ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

5 หลุมพรางทางความคิด โลกหลังโควิค (s.30)


บทความจาก ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ จากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ "TDRI" เป็นบทความที่น่าสนใจและให้ประโยชน์ในการตีโจทย์ประเด็นความคิดของเราที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของ New Normal หลังการคลาย Lockdown หรือหลังจากโควิค ซึ่งมักมีหลุมพรางในความคิดความเชื่ออย่างน้อย 5 ข้อ ดังนี้

1. การไม่แยกแยะ “ความผิดปกติปัจจุบัน” (current abnormal) ในช่วงที่โควิด-19 ระบาด เช่น การรักษาระยะห่างทางสังคม กับ “ความปกติใหม่” (new normal) ใน “โลกหลังโควิด-19” เช่นการประชุมผ่านระบบออนไลน์ที่น่าจะเพิ่มขึ้นในอนาคต - ซึ่งคนทั่วไปอาจมีความเข้าใจผิดว่าพฤติกรรมที่ผิดปกติในช่วงปัจจุบันจะดำรงต่อเนื่องไปในอนาคต แต่มีหลักฐานในอดีตหลายเรื่องที่พบว่าหลายกรณีพฤติกรรมส่วนใหญ่ในช่วงผิดปกติจะหายไปอย่างรวดเร็วเมื่อเหตุการณ์กลับมาเป็นปกติ เช่น การพูดว่าเมืองหลังโควิค ผู้คนจะนิยมในบ้านเดี่ยวเพิ่มมากขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นความผิดปกติในปัจจุบันมากกว่าการที่จะเป็นความผิดปกติใหม่. โดยหากเปรียบเทียบกับกรณีน้ำท่วมใหญ่ ซึ่งมีการพูดถึงในสังคมกันอย่างมากว่าบ้านแถวปทุมธานีจะขายไม่ได้เพราะคนกลัวน้ำท่วม แต่หลังจากระยะเวลาผ่านไประยะหนึ่ง ประชาชนก็กลับมาซื้อบ้านในแถบปทุมธานีเช่นเดิม เป็นต้น.

2. ตั้งเป้าหมาย “ความปกติใหม่” ในลักษณะที่อุดมคติมาก โดยไม่ได้คิดถึงต้นทุนที่จะเกิดขึ้นในการปรับตัวไปสู่ “ความปกติใหม่” นั้น - เช่น ข้อเสนอให้ประเทศไทยพึ่งตนเองมากขึ้นในด้านต่างๆ ทั้งด้านยา เครื่องมือแพทย์ เป็นต้น หรือ การให้รัฐจัดสรรรายได้พื้นฐานอย่างทั่วถึงให้แก่ประชาชน ซึ่งเรื่องดังกล่าวมีต้นทุนที่สูงมากและไม่สามารถทำได้ง่ายด้วยข้อจำกัดฐานะการคลังของประเทศไทย.

3. การไม่คำนึงถึงเส้นทางการพัฒนาประเทศในช่วงที่ผ่านมา - เช่น การที่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ลงทุนไปอย่างมากกับโครงสร้างต่างๆ เช่น การสร้างโรงแรมเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนหลายสิบล้านคนในแต่ละปี ซึ่งการจะเปลี่ยนไปเน้น "การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ" โดยมีนักท่องเที่ยวจำนวนน้อยแต่มีคุณภาพมากขึ้น จะทำให้เกิดประเด็นของสินทรัพย์ที่ลงทุนไปมหาศาลเหล่านั้นจะเปลี่ยนไปทำอะไรเพื่อให้เกิดประโยชน์หรือเพื่อไม่ให้เกิดความสูญเปล่า.

4. การไม่คำนึงถึงบริบทใหม่ (new context) ในเศรษฐกิจการเมืองโลกอย่างเพียงพอ - ทั้งนี้ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดเล็กแบบเปิด ซึ่งมีการพึ่งพาเศรษฐกิจโลกในระดับที่สูง การกำหนดยุทธศาสตร์ในการัพฒนาจึงต้องเข้าใจบริบทของโลกดังกล่าวเช่นกัน เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดในการวางแผนพัฒนาโดยไม่พิจารณาสภาพที่เป็นอยู่อย่างถ่องแท้

5. การไม่ระบุข้อสมมติที่สำคัญต่างๆ อย่างชัดเจน - ทำให้เรื่องต่างๆ ที่คุยหรืออภิปรายกันไม่ทราบว่ามีการใช้ข้อเท็จจริงใดหรือสมมุติฐานใดเป็นพื้นฐาน หรือไม่ทราบว่าจะใช้ข้อสรุปและข้อเสนอเหล่านั้นได้มากเพียงใดหรือมีข้อจำกัดอย่างไร.

ทั้งนี้ การถกเถียงเพื่อหาทางออกและร่วมกันในการออกแบบการพัฒนาของประเทศเป็นสิ่งที่ดี. ซึ่งสิ่งที่ได้รับจากบทความนี้จะช่วยให้เราได้กลับมาฉุกคิดและไม่ถลำเข้าไปในความคิดที่มีอคติอันจะทำให้เกิดการวางแผนตัดสินใจที่ผิดพลาดได้.

