#จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy
➼ สถาบันวิจัยสินติภาพระหว่างประเทศแห่งกรุงสตอกโฮล์ม (Stockholm International Peace Research หรือ SIPRI) ได้ออกรายงานแนวโน้มเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์พบว่า มีตัวเลขบ่งชี้ว่าอาวุธร้ายแรงนี้กำลังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ลดลงในช่วง 30 ปีที่ผ่านมาหลังจากสงครามเย็นยุติ.
➼ รายงานชี้ว่า 2 ประเทศมหาอำนาจมีอาวุธนิวเคลียร์รวมกันมากที่สุด โดยรัสเซียมี 4,477 ลูก/หัวรบ และสหรัฐอเมริกามี 3,708 ลูก ซึ่งทั้งสองประเทศนี้เคยมีจำนวนมากกว่านี้มาก่อนและลดจำนวนลงตามสัญญาที่ทำกันหลังสงครามเย็นยุติ.
➼ นอกจากทั้งสองประเทศที่กล่าวมาแล้ว ยังมีจีนที่มีจำนวนหัวรบ 350 ลูก ฝรั่งเศส 290 ลูก และสหราชอาณาจักร 180 ลูก. โดยจีนเป็นประเทศที่ผลิตอาวุธชนิดนี้เพิ่มขึ้นมากที่สุด. นอกจากนี้ยังมีอินเดีย และปากีสถานที่เป็นเพื่อนบ้านที่มีความขัดแย้งกันมีจำนวน 165 และ 160 ลูกตามลำดับ.
➼ ทั้งนี้ แม้หลายประเทศจะไม่ได้ผลิตหัวรบมากขึ้น แต่ก็ยังทำการวิจัยและพัฒนาต่อไปซึ่งจะยังคงสร้างอาวุธที่มีอานุภาพสูงกว่าจำพวกที่มีอยู่แล้วเพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว. นอกจากนั้น ประเทศที่ไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ เช่น ญี่ปุ่น ก็อาจตัดสินใจผลิตในอนาคตได้ เพราะมองว่าตนเองกำลังถูกคุมคามจากเพื่อนบ้าน เช่น จีน และเกาหลีเหนือ.
➼ โดยเมื่อรวมทุกประเทศทั่วโลกเข้าด้วยกันแล้ว SIPRI ประเมินว่า งบประมาณการทหารได้เพิ่มขึ้นไปกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ว่าโลกของเราใช้งบประมาณการทหารราว 4 เท่าของผลผลิตของประเทศไทยในรอบปี. ซึ่งเงินจำนวนนี้ควรนำไปใช้แก้ไขปัญหาของโลกเรามากกว่า.
อ้างอิง: "ตัวเลขบางตัวน่ากลัวมาก" ไสว บุญมา, กรุงเทพธุรกิจ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น