ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เอาชนะนิสัยเบี่ยงเบนความสนใจอย่างไร


เริ่มจากคำถามที่ให้เราลองคิดดูว่า "บ่อยแค่ไหน ที่คุณรู้สึกว่าเหนื่อยล้าและหมดแรงในการทำงาน แต่สิ่งที่แย่ไปกว่านั้นคือ เหมือนไม่มีงานใดที่คุณรู้สึกว่าทำสำเร็จในวันนั้น ?"

การที่คุณถูกทำให้ไขว้เขวเบี่ยงเบนความสนใจจากการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่ มันทำให้เรามักรู้สึกมีอะไรต่อมิอะไรมากมายที่ต้องทำซึ่งเรื่องดังกล่าวทำให้เราเหนื่อยล้า และมันจะยิ่งแย่มากขึ้นถ้าในวันนั้นเป็นวันที่ดูยุ่งเหยิงแต่คุณไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรสำเร็จเลยในวันนั้น  สิ่งนี้ทำให้คุณรู้สึกไม่พอใจและมักจะลดแรงจูงใจในการทำงานของคุณ

การไขว้เขวเบี่ยงเบนความสนใจ (Distraction) ถือ นิสัยด้านลบที่เป็นเหมือนแรงต้านที่ยิ่งใหญ่ที่ทำให้เราไม่สามารถทำงานที่สร้างความพอใจและมีความหมายให้กับตัวเรา

การทำงานอย่างแน่วแน่ (Deep Work) นิยามถึง ความสามารถในการสนใจในงานที่ต้องอาศัยการทำความเข้าใจ โดยปราศจากการไขว้เขวเบี่ยงเบนในเรื่องอื่น ซี่งผู้ที่สามารถทำงานได้อย่างแน่วแน่จะสามารถประมวลข้อมูลที่ซับซ้อนและสร้างผลลัพธ์ที่ดีได้โดยใช้เวลาที่น้อยกว่า

การทำงานในลักษณะดังกล่าวเปรียบเสมือนการที่คุณขี่จักรยาน ซึ่งเมื่อเริ่มขี่ คุณต้องต่อสู้กับแรงเสียดทานต่างๆ เพื่อให้จักรยานพุ่งไปข้างหน้าได้ แต่เมื่อจักรยานได้ออกตัวแล้ว แรงที่คุณใช้ในการขี่ให้ไปข้างหน้าจะเริ่มน้อยลง  อย่างไรก็ดีหากมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งทำให้คุณต้องเหยียบเบรกและต้องเริ่มขี่ใหม่ ความพยายามที่ใช้ในการเริ่มต้นใหม่ก็จะกลับมาเยอะเหมือนเดิม และนั่นทำให้คุณเหนื่อยล้ามากขึ้น

การทำงานของสมองเราก็เช่นกัน การที่เราถูกทำให้เบี่ยงเบนอยู่บ่อยครั้ง จะทำให้พลังสมองของเราต้องใช้ไปกับการเปลี่ยนเรื่องราวไปมา ซึ่งทำให้สมองอ่อนล้า

นอกจากนี้ การที่เรามีนิสัยเบี่ยงเบนเกิดขึ้นบ่อยครั้งมากขึ้น มันจะยิ่งทำให้เรามีความสนใจต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งสั้นลงไปเรื่อยๆ รวมถึงความอดทนของเราก็จะน้อยลงไปเรื่อยๆ เช่นกัน

ดังนั้น หนทางของการเพิ่มประสิทธิภาพอาจไม่ใช่ "การบริหารจัดการเวลา" ซะทีเดียว แต่เป็น "การบริหารจัดการความสนใจ" และป้องกันการเกิดนิสัยไขว้เขวเบี่ยงเบน

วิธีการจัดการดังกล่าวเริ่มจากการตระหนักว่าเรามีปัญหา เพราะคงเป็นเรื่องที่ยากในการปรับเปลี่ยนนิสัยหากเราไม่คิดว่าเรามีปัญหา โดยนิสัยมักจะถูกกระตุ้นโดยสิ่งชี้นำ ดังนั้นให้พยายามหมั่นสังเกตเพื่อดูความถี่และสิ่งชี้นำที่ชักนำความสนใจของเราไป ซึ่งเมื่อคุณทราบถึงสิ่งชี้นำแล้ว นั่นจะช่วยให้คุณหาวิธีเอาชนะได้ง่ายขึ้น

