#busguy #ธุรกิจแบ่งปัน #business
KKP Research คาดว่าเศรษฐกิจไทยเติบโตเหลือ 2.0% จากเดิมที่คาดการณ์ที่ 3.5% โดยเป้นผลจากการระบาดของโควิดรอบใหม่ และกรณีเลวร้ายเศรษฐกิจอาจปรับตัวลดลง -1.2% ในปี 2564 นี้ ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตามอง ได้แก่
1. การลุกลามของการติดเชื้อในประเทศ - การที่ประเทศไทยไม่ได้มีการตรวจเชื้อแบบเชิงรุกในวงกว้าง จึงมีความเป็นไปได้ที่จำนวนผู้ติดเชื้อแฝงที่สามารถแพร่เชื้อได้ในประเทศไทยจะสูงกว่าตัวเลขที่มีการรายงานอยู่หลายเท่า ซึ่งทำให้การติดตามและควบคุมทำได้ยาก ซึ่งหากสถานการณ์ยังขยายวงมากขึ้น อาจมีความเสี่ยงที่ทางการจะมีมาตรการเข้มข้นขึ้น
2. ข้อจำกัดด้านสาธารณสุขในการรองรับผู้ป่วยติดเชื้อ - โดยหากจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อที่ต้องเข้าการรักษาในโรงพยาบาลมีจำนวนเพิ่มขึ้นเกินขีดความสามารถในการรองรับด้านสาธารณสุข ก็อาจนำไปสู่มาตรการควบคุมการระบาดที่จำเป็นต้องเข้มงวดมากขึ้น ทั้งนี้คอขวดของการรับมือจะอยู่จำนวนห้องแยกโรคความดันติดลบที่สามารถป้องกันการกระจายตัวของเชื้อโรคในอากาศ จำนวนเตียงผู้ป่วยหนัก เครื่องช่วยหายใจ และจำนวนบุคคลากรทางการแพทย์และพยายาล
3. ประสิทธิผลและความครอบคลุมในการแจกจ่ายวัคซีน - โดยวัคซีนจะถือเป็นกุญแจสำคัญ และเป็นความหวังที่ประเทศไทยจะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้อีกครั้ง
ทั้งนี้ KKP Research มองว่าภาครัฐควรต้องผลักดันนโยบาย ทั้งมาตรการเยียวยาระยะสั้นเพื่อประคองภาคธุรกิจและแรงงาน และนโยบายการลงทุนเพื่อโครงสร้างพื้นฐานในระยะยาวที่จะเป็นการเพิ่มการจ้างงานและเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจต่อไป
.
🙏🙏
อ้างอิง: "KKP Research หวั่น 3 ปัจจัยทำ GDP ไทยติดลบ การลุกลาม-การรักษา-การกระจายวัคซีน" โดย Brand Inside 12 ม.ค.64
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น