ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

พัฒนาการ กับ ความเหลื่อมล้ำ (s.349)

 


#busguy #จดมาสรุปให้ฟัง #ธุรกิจแบ่งปัน

.

พัฒนาการด้านความเหลื่อมล้ำของไทยในช่วงก่อนและหลังวิกฤตโควิด สามารถแบ่งได้ดังนี้

1. ก่อนวิกฤตโควิด: เศรษฐกิจไทยโตดี แต่ประชาชนกลับไม่รู้สึก

   ช่วงปี 2558-2562 เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่อเนื่องเฉลี่ย 3.4% ต่อปี และดูเหมือนการกระจายรายได้จากตัวเลขสถิติต่างๆ ดีขึ้น แต่ประชาชนกลับเกิดความสงสัยและไม่รู้สึกว่าเศรษฐกิจดี เนื่องจาก (1) เงินที่ได้รับจากการทำงานยังไม่พอเลี้ยงปากท้อง และต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากแหล่งอื่น และ (2) ครัวเรือนยังต้องบริโภคด้วยการก่อหนี้ สะท้อนจากสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ณ สิ้นไตรมาส 4/2562 อยู่ที่เกือบ 80% สูงเป็นอันดับ 2 ในเอเชียรองจากเกาหลีใต้

.

2. วิกฤตโควิด-19: รายได้ลด หนี้สินเพิ่ม ซ้ำเติมปัญหาความเหลื่อมล้ำ

   เศรษฐกิจไทยหดตัวสูงถึงร้อยละ 6.1 ในปี 2563 จากการระบาดของโควิด-19 ยิ่งซ้ำเติมปัญหาความเหลื่อมล้ำ โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ (1) กลุ่มที่รายได้ลดลงมาก เช่น ลูกจ้างในภาคบริการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ทำให้ต้องนำเงินออมที่มีอยู่มาใช้จ่าย รวมถึงก่อหนี้เพิ่ม (2) กลุ่มที่รายได้ยังเท่าเดิมหรือลดลงไม่มาก เช่น ข้าราชการ ลูกจ้างรัฐและเอกชนบางส่วน โดยกลุ่มนี้ยังออมเงินในอัตราใกล้เคียงหรืออาจเพิ่มขึ้น และ (3) กลุ่มที่รายได้เพิ่มขึ้น เช่น กลุ่มค้าขายออนไลน์ โดยกลุ่มนี้สามารถพลิกวิกฤตเป็นโอกาส เพิ่มรายได้และเก็บออมได้มากขึ้น

.

3. หลังวิกฤตโควิด-19: มุ่งแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำอย่างยั่งยืน

   ซับซ้อนและใช้เวลานาน โดยมีแนวทาง 3 ประเด็น คือ (1) ต้องมีทรัพยากรที่เพียงพอต่อการแก้ปัญหา การปฏิรูปการจัดเก็บภาษีจะทำให้รัฐบาลมีรายได้เพียงพอเพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน (2) ต้องจัดสรรทรัพยากรเพื่อแก้ปัญหาอย่างตรงจุด ไม่ทำนโยบายแบบเหวี่ยงแห และ (3) ต้องพิจารณาความสมดุลในการแก้ปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาว นอกจากจะจ่ายเงินเยียวยาและพยุงเศรษฐกิจเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า จะต้องให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนในระยะยาวด้วย

.

อ้างอิง: 'ความเหลื่อมล้ำตัวฉุดเศรษฐกิจไทย' พิรญาณ์ รณภาพ, กรุงเทพธุรกิจ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กระตุ้นพฤติกรรม ด้วยโบนัสแบบ Spot (s.154)

  บริษัทจำนวนมาจะมีระบบการให้ผลตอบแทนที่เรียกว่า "โบนัส" ประจำปี  โดยอาจพิจารณาจากผลประกอบการของบริษัทร่วมกับผลงานของพนักงาน และโบนัสดังกล่าวมักอยู่ในรูปของเงินก้อนใหญ่เมื่อเปรียบกับเงินเดือนของพนักงานผู้นั้น ทำให้บริษัทต้องมีภาระทางการเงินเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาดังกล่าวที่มีการให้โบนัส  อย่างไรก็ดียังมีวิธีหนึ่งในการให้ผลตอบแทนพนักงานซึ่งเป็นการให้ที่ถี่กว่าและจำนวนเงินก้อนเล็กกว่าเมื่อเทียบกับโบนัสประจำปี ซึ่งอาจเรียกว่าโบนัสในลักษณะนี้ว่าเป็น Spot Bonus โดยทั่วไปนั้น Spot Bonus จะให้กับพนักงานหรือกลุ่มของพนักงานสำหรับพฤติรรม การกระทำ หรือผลลัพธ์ในเรื่องหนึ่งๆ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกระตุ้นผลงานและสร้างแรงจูงใจของพนักงานในการทำงาน โดยมักเกี่ยวข้องกับงานที่เป็นโครงการ หรือเป็นการให้เพื่อส่งเสริมการกระทำหรือพฤติกรรมบางอย่างที่บริษัทประสงค์จากตัวพนักงาน.  ประโยชน์การนำ Spot Bonus มาใช้ในองค์กรนั้นมีประเด็นที่น่าสนใจที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ ดังนี้ 1. Spot Bonus สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับพนักงานได้บ่อยครั้งขึ้น - แทนที่ต้องรอโบนัสในช่วงปลายปี การให้ Spot Bonus จะ...