วิธีต่อมาคือการให้สิ่งต่างๆ ที่เราทำเป็นเรื่องที่ง่ายและทำได้เร็ว ซึ่งส่วนที่ยากที่สุดคือการเริ่มต้น เช่น หากคุณต้องการเขียนบทความที่มีความยาว 10 หน้ากระดาษ การเขียนบทความดังกล่าวจะมีความลำบากและอ่อนล้าเมื่อต้องคิดว่าต้องเริ่มเขียน และโอกาสที่คุณจะถูกทำให้เบี่ยงเบนความสนใจจะมีมากขึ้นเช่นกัน แต่หากคุณแบ่งงานดังกล่าวให้เล็กลงเพื่อให้ง่ายและทำได้เร็วขึ้น เช่น แบ่งเป็นบทหรือหัวข้อย่อยลงมา สิ่งนี้จะทำให้เราเริ่มต้นได้ง่ายขึ้น

นอกจากนั้น "การสร้างแรงเสียทาน" ก็เป็นอีกวิธีที่ป้องกันการไขว้เขวได้ โดยทำให้สิ่งชี้นำที่ทำให้เราเกิดการไขว้เขวมีแรงเสียดทานขึ้น ยกตัวอย่างวิธีนี้ เช่น หากคุณรู้ว่า email ในโทรศัพท์มือถือ คือสิ่งชี้นำที่ทำให้ไขว้เขว  คุณอาจเปลี่ยนตำแหน่งโปรแกรม email ที่เคยอยู่หน้าแรก โดยนำไปใส่ไว้ใน folder และอยู่หน้าหลังๆ ซึ่งทำให้การเช็ค email เกิดความยุ่งยากในการที่จะเปิด  การจัดการดังกล่าวจะช่วยลดการไขว้เขวของคุณเพราะคุณรู้สึกว่ามันมีแรงเสียดทาน หรือ มันไม่ง่ายนั่นเอง

ความไขว้เขวเบี่ยงเบนความสนใจทำให้เรารู้สึกเหนื่อยล้า ดูเหมือนทำอะไรไม่สำเร็จทั้งๆ ที่ความเป็นจริงเราจะมีความรู้สึกว่ายุ่งวุ่นวายตลอดทั้งวัน และเมื่อสิ่งนี้กลายเป็นนิสัย พวกเราไม่ได้ถูกทำให้เบี่ยงเบนโดยสิ่งภายนอกหรือคนอื่น แต่เราทำให้ถูกเบี่ยงเบนโดยตัวของเราเอง  เพื่อหลีกเลี่ยงความเหนื่อยล้า เราควรตระหนักถึงปัญหาและหาทางเอาชนะนิสัยดังกล่าว เพื่อให้การทำงานมีความเรียบร้อยและเกิดประสิทธิผล

(อ้างอิงจาก HBR : How to Overcome Your (Checks Email) Distraction Habit)

#HBR
#business #bus.guy

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กระตุ้นพฤติกรรม ด้วยโบนัสแบบ Spot (s.154)

  บริษัทจำนวนมาจะมีระบบการให้ผลตอบแทนที่เรียกว่า "โบนัส" ประจำปี  โดยอาจพิจารณาจากผลประกอบการของบริษัทร่วมกับผลงานของพนักงาน และโบนัสดังกล่าวมักอยู่ในรูปของเงินก้อนใหญ่เมื่อเปรียบกับเงินเดือนของพนักงานผู้นั้น ทำให้บริษัทต้องมีภาระทางการเงินเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาดังกล่าวที่มีการให้โบนัส  อย่างไรก็ดียังมีวิธีหนึ่งในการให้ผลตอบแทนพนักงานซึ่งเป็นการให้ที่ถี่กว่าและจำนวนเงินก้อนเล็กกว่าเมื่อเทียบกับโบนัสประจำปี ซึ่งอาจเรียกว่าโบนัสในลักษณะนี้ว่าเป็น Spot Bonus โดยทั่วไปนั้น Spot Bonus จะให้กับพนักงานหรือกลุ่มของพนักงานสำหรับพฤติรรม การกระทำ หรือผลลัพธ์ในเรื่องหนึ่งๆ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกระตุ้นผลงานและสร้างแรงจูงใจของพนักงานในการทำงาน โดยมักเกี่ยวข้องกับงานที่เป็นโครงการ หรือเป็นการให้เพื่อส่งเสริมการกระทำหรือพฤติกรรมบางอย่างที่บริษัทประสงค์จากตัวพนักงาน.  ประโยชน์การนำ Spot Bonus มาใช้ในองค์กรนั้นมีประเด็นที่น่าสนใจที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ ดังนี้ 1. Spot Bonus สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับพนักงานได้บ่อยครั้งขึ้น - แทนที่ต้องรอโบนัสในช่วงปลายปี การให้ Spot Bonus จะ...