#busguy
#ธุรกิจแบ่งปัน #business

สรุปจาก "5 คำถามและ 4 โจทย์ว่าด้วยการสนทนาเรื่อง “ความปกติใหม่” ใน “โลกหลังโควิด”" โดย ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ (https://tdri.or.th/2020/04/new-normal-in-post-covid-world/)

s.30 3-May-20


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กระตุ้นพฤติกรรม ด้วยโบนัสแบบ Spot (s.154)

  บริษัทจำนวนมาจะมีระบบการให้ผลตอบแทนที่เรียกว่า "โบนัส" ประจำปี  โดยอาจพิจารณาจากผลประกอบการของบริษัทร่วมกับผลงานของพนักงาน และโบนัสดังกล่าวมักอยู่ในรูปของเงินก้อนใหญ่เมื่อเปรียบกับเงินเดือนของพนักงานผู้นั้น ทำให้บริษัทต้องมีภาระทางการเงินเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาดังกล่าวที่มีการให้โบนัส  อย่างไรก็ดียังมีวิธีหนึ่งในการให้ผลตอบแทนพนักงานซึ่งเป็นการให้ที่ถี่กว่าและจำนวนเงินก้อนเล็กกว่าเมื่อเทียบกับโบนัสประจำปี ซึ่งอาจเรียกว่าโบนัสในลักษณะนี้ว่าเป็น Spot Bonus โดยทั่วไปนั้น Spot Bonus จะให้กับพนักงานหรือกลุ่มของพนักงานสำหรับพฤติรรม การกระทำ หรือผลลัพธ์ในเรื่องหนึ่งๆ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกระตุ้นผลงานและสร้างแรงจูงใจของพนักงานในการทำงาน โดยมักเกี่ยวข้องกับงานที่เป็นโครงการ หรือเป็นการให้เพื่อส่งเสริมการกระทำหรือพฤติกรรมบางอย่างที่บริษัทประสงค์จากตัวพนักงาน.  ประโยชน์การนำ Spot Bonus มาใช้ในองค์กรนั้นมีประเด็นที่น่าสนใจที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ ดังนี้ 1. Spot Bonus สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับพนักงานได้บ่อยครั้งขึ้น - แทนที่ต้องรอโบนัสในช่วงปลายปี การให้ Spot Bonus จะ...

Word of the Year 2022 (s.540)

  #จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy  ➼ Word of The Year ที่นำเสนอโดยสำนักพิมพ์ดิกชันนารีออกฟอร์ด ซึ่งได้ประกาศออกมาโดยการใช้วิธีการโหวตออนไลน์ ได้คำว่า "goblin mode" ซึ่งหมายถึงชนิดของพฤติกรรมที่ตามใจตนเอง ขี้เกียจ ดูสกปรก ไร้ระเบียบ มีลักษณะทั่วไปที่ปฏิเสธแบบแผนของสังคมซึ่งเป็นที่ยอมรับกัน. ➼ การตีความว่าคนอยู่ในโหมดของการเป็น goblin หมายถึงคนที่เลือกเองว่าจะอยู่ในโหมดของการเป็นคนสกปรก ขี้เกียจ ไม่สนใจสารรูปของตนเอง บริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และชอบอยู่ในบ้านไม่ออกไปข้างนอก. ➼ สำหรับสำนักพิมพ์ดิกชันนารี Merriam-Webster ได้เลือก Word of the Year คำว่า "gaslighting" ซึ่งหมายความถึงการพยายามทำให้บุคคลหนึ่งรู้สึกไม่มั่นคงและสั่นคลอนในความเชื่อของตน จนทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่เห็นหรือมีประสบการณ์มิได้เกิดขึ้นจริง. ซึ่งเพื่อประโยชน์ของตนเอง. ➼ สำนักพิมพ์ดิกชันนารี Collins เลือก "permacrisis" ซึ่งแปลว่าวิกฤตที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและคงทน เพื่อเล่าสถานการณ์ของโลกปัจจุบันที่คาดเดาได้ยาก เกิดความไม่มั่นคงในหลายด้าน บรรยากาศเต็มไปด้วยความวุ่นวาย. อ้างอิง: ...

Reserve Currency (s.538)

  #จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy  ➼ Reserve Currency คือ เงินตราต่างประเทศที่ธนาคารกลางและสถาบันการเงินใหญ่ๆ ในโลกถือไว้เป็นจำนวนมาก เพื่อใช้ในการค้า การลงทุนและการชำระหนี้ระหว่างประเทศ. ➼ ตั้งแต่ปี 1944 มี 44 ประเทศได้ตกลงกันที่เมือง Bretton Woods ที่จะให้ดอลลาร์เป็นเงินตราที่จะใช้ในธุรกรรมระหว่างประเทศ โดยประเทศต่างๆ จะผูกค่าเงินของตนไว้กับดอลลาร์ และดอลลาร์ก็จะผูกไว้กับทองคำอีกต่อหนึ่ง ในอัตรา 35 ดอลลาร์ต่อทองทำ 1 Troy Ounce นี่เป็นจุดกำหนดของระบบอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ (Fixed Exchange Rate System). ➼ ในปี 1973 ประธานาธิบดีนิกสันได้ประกาศยกเลิกการผูกค่าเงินดอลลาร์ไว้กับทองคำ อันเป็นจุดเริ่มต้นของระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัว (Flexible Exchange Rate System) โดยแม้ดอลลาร์จะไม่มีทองคำหนุนหลัง แต่ดอลลาร์ก็ยังคงเป็น reserve currency หลักของโลกมาตลอดมาตลอดเกือบ 80 ปี เพราะสภาพคล่องที่มีสูงมาก. ➼ สหรัฐถือเป็นประเทศที่ได้เปรียบทุกประเทศในการที่สามารถใช้เงินของตนทำธุรกรรมต่างประเทศได้ อย่างไรก็ดี ในระยะยาว ยังมีคำถามที่เกิดขึ้นคือ ดอลลาร์อาจสูญเสียความเป็น reserve currency หลักของ...