ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

จุดปลายยอดระหว่างความสำเร็จและความล้มเหลว



การค้นพบหนึ่งที่น่าจะประหลาดใจสำหรับเรื่องนี้ คือ ผู้ที่ประสบกับความล้มเหลวแต่เนิ่นๆ มักจะเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จในระยะยาวมากกว่าผู้ที่ประสบความสำเร็จแต่เนิ่น

คนทั่วไปมักมองความสำเร็จและความล้มเหลวแยกกันอย่างชัดเจนเหมือนสีขาวและสีดำ แต่ในความเป็นจริงที่เกิดขึ้น คือ ความสำเร็จและความล้มเหลวเป็นสิ่งที่ใกล้เคียงกันมาก ซึ่งอาจเรียกว่าทั้งสองสิ่งเป็นมีเพียงเส้นบางๆ ที่กั้นขวาง

ในวัฒนธรรมที่แตกต่างกันมักจะมีมุมของของการแบ่งปันเรื่องของความล้มเหลวที่แตกต่างกัน ซึ่งบางสังคมจะถือเป็นเรื่องธรรมดาในการที่บอกเล่าเรื่องราวของความล้มเหลวให้ผู้อื่น ในขณะที่บางวัฒนธรรมอาจถือเป็นเรื่องคอขาดบาดตายในการให้คนอื่นรู้ถึงความล้มเหลว

สิ่งที่สำคัญสำหรับความสำเร็จหรือความล้มเหลว คือ สิ่งที่ผู้คนตอบสนองต่อความล้มเหลว ซึ่งกรณีหากที่ผู้ชนะ (คนที่ประสบความสำเร็จ) และผู้เกือบชนะ (ผู้ที่ล้มเหลว) มีความแตกต่างของความสำเร็จอยู่เพียงเล็กน้อยในตอนเริ่มต้น ความแตกต่างแม้แต่เพียงเล็กน้อยดังกล่าวสามารถสร้างปรากฎการณ์ในลักษณะของ Snowball Effect ได้ และส่งผลให้ความแตกต่างของผู้ชนะและผู้เกือบชนะยิ่งห่างกันมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป

อย่างไรก็ดีมีเรื่องที่ต้องพิจารณาสำหรับความล้มเหลว ในประเด็นของ "คุณล้มเหลวอย่างไร" หรือในประเด็นของ "คุณรับมือกับความล้มเหลวอย่างไร"

ในความเป็นจริง คนที่ประสบความสำเร็จมักจะมีความล้มเหลวและล้มเหลวตลอดเส้นทาง จนกระทั่งประสบความสำเร็จ ประเด็นคือ คนหล่านี้รู้ที่จะล้มเหลวเพื่อให้เข้าใกล้ความสำเร็จ

ด้านหนึ่งของจุดแบ่ง คนที่เกือบประสบความสำเร็จและอาจประสบความล้มเหลวแล้วล้มเหลวอีก คุณพยายามที่จะลุกขึ้นมาและลองใหม่อีกครั้งในทุกครั้งที่คุณล้มเหลว อย่างไรก็ดีคุณไม่ได้เรียนรู้ที่เพียงพอจากความล้มเหลวที่เกิดขึ้นเลยซึ่งนั่นจะทำให้คุณไม่ได้เข้าใกล้ความสำเร็จแม้แต่น้อย ซึ่งอาจเรียกว่า "พื้นที่แห่งความเฉื่อยชา"

และในอีกด้านหนึ่งที่อยู่เหนือของจุดแบ่ง คนในด้านนี้จะล้มเหลวแล้วล้มเหลวอีกดังเช่นคนในอีกฝาก แต่คุณพบกับความล้มเหลวเร็วและเร็วขึ้นจนกระทั่วคุณประสบความสำเร็จ สิ่งดังกล่าวได้ให้ข้อคิดอย่างหนึ่ง คือ ไม่ใช่่ทุกความล้มเหลวจะนำไปสู่ความสำเร็จ

ผู้ที่อยู่ในกลุ่มของความล้มเหลวมักเป็นผู้ที่ไม่ได้พัฒนาตนเองเมื่อเกิดความล้มเหลว ในขณะที่ผู้ที่อยู่ในกลุ่มของความสำเร็จจะพัฒนาตนเองทุกครั้งเมื่อเกิดความล้มเหลว และนั่นคือการที่พวกเขาเริ่มที่จะล้มเหลวเร็วและเร็วขึ้นจนกระทั่งประสบความสำเร็จ

หากคุณไม่ได้ล้มเหลวเร็วขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป นั่นอาจหมายถึงคุณติดอยู่ในกับดัก "พื้นที่แห่งความเฉื่อยชา" ทำการพัฒนาในด้านที่ผิด

ความล้มเหลวที่เกิดขึ้น จะเป็นประโยชน์ที่ได้ให้อะไรกับเราใน 2 ด้าน คือ 1.ประสบการณ์ในอดีต ซึ่งการล้มเหลวหมายถึงคุณได้ทำมาแล้วและคุณรู้ว่าอย่างไรที่ทำแล้วไม่สำเร็จ และ 2.ข้อเสนอแนะ โดยที่ในความเป็นจริงการล้มเหลวมักจะเกิดจากการที่ผู้อื่นบอกกับคุณว่าคุณล้มเหลว พร้อมกับคำแนะนำที่ทำให้คุณรู้ในจุดอ่อน

การพ่ายแพ้ไม่ได้หมายถึงจุดสิ้นสุดของคุณที่ต้องออกจากการแข่งขัน และ ผู้แพ้ในที่ยังอยู่ในเกมส์ต่อไปสุดท้ายอาจกลายเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต

(สรุปความเห็นส่วนตัวจาก HBR IdeaCast)

