ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ทำการสำรวจในโครงการ Business Liason Program เกี่ยวกับความคิดเห็นของผู้ประกอบการแต่ละอุตสาหกรรมทั่วประเทศในช่วงที่ผ่านมา โดยมีประเด็นที่น่าสนใจ คือ
ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว
- ธุรกิจท่องเที่ยวส่วนใหญ่ปรับตัวได้ค่อนข้างยาก โดยคาดว่าการท่องเที่ยวจะกลับมาเร็วสุดประมาณไตรมาส 4 ปี 2653 แต่อาจต้องใช้ระยะเวลา 1-2 ปี กว่าจะกลับมาสู่ภาวะเดิมก่อนวิกฤต
- ในส่วนสายการบินมีการเลิกจ้างพนักงานเป็นจำนวนมาก บางสายการบินใช้ช่วงที่หยุดบินมาปรับปรุงและซ่อมแซมเครื่องบิน. โดยในระยะข้างหน้าคาดว่าความต้องการเครื่องบินขนาดเล็กและแคบลงจะมีมากขึ้น
- ร้านอาหาร โรงแรมและธุรกิจในเครือพันธมิตรของจีน จะมีการใช้พนักงานร่วมกันมากขึ้น โดยมีพนักงานในส่วนกลางเพื่อให้สามารถยืมตัวกันได้ในช่วงเร่งด่วน
ธุรกิจค้าปลีก
- มีการขายออนไลน์บน Platform และ Social Media มากขึ้น รวมถึงทำ Content Marketing เพื่อส่งเสริมการขาย
- ร้านค้าปรับมาขายสินค้าที่มีความต้องการมากขึ้น เช่น เจลล้างมือ หน้ากาก รวมถึงให้บริการส่งสินค้า หรือ มารับสินค้าแบบ Drive Through มากขึ้น
- ธุรกิจค้าปลีกคาดว่าจะกลับมาได้อย่างเร็วในไตรมาส 4 ปี 2653 โดยจะเห็นผู้บริโภคออกมาทำกิจกรรมนอกบ้าน และจับจ่ายอย่างไร้กังวล
- การลงทุนเพื่อเปิดสาขาในเมืองหลักมีแนวโน้มลดลง
- ทั้งนี้ ตัวอย่างในประเทศจีนได้มีการพัฒนาระบบ Digital technology เพื่อช่วยวางระบบออนไลน์ให้กับร้านค้าผ่าน Application นอกจากนี้ยังมีการให้พนักงานขายประจำห้างสรรพสินค้ามาขายในออนไลน์ผ่าน Platform เช่น WeChat
อุตสาหกรรมการผลิต
- ธุรกิจการผลิตมีการหยุดเกือบทั้งหมดในช่วง lockdown จากปัญหาของ Supply Chain
- ธุรกิจการผลิตบางรายมีการปรับเปลี่ยนไลน์การผลิตมาผลิตสินค้าที่จำเป็น เช่น ธุรกิจผู้ผลิตรถยนต์บางรายปรับสายการผลิตเป็นทำเตียงเคลื่อนย้ายผู้ป่วย หรือ ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์มาผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ เป็นต้น
- การผลิตคาดว่าจะกลับมาดีขึ้น เมื่อประเทศต่างๆ เริ่มผ่อนคลายการ lockdown และคาดว่าจะกลับมาเป็นปกติในช่วงไตรมาส 4 ปี 2563
- ทั้งนี้ อนาคตการผลิตจะเริ่มมีการกระจายความเสี่ยงมากขึ้น เช่น การหาวัตถุดิบหรือการตั้งโรงงานในหลายแห่ง รวมถึงการลงทุนใน Digital Platform และ Automation มากขึ้น
- ตัวอย่างในประเทศจีน เช่น ผู้ผลิตอาหารเน้นการขายหน้าร้านเล็กๆ และขายออนไลน์มากขึ้น รวมถึงมีการเปลี่ยนช่องทางการขายได้ตลอด ทำให้ผู้จัดส่งวัตถุดิบและสินค้ามีความยืดหยุ่นมากขึ้น. ในขณะตัวอย่างในสหรัฐอเมริกาและญุี่ปุ่น ผู้ประกอบการมีการจัดหารแหล่งวัตถุดิบแหล่งอื่นเพิ่มเติม เน้นทำการตลาดออนไลน์โดยเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพ
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
- ผู้ประกอบการมีการจัดโปรโมชั่นที่แรงขึ้นเพื่อระบายสต็อก ในขณะโครงการใหม่มีการชะลอการเปิดตัว
- ปัจจุบันมีความกังวลเรื่อง Oversupply ของอสังหาริมทรัพย์ แต่ความกังวลดังกล่าวน่าจะดีขึ้นภายหลังจากสถานการณ์ระบาดดีขึ้น
- ตัวอย่างในจีนและสหรัฐอเมริกา พบว่ามีการปรับตัวโดยการเน้นการขายตลาดออนไลน์มากขึ้น ทั้งแบบ Live และพัฒนาระบบขายแบบ Online Booking
#busguy
#ธุรกิจแบ่งปัน #business
สรุปจาก หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ 8 พฤษภาคม 2563
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น