Word of the Year 2022 (s.540)

  #จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy  ➼ Word of The Year ที่นำเสนอโดยสำนักพิมพ์ดิกชันนารีออกฟอร์ด ซึ่งได้ประกาศออกมาโดยการใช้วิธีการโหวตออนไลน์ ได้คำว่า "goblin mode" ซึ่งหมายถึงชนิดของพฤติกรรมที่ตามใจตนเอง ขี้เกียจ ดูสกปรก ไร้ระเบียบ มีลักษณะทั่วไปที่ปฏิเสธแบบแผนของสังคมซึ่งเป็นที่ยอมรับกัน. ➼ การตีความว่าคนอยู่ในโหมดของการเป็น goblin หมายถึงคนที่เลือกเองว่าจะอยู่ในโหมดของการเป็นคนสกปรก ขี้เกียจ ไม่สนใจสารรูปของตนเอง บริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และชอบอยู่ในบ้านไม่ออกไปข้างนอก. ➼ สำหรับสำนักพิมพ์ดิกชันนารี Merriam-Webster ได้เลือก Word of the Year คำว่า "gaslighting" ซึ่งหมายความถึงการพยายามทำให้บุคคลหนึ่งรู้สึกไม่มั่นคงและสั่นคลอนในความเชื่อของตน จนทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่เห็นหรือมีประสบการณ์มิได้เกิดขึ้นจริง. ซึ่งเพื่อประโยชน์ของตนเอง. ➼ สำนักพิมพ์ดิกชันนารี Collins เลือก "permacrisis" ซึ่งแปลว่าวิกฤตที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและคงทน เพื่อเล่าสถานการณ์ของโลกปัจจุบันที่คาดเดาได้ยาก เกิดความไม่มั่นคงในหลายด้าน บรรยากาศเต็มไปด้วยความวุ่นวาย. อ้างอิง: ...

Reserve Currency (s.538)

  #จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy  ➼ Reserve Currency คือ เงินตราต่างประเทศที่ธนาคารกลางและสถาบันการเงินใหญ่ๆ ในโลกถือไว้เป็นจำนวนมาก เพื่อใช้ในการค้า การลงทุนและการชำระหนี้ระหว่างประเทศ. ➼ ตั้งแต่ปี 1944 มี 44 ประเทศได้ตกลงกันที่เมือง Bretton Woods ที่จะให้ดอลลาร์เป็นเงินตราที่จะใช้ในธุรกรรมระหว่างประเทศ โดยประเทศต่างๆ จะผูกค่าเงินของตนไว้กับดอลลาร์ และดอลลาร์ก็จะผูกไว้กับทองคำอีกต่อหนึ่ง ในอัตรา 35 ดอลลาร์ต่อทองทำ 1 Troy Ounce นี่เป็นจุดกำหนดของระบบอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ (Fixed Exchange Rate System). ➼ ในปี 1973 ประธานาธิบดีนิกสันได้ประกาศยกเลิกการผูกค่าเงินดอลลาร์ไว้กับทองคำ อันเป็นจุดเริ่มต้นของระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัว (Flexible Exchange Rate System) โดยแม้ดอลลาร์จะไม่มีทองคำหนุนหลัง แต่ดอลลาร์ก็ยังคงเป็น reserve currency หลักของโลกมาตลอดมาตลอดเกือบ 80 ปี เพราะสภาพคล่องที่มีสูงมาก. ➼ สหรัฐถือเป็นประเทศที่ได้เปรียบทุกประเทศในการที่สามารถใช้เงินของตนทำธุรกรรมต่างประเทศได้ อย่างไรก็ดี ในระยะยาว ยังมีคำถามที่เกิดขึ้นคือ ดอลลาร์อาจสูญเสียความเป็น reserve currency หลักของ...