#จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy
➼ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา การทำงานแบบ Remote Work ซึ่งมีทั้ง Work From Home ไปจนถึงการสลับเวลากันเข้าออฟฟิตกลายเป็นเรื่องปกติในองค์กรจำนวนมาก ซึ่งได้มีการพิสูจน์ว่าการทำงานแบบ Remote Work ในหลายงานไม่ได้กระทบต่อ Productivity
➼ ทั้งนี้ บริษัท สลิงชอท กรุ๊ป ได้ทำการสำรวจผู้นำองค์กรชั้นนำในประเทศไทยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 พบว่า CEO ทั้งหมดกำลังเตรียมองค์กรเพื่อตอบรับการทำงานแบบ Hybrid Work และมองว่าการทำงานแบบ Remote Work และ Work from Home ที่ผ่านมาเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคนทำงาน โดยมีสาเหตุ
➼ (1) การอยู่ร่วมกันของมนุษย์ยังเป็นสิ่งจำเป็นบนโลกนี้ - โดยผลจากงานวิจัยของ University of Chicago พบว่าการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนในแต่ละวัน เป็นสิ่งที่ช่วยให้มนุษย์มีชีวิตยืนยาวขึ้น และความเสี่ยงจากการขาดปฏิสัมพันธ์กับคนเทียบเท่ากับความเสี่ยงจากการสูบบุหรี่ 15 มวนต่อวัน
➼ (2) ออฟฟิตยังเป็นสถานที่สร้างคุณค่าช่วงขณะแห่งความผูกพันของมนุษย์ - ทำให้เรารับรู้ได้ถึงการมีส่วนร่วมและเป็นส่วนหนึ่งของทีม
➼ (3) พนักงานที่รู้สึกโดดเดี่ยวไม่เป็นผลดีต่อองค์กร - พนักงานที่รู้สึกโดดเดี่ยวจะรู้สึกผูกพันต่องาน เพื่อนร่วมงาน และองค์กรน้อยลง โดยเฉพาะยิ่งหากต้องผ่านช่วงเวลายากลำบากหรือกำลังเผชิญความขัดแย้ง
➼ ทั้งนี้ การทำงานแบบ Remote Work ในช่วงที่ผ่านมา แม้จะพิสูจน์แล้วในหลายๆ ที่ว่าไม่ได้ทำให้ผลลัพธ์ในการทำงานลดลง แต่มันก็ไม่ได้เป็นบทสรุปว่าเป็นสิ่งดีหากพิจารณาถึงผลเสียที่เกิดขึ้น
อ้างอิง: "Remote Work ไม่กระทบ Productivity ไม่ได้แปลว่าดี" ดร.สุทธิโสพรรณ ช่วยวงศ์ญาติ, กรุงเทพธุรกิจ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น