หงส์ดำ แรดเทา ความเสี่ยง (s.257)

#busguy #ธุรกิจแบ่งปัน #business . สัตว์สองตัวที่มักถูกนำมาเรียกเปรียบเปรยในช่วงสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 นี้ได้แก่ หงส์ดำ (Back Swan) และ แรดเทา (Grey Rhino) ซึ่งมีนอกเหนือจากที่มีการเปรียบเปรยแล้ว ยังมีการถกเถียงกันถึงเรื่องว่าเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโควิดนี้ควรจัดเป็นเหตุการณ์ลักษณะของ หงส์ดำ หรือ แรดเทา กันแน่ โดยเหตุการณ์ทั้งสองถือเป็นสิ่งเราควรเรียนรู้ในเรื่องของการบริหารความเสี่ยง . เรื่องของ หงส์ดำ มีมาช้านานแล้ว โดยใช้เปรียบเปรยในลักษณะของเหตุการณ์ที่เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากในอดีตนั้น คนส่วนใหญ่จะคิดว่าหงส์จะต้องเป็นสีขาวเท่านั้น ดังนั้นหงส์ดำจึงเป็นสิ่งนอกความคิดหรือเป็นไปไม่ได้. อย่างไรก็ดี เมื่อต่อมาได้มีการค้นพบหงส์ดำเกิดขึ้นจริง การเปรียบเปรยหงส์ดำก็กลายเป็นการกล่าวถึงเหตุการณ์ที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้หรือไม่น่ามีทางเกิดขึ้น แต่สุดท้ายก็เป็นไปได้. ทั้งนี้เหตุการณ์ที่จะเป็นหงส์ดำต้องมีลักษณะ 1.เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดมาก่อน ข้อมูลในอดีตไม่มีการบ่งบอกที่จะเกิดเหตุการณ์นั้น 2. มีผลกระทบที่รุนแรง และ 3. เมื่อมันเกิดขึ้นจริง แล้วเรามองย้อนกลับไป ก็จะสามารถหาเหตุผลมาอธิบายการเกิดข...

Word of the Year 2022 (s.540)

  #จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy  ➼ Word of The Year ที่นำเสนอโดยสำนักพิมพ์ดิกชันนารีออกฟอร์ด ซึ่งได้ประกาศออกมาโดยการใช้วิธีการโหวตออนไลน์ ได้คำว่า "goblin mode" ซึ่งหมายถึงชนิดของพฤติกรรมที่ตามใจตนเอง ขี้เกียจ ดูสกปรก ไร้ระเบียบ มีลักษณะทั่วไปที่ปฏิเสธแบบแผนของสังคมซึ่งเป็นที่ยอมรับกัน. ➼ การตีความว่าคนอยู่ในโหมดของการเป็น goblin หมายถึงคนที่เลือกเองว่าจะอยู่ในโหมดของการเป็นคนสกปรก ขี้เกียจ ไม่สนใจสารรูปของตนเอง บริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และชอบอยู่ในบ้านไม่ออกไปข้างนอก. ➼ สำหรับสำนักพิมพ์ดิกชันนารี Merriam-Webster ได้เลือก Word of the Year คำว่า "gaslighting" ซึ่งหมายความถึงการพยายามทำให้บุคคลหนึ่งรู้สึกไม่มั่นคงและสั่นคลอนในความเชื่อของตน จนทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่เห็นหรือมีประสบการณ์มิได้เกิดขึ้นจริง. ซึ่งเพื่อประโยชน์ของตนเอง. ➼ สำนักพิมพ์ดิกชันนารี Collins เลือก "permacrisis" ซึ่งแปลว่าวิกฤตที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและคงทน เพื่อเล่าสถานการณ์ของโลกปัจจุบันที่คาดเดาได้ยาก เกิดความไม่มั่นคงในหลายด้าน บรรยากาศเต็มไปด้วยความวุ่นวาย. อ้างอิง: ...