้เกียจ ไม่สนใจสารรูปของตนเอง บริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และชอบอยู่ในบ้านไม่ออกไปข้างนอก. ➼ สำหรับสำนักพิมพ์ดิกชันนารี Merriam-Webster ได้เลือก Word of the Year คำว่า "gaslighting" ซึ่งหมายความถึงการพยายามทำให้บุคคลหนึ่งรู้สึกไม่มั่นคงและสั่นคลอนในความเชื่อของตน จนทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่เห็นหรือมีประสบการณ์มิได้เกิดขึ้นจริง. ซึ่งเพื่อประโยชน์ของตนเอง. ➼ สำนักพิมพ์ดิกชันนารี Collins เลือก "permacrisis" ซึ่งแปลว่าวิกฤตที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและคงทน เพื่อเล่าสถานการณ์ของโลกปัจจุบันที่คาดเดาได้ยาก เกิดความไม่มั่นคงในหลายด้าน บรรยากาศเต็มไปด้วยความวุ่นวาย. อ้างอิง: ...