#จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy
➼ โลกาภิวัตน์ หมายถึงกระบวนการที่ประเทศต่างๆ เชื่อมต่อและพึ่งพากันและกันในการทำการค้า การผลิต และการลงทุน ซึ่งเป็นกลไกหลักที่ขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา
➼ โลกาภิวัตน์ เติบโตมาสุดในช่วงปี 2543 หลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียตปี 2534 และการเข้าเป็นสมาชิกองค์การค้าโลกของจีนปี 2544 ที่ทั้งจีนและกลุ่มประเทศในสหภาพโซเวียตเดิมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกิจการเงินโลก
➼ อย่างไรก็ดี กระแสต่อต้านโลกาภิวัตน์ เกิดขึ้นจากความล้มเหลวของเศรษฐกิจเสรีนิยมที่ไม่สามารถทำให้ชีวิตคนส่วนใหญ่ดีขึ้น ความเหลื่อมล้ำมีมากขึ้น นำไปสู่กระแสชาตินิยมที่มองว่าโลกาภิวัตน์คือตัวปัญหา รวมไปถึงปัจจัยจากการแข่งขันระหว่างสหรัฐกับจีนที่นำไปสู่มาตรการกีดกันมากขึ้น
➼ นอกจากนี้ ล่าสุดจากเหตุการณ์มาตรการคว่ำบาตรจากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ซึ่งเป็นสิ่งที่รุนแรงและไม่เคยทำมาก่อน โดยมาตรการเหล่านี้ได้สร้างความไม่แน่นอนให้กับเศรษฐกิจการเงินและการค้าโลก กล่าวได้คือ
➼ (1) มาตรการคว่ำบาตร - แสดงถึงอำนาจและอิทธิพลที่กลุ่มประเทศตะวันตกมีในระบบเศรษฐกิจการเงินโลกในปัจจุบันและพร้มอที่จะใช้การเปลี่ยนกฎทางการค้าและการเงินระหว่างประเทศเป็นเครื่องมือเพื่อเล่นงานประเทศที่ไม่เป็นมิตร
➼ (2) มาตรการคว่ำบาตรเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ในอนาคตกับสินทรัพย์ที่มีในต่างประเทศของทุกประเทศทั้งของภาครัฐและเอกชน และ (3) มาตราการคว่ำบาตรได้สร้างความไม่ปลอดภัยให้กับการทำธุรกิจระหว่างประเทศในอนาคต - ที่กฎเกณฑ์ทางการค้าและการเงินโลกอาจเปลี่ยนได้ด้วยเหตุลทางการเมือง
อ้างอิง: "โลกาภิวัตน์ กับ สงคราม จะไปต่อหรือถอยหลัง" บัณฑิต นิจถาวร, กรุงเทพธุรกิจ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น