ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Web 3.0 กับ นโยบายญี่ปุ่น (s.537)

 

 

#จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy 

➼ Web 3.0 คือ ยุคของอินเตอร์เน็ตแบบไม่มีศูนย์กลาง ซึ่งเป็นการพัฒนาจาก Web 1.0 ที่ผู้ใช้งานส่วนใหญ่เป็นผู้รับข้อมูล และ Web 2.0 ที่ผู้ใช้งานสามารถโต้ตอบและมีปฏิสัมพันธ์กันได้บนเว็บผ่านแพลตฟอร์มของตัวกลาง เช่น Google หรือ Apple ขณะที่ Web 3.0 จะเป็นการที่ผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ไม่ต้องมีคนจัดการที่เป็นส่วนกลางโดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน.

➼ ประเทศญี่ปุ่นได้มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อส่งเสริมธุรกิจเกี่ยวกับ Web 3.0 โดยมีการประกาศ Basic Policy on Economic and Fiscal Management and Reform 2022 เมื่อ มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งกล่าวถึงนโยบายในการสร้างและพัฒนาสภาพแวดล้อมเพื่อส่งเสริมการพัฒนา Web 3.0.

➼ ประเทศญี่ปุ่นมีทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งสามารถแข่งขันกับประเทศอื่นๆได้ เช่น เกมและอนิเมะ จึงมีโอกาสที่สามารถเป็นผู้นำของโลกด้านธุรกิจ NFT หรือ Web 3.0. อย่างไรก็ดี สภาพแวดล้อมที่เกี่ยวกับ NFT ในประเทศญี่ปุ่นในปัจจุบันยังถือว่ามีปัญหาอยู่มาก.

➼ ในมุมปัญหาทางกฎหมายได้มีการกล่าวถึงใน NFT White Paper ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 5 ประเภท ได้แก่ (1) นโยบายที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาธุรกิจ NFT เช่น ในกรณีที่กลุ่มธนาคารจะทำธุรกิจด้าน NFT ขอบเขตกิจกรรมที่สามารถทำได้ภายใต้กฎหมายนั้นไม่ชัดเจน.

➼ (2) นโยบายที่จำเป็นเพื่อคุ้มครองเจ้าของคอนเทนต์ เช่น ความไม่ชัดเจนของสิทธิของนักกีฬาหรือนักแสดงสำหรับค่าสิทธิที่จะได้จาก NFT ในตลาดรอง.  (3) นโยบายที่จำเป็นเพื่อคุ้มครองผู้ใช้งาน เช่น สถานะทางกฎหมายและสิทธิที่จะได้มาเมื่อได้มา (ครอบครอง) ซึ่ง NFT นั้น ยังเข้าใจได้ยากอยู่สำหรับผู้บริโภคทั่วไป.

➼ (4) นโยบายที่จำเป็นสำหรับการสร้างระบบนิเวศเพื่อสนับสนุนธุรกิจ NFT เช่น สถานะทางกฎหมายและกฎเกณฑ์ที่ใช้บังคับสำหรับองค์กรอัตโนมัติแบบกระจายศูนย์ (DAO).  (5) นโยบายที่จำเป็นสำหรับการรักษาผลประโยชน์ของสังคม เช่น NFT อาจถูกนำไปใช้เพื่อการฟอกเงินหรือก่อการร้าย แต่ก็ยังไม่มีกฎเกณฑ์เกี่ยวกับการยืนยันตัวตน ฯลฯ เพื่อป้องกันความเสี่ยงเหล่านั้น. 

อ้างอิง: "รัฐบาลญี่ปุ่น พร้อมลุย Web 3.0" ภูมิภัทร/ภาณุพันธ์ อุดมสุวรรณกุล, กรุงเทพธุรกิจ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กระตุ้นพฤติกรรม ด้วยโบนัสแบบ Spot (s.154)

