สิ่งที่พบเห็นและมีความเชื่อโดยทั่วไปของลักษณะการทำงานในปัจจุบัน คือ การย้ายที่ทำงานถือเป็นเรื่องปกติของคนทำงานในประเทศสหรัฐอเมริกา ในขณะที่ความสัมพันธ์ระยะยาวระหว่างนายจ้างและพนักงานเป็นเรื่องยากที่จะสร้างมันขึ้นมา.
อย่างไรก็ดี จากข้อมูลสถิติกลับพบว่าคนทำงานในปัจจุบันมีการย้ายที่ทำงานน้อยกว่าที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ 30 ปีที่แล้ว. ประเด็นที่น่าคิด คือ ทำไมคนทั่วไปถึงมีความรับรู้ในเรื่องของการย้ายงานว่ามีมากขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวสามารถอธิบายได้ ดังนี้คือ
1. กลุ่มคนทำงานที่เป็นผู้ชาย ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่เห็นชัดได้เจนในสังคม มีระยะเวลาในการทำงานกับนายจ้างที่หนึ่งๆ เป็นระยะเวลาที่น้อยลง โดยในช่วงปี 1980s กลุ่มผู้ชายอายุ 40-64 ปี มีถึง 32% ที่ทำงานกับบริษัทใดบริษัทหนึ่งเป็นระยะเวลายาวนานถึง 20 ปี ในขณะที่เมื่อเทียบกับปัจจุบัน ตัวเลขดังกล่าวลดลงเหลือ 21% ซึ่งการลดลงสามารถอธิบายจากตัวเลขที่ลดลงของพนักงานในภาคอุตสาหกรรม และการลดลงของสหภาพแรงงานในอเมริกา.
2. สาเหตุอีกอย่างที่อธิบายถึงความเชื่อของคนทั่วไปว่าพนักงานมีการเปลี่ยนงานบ่อย คือ ภาพที่มองจากสังคมสำหรับกลุ่มคนทำงานที่อยู่ในช่วงอายุ millennials ว่าเป็นพวกที่เปลี่ยนงานบ่อย ซึ่งผลการศึกษาในปัจจุบันได้ปฏิเสธความเชื่อดังกล่าว แต่สำหรับคนทั่วไปแล้ว ยากที่จะเปลี่ยนแปลงความเชื่อนั้น.
3. การลาออกโดยสมัครใจต่ำกว่าในช่วงปี 1980s และ 1990s อย่างไรก็ดี ตัวเลขในปัจจุบันกลับเพิ่มสูงมากที่สุดในรอบ 15 ปี. ส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยที่นายจ้างยินดีที่จะเสนอโอกาสผลตอบแทนที่พิเศษกว่าปกติสำหรับการให้พนักงานย้ายมาทำงานที่บริษัท เนื่องจากอัตราการว่างงานที่ต่ำ การหาพนักงานที่มีทักษะที่ต้องการจึงเป็นเรื่องที่ยาก. ทั้งนี้อุตสาหกรรมที่เห็นได้ชัดเจน คือ กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยี กลุ่มธุรกิจที่ปรึกษา และกลุ่มธุรกิจการเงิน ที่ซึ่งมีการแย่งตัวพนักงานที่มีทักษะสูงกันอย่างรุนแรง.
ดังนั้นขณะที่การโยกย้ายงานยังไม่ถือเป็นเรื่องปกติดังที่คนทั่วไปคิด แต่แนวโน้มที่เกิดขึ้นเป็นสัญญาณให้กับนายจ้างที่จะต้องเตรียมตัวสำหรับการที่การโยกย้ายงานอาจเป็นเรื่องปกติใหม่ (new normal) ในอนาคตมากขึ้น
ผู้นำในธุรกิจควรเตรียมตัวอย่างไร ?
- ผู้นำธุรกิจควรปรับเปลี่ยนมุมมองสำหรับการรับสมัครงานเพื่อให้ครอบคลุมถึงกลุ่มคนทำงานผู้หญิงมากขึ้น เนื่องจากกลุ่มผู้หญิงทำงานมีแนวโน้มที่จะทำงานที่ใดที่หนึ่งเป็นระยะเวลาที่นาน ซึ่งจากสถิติพบกว่าผู้หญิงอายุ 40-64 ปี มีจำนวนสัดส่วนที่สูงขึ้นในปัจจุบันสำหรับการทำงานกับบริษัทใดบริษัทหนึ่งเป็นระยะเวลา 20 ปีขึ้นไป เมื่อเทียบในช่วงปี 1980s.
- ชาวอเมริการมีการย้ายถิ่นในปัจจุบันน้อยกว่าในอดีตอย่างมีนัยสำคัญ โดยข้อมูลในปี 2019 เป็นครั้งแรกนับจากที่มีการรวบรวมข้อมูลเมื่อ 70 ที่แล้วพบกว่าประชากรจำนวนน้อยกว่า 10% มีการย้ายถิ่น และสำหรับกลุ่มที่ย้ายถิ่น มีเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่ย้ายระหว่างรัฐ หรือ ระหว่างมณฑลในรัฐ (counties within states). ซึ่งแนวโน้มนี้บ่งชี้ได้ว่ากลุ่มคนที่หางาน รวมถึงกลุ่มคน millennials มีความภักดีต่อบริษัท. ดังนั้นนายจ้างที่ยินดีที่จะรับฟังพนักงานและเสนอสิ่งที่พนักงานต้องการจะเป็นโอกาสในการช่วยเพิ่มอัตราการรักษาพนักงานเอาไว้ได้.
- นายจ้างสามารถพิจารณาถึงอัตราการให้ผลตอบแทน โดยไม่ควรยึดติดแค่เพียงว่าเป็นธรรมเนียมปฏิบัติในอุตสาหกรรม. ในทางกลับกัน นายจ้างควรพิจารณาให้ผลตอบแทนโดยดูจากคุณค่าของตำแหน่งงานที่มีให้ต่อองค์กร.
- ไม่ยึดติดกับความเชื่อทั่วไปที่ว่ากลุ่ม millennial เป็นพวกเปลี่ยนงานไปมาได้ง่าย และผู้นำไม่ควรล้มเลิกความพยายามในการรักษาพนักงานแม้ในปัจจุบันยังดูเหมือนไม่ประสบความสำเร็จ. การจัดการดังกล่าวเป็นการบริหารจัดการระยะยาวไม่ใช่ระยะสั้น และกลุ่มพนักงานที่ย้ายงานออกไป อาจเป็นจุดเริ่มที่ดีที่จะเปลี่ยนแนวทางการรับพนักงานใหม่ขององค์กร เพื่อรักษาคนเหล่านั้นให้ทำงานกับบริษัทยาวนานขึ้นไป.
#busguy
#ธุรกิจแบ่งปัน #business
สรุปจาก "Your Employees Are More Loyal Than You Think" by Atta Tarki, Arvid Malm
s.31 5-May-20
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น