.
เศรษฐกิจในปัจจุบันที่คนส่วนใหญ่รับรู้คือยังดูเหมือนทรงๆ อยู่ระหว่างรอยต่อว่าจะดีขึ้นหรือทรุดลง โดยถึงแม้ประเทศไทยจะมีการคลาย lockdown ค่อนข้างมากแล้ว แต่เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศมีการผูกเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลกค่อนข้างมาก ทำให้ถึงแม้สถานการณ์โรคระบาดในประเทศไทยจะดีขึ้น แต่ต่างประเทศกลับยังเป็นผู้ป่วยหนัก และทำให้ประเทศไทยได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน
.
ศูนย์วิจัย EIC โดยธนาคารไทยพาณิชย์ ได้คาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2563 นี้ มีการหดตัวลงถึง 7.8% ซึ่งถือว่าหนัก โดยมีตัวเลขที่น่าสนใจคือการบริโภคภาคเอกชนหดตัว 2.3% ในขณะที่การลงทุนภาคเอกชนหดตัวถึง 12.6% และจำนวนนักท่องเที่ยงลดลง 83.1% ทั้งนี้ถึงแม้เศรษฐกิจจะมีการบริโภคภาครัฐและการลงทุนภาครัฐที่เป็นตัวช่วยโดยมีการเติบโตที่ 2.5% และ 8.1% ตามลำดับ แต่ก็ยังไม่สามารถช่วยภาพรวมของเศรษฐกิจในประเทศได้มากนัก
.
สิ่งที่เราต้องจับตาดูต่อไปคือปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในช่วยที่เหลือซึ่งประกอบด้วย ปัจจัยบวก ได้แก่ (1) การใช้จ่ายของภาครัฐว่ามีความต่อเนื่องเพียงใด และ (2) โครงการช่วยเหลือของภาครัฐภายใต้ พรก. กู้เงิน 1 ล้านล้านบาทว่าจะมีประสิทธิภาพขนาดไหน ในทางกลับกันปัจจัยเสี่ยงที่มาควบคู่ ได้แก่ (1) การกลับมาระบาดของ COVID-19 อีกครั้งซึ่งเราเริ่มพบเห็นในประเทศเพื่อนบ้านแล้ว (2) ความตึงเครียดในความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีนอันจะส่งผลกระทบต่อประเทศอื่นๆ อย่างเลี่ยงมิได้ (3) การปิดกิจการที่เพิ่มประกอบด้วยการว่างงานที่เพิ่มขึ้นตามกัน อันเป็นปัจจัยลบต่อการบริโภค และ (4) ความเสี่ยงทางการเมืองซึ่งเราพบเห็นได้ว่ามีความตึงเครียดระหว่างผู้มีความเห็นต่างมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
.
ทั้งนี้ทั้งปัจจัยลบและปัจจัยบวก เป็นสิ่งที่เราทุกคนควรต้องจับตาอย่างใกล้ชิดและประเมินสถานการณ์ต่อเนื่อง เพื่อนำไปสู่แผนการปฏิบัติงานเพื่อให้ธุรกิจก้าวผ่านไปได้อย่างราบรื่นที่สุดภายใต้สภาพแวดล้อมที่เปราะปรางและพร้อมจะดำดิ่งไปสู่ความไม่แน่นอนที่สูงได้ตลอดเวลา 👍
.
#busguy
#ธุรกิจแบ่งปัน #business
สรุปจาก: Outlook Quarter 3 2020 โดย EIC ธนาคารไทยพาณิชย์
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น