#HBRIdeaCast
#business #bus.guy



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กระตุ้นพฤติกรรม ด้วยโบนัสแบบ Spot (s.154)

  บริษัทจำนวนมาจะมีระบบการให้ผลตอบแทนที่เรียกว่า "โบนัส" ประจำปี  โดยอาจพิจารณาจากผลประกอบการของบริษัทร่วมกับผลงานของพนักงาน และโบนัสดังกล่าวมักอยู่ในรูปของเงินก้อนใหญ่เมื่อเปรียบกับเงินเดือนของพนักงานผู้นั้น ทำให้บริษัทต้องมีภาระทางการเงินเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาดังกล่าวที่มีการให้โบนัส  อย่างไรก็ดียังมีวิธีหนึ่งในการให้ผลตอบแทนพนักงานซึ่งเป็นการให้ที่ถี่กว่าและจำนวนเงินก้อนเล็กกว่าเมื่อเทียบกับโบนัสประจำปี ซึ่งอาจเรียกว่าโบนัสในลักษณะนี้ว่าเป็น Spot Bonus โดยทั่วไปนั้น Spot Bonus จะให้กับพนักงานหรือกลุ่มของพนักงานสำหรับพฤติรรม การกระทำ หรือผลลัพธ์ในเรื่องหนึ่งๆ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกระตุ้นผลงานและสร้างแรงจูงใจของพนักงานในการทำงาน โดยมักเกี่ยวข้องกับงานที่เป็นโครงการ หรือเป็นการให้เพื่อส่งเสริมการกระทำหรือพฤติกรรมบางอย่างที่บริษัทประสงค์จากตัวพนักงาน.  ประโยชน์การนำ Spot Bonus มาใช้ในองค์กรนั้นมีประเด็นที่น่าสนใจที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ ดังนี้ 1. Spot Bonus สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับพนักงานได้บ่อยครั้งขึ้น - แทนที่ต้องรอโบนัสในช่วงปลายปี การให้ Spot Bonus จะ...

Word of the Year 2022 (s.540)

  #จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy  ➼ Word of The Year ที่นำเสนอโดยสำนักพิมพ์ดิกชันนารีออกฟอร์ด ซึ่งได้ประกาศออกมาโดยการใช้วิธีการโหวตออนไลน์ ได้คำว่า "goblin mode" ซึ่งหมายถึงชนิดของพฤติกรรมที่ตามใจตนเอง ขี้เกียจ ดูสกปรก ไร้ระเบียบ มีลักษณะทั่วไปที่ปฏิเสธแบบแผนของสังคมซึ่งเป็นที่ยอมรับกัน. ➼ การตีความว่าคนอยู่ในโหมดของการเป็น goblin หมายถึงคนที่เลือกเองว่าจะอยู่ในโหมดของการเป็นคนสกปรก ขี้เกียจ ไม่สนใจสารรูปของตนเอง บริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และชอบอยู่ในบ้านไม่ออกไปข้างนอก. ➼ สำหรับสำนักพิมพ์ดิกชันนารี Merriam-Webster ได้เลือก Word of the Year คำว่า "gaslighting" ซึ่งหมายความถึงการพยายามทำให้บุคคลหนึ่งรู้สึกไม่มั่นคงและสั่นคลอนในความเชื่อของตน จนทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่เห็นหรือมีประสบการณ์มิได้เกิดขึ้นจริง. ซึ่งเพื่อประโยชน์ของตนเอง. ➼ สำนักพิมพ์ดิกชันนารี Collins เลือก "permacrisis" ซึ่งแปลว่าวิกฤตที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและคงทน เพื่อเล่าสถานการณ์ของโลกปัจจุบันที่คาดเดาได้ยาก เกิดความไม่มั่นคงในหลายด้าน บรรยากาศเต็มไปด้วยความวุ่นวาย. อ้างอิง: ...

Reserve Currency (s.538)

  #จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy  ➼ Reserve Currency คือ เงินตราต่างประเทศที่ธนาคารกลางและสถาบันการเงินใหญ่ๆ ในโลกถือไว้เป็นจำนวนมาก เพื่อใช้ในการค้า การลงทุนและการชำระหนี้ระหว่างประเทศ. ➼ ตั้งแต่ปี 1944 มี 44 ประเทศได้ตกลงกันที่เมือง Bretton Woods ที่จะให้ดอลลาร์เป็นเงินตราที่จะใช้ในธุรกรรมระหว่างประเทศ โดยประเทศต่างๆ จะผูกค่าเงินของตนไว้กับดอลลาร์ และดอลลาร์ก็จะผูกไว้กับทองคำอีกต่อหนึ่ง ในอัตรา 35 ดอลลาร์ต่อทองทำ 1 Troy Ounce นี่เป็นจุดกำหนดของระบบอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ (Fixed Exchange Rate System). ➼ ในปี 1973 ประธานาธิบดีนิกสันได้ประกาศยกเลิกการผูกค่าเงินดอลลาร์ไว้กับทองคำ อันเป็นจุดเริ่มต้นของระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัว (Flexible Exchange Rate System) โดยแม้ดอลลาร์จะไม่มีทองคำหนุนหลัง แต่ดอลลาร์ก็ยังคงเป็น reserve currency หลักของโลกมาตลอดมาตลอดเกือบ 80 ปี เพราะสภาพคล่องที่มีสูงมาก. ➼ สหรัฐถือเป็นประเทศที่ได้เปรียบทุกประเทศในการที่สามารถใช้เงินของตนทำธุรกรรมต่างประเทศได้ อย่างไรก็ดี ในระยะยาว ยังมีคำถามที่เกิดขึ้นคือ ดอลลาร์อาจสูญเสียความเป็น reserve currency หลักของ...