  บริษัทจำนวนมาจะมีระบบการให้ผลตอบแทนที่เรียกว่า "โบนัส" ประจำปี  โดยอาจพิจารณาจากผลประกอบการของบริษัทร่วมกับผลงานของพนักงาน และโบนัสดังกล่าวมักอยู่ในรูปของเงินก้อนใหญ่เมื่อเปรียบกับเงินเดือนของพนักงานผู้นั้น ทำให้บริษัทต้องมีภาระทางการเงินเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาดังกล่าวที่มีการให้โบนัส  อย่างไรก็ดียังมีวิธีหนึ่งในการให้ผลตอบแทนพนักงานซึ่งเป็นการให้ที่ถี่กว่าและจำนวนเงินก้อนเล็กกว่าเมื่อเทียบกับโบนัสประจำปี ซึ่งอาจเรียกว่าโบนัสในลักษณะนี้ว่าเป็น Spot Bonus โดยทั่วไปนั้น Spot Bonus จะให้กับพนักงานหรือกลุ่มของพนักงานสำหรับพฤติรรม การกระทำ หรือผลลัพธ์ในเรื่องหนึ่งๆ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกระตุ้นผลงานและสร้างแรงจูงใจของพนักงานในการทำงาน โดยมักเกี่ยวข้องกับงานที่เป็นโครงการ หรือเป็นการให้เพื่อส่งเสริมการกระทำหรือพฤติกรรมบางอย่างที่บริษัทประสงค์จากตัวพนักงาน.  ประโยชน์การนำ Spot Bonus มาใช้ในองค์กรนั้นมีประเด็นที่น่าสนใจที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ ดังนี้ 1. Spot Bonus สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับพนักงานได้บ่อยครั้งขึ้น - แทนที่ต้องรอโบนัสในช่วงปลายปี การให้ Spot Bonus จะ...

Word of the Year 2022 (s.540)

  #จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy  ➼ Word of The Year ที่นำเสนอโดยสำนักพิมพ์ดิกชันนารีออกฟอร์ด ซึ่งได้ประกาศออกมาโดยการใช้วิธีการโหวตออนไลน์ ได้คำว่า "goblin mode" ซึ่งหมายถึงชนิดของพฤติกรรมที่ตามใจตนเอง ขี้เกียจ ดูสกปรก ไร้ระเบียบ มีลักษณะทั่วไปที่ปฏิเสธแบบแผนของสังคมซึ่งเป็นที่ยอมรับกัน. ➼ การตีความว่าคนอยู่ในโหมดของการเป็น goblin หมายถึงคนที่เลือกเองว่าจะอยู่ในโหมดของการเป็นคนสกปรก ขี้เกียจ ไม่สนใจสารรูปของตนเอง บริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และชอบอยู่ในบ้านไม่ออกไปข้างนอก. ➼ สำหรับสำนักพิมพ์ดิกชันนารี Merriam-Webster ได้เลือก Word of the Year คำว่า "gaslighting" ซึ่งหมายความถึงการพยายามทำให้บุคคลหนึ่งรู้สึกไม่มั่นคงและสั่นคลอนในความเชื่อของตน จนทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่เห็นหรือมีประสบการณ์มิได้เกิดขึ้นจริง. ซึ่งเพื่อประโยชน์ของตนเอง. ➼ สำนักพิมพ์ดิกชันนารี Collins เลือก "permacrisis" ซึ่งแปลว่าวิกฤตที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและคงทน เพื่อเล่าสถานการณ์ของโลกปัจจุบันที่คาดเดาได้ยาก เกิดความไม่มั่นคงในหลายด้าน บรรยากาศเต็มไปด้วยความวุ่นวาย. อ้างอิง: ...

Reserve Currency (s.538)

  #จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy  ➼ Reserve Currency คือ เงินตราต่างประเทศที่ธนาคารกลางและสถาบันการเงินใหญ่ๆ ในโลกถือไว้เป็นจำนวนมาก เพื่อใช้ในการค้า การลงทุนและการชำระหนี้ระหว่างประเทศ. ➼ ตั้งแต่ปี 1944 มี 44 ประเทศได้ตกลงกันที่เมือง Bretton Woods ที่จะให้ดอลลาร์เป็นเงินตราที่จะใช้ในธุรกรรมระหว่างประเทศ โดยประเทศต่างๆ จะผูกค่าเงินของตนไว้กับดอลลาร์ และดอลลาร์ก็จะผูกไว้กับทองคำอีกต่อหนึ่ง ในอัตรา 35 ดอลลาร์ต่อทองทำ 1 Troy Ounce นี่เป็นจุดกำหนดของระบบอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ (Fixed Exchange Rate System). ➼ ในปี 1973 ประธานาธิบดีนิกสันได้ประกาศยกเลิกการผูกค่าเงินดอลลาร์ไว้กับทองคำ อันเป็นจุดเริ่มต้นของระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัว (Flexible Exchange Rate System) โดยแม้ดอลลาร์จะไม่มีทองคำหนุนหลัง แต่ดอลลาร์ก็ยังคงเป็น reserve currency หลักของโลกมาตลอดมาตลอดเกือบ 80 ปี เพราะสภาพคล่องที่มีสูงมาก. ➼ สหรัฐถือเป็นประเทศที่ได้เปรียบทุกประเทศในการที่สามารถใช้เงินของตนทำธุรกรรมต่างประเทศได้ อย่างไรก็ดี ในระยะยาว ยังมีคำถามที่เกิดขึ้นคือ ดอลลาร์อาจสูญเสียความเป็น reserve currency หลักของ...