ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ความสัมพันธ์ กับ การพูดและการการกระทำ (s.364)

 

 

#จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy 

Do:Say Ratio แปลได้ว่าอัตราส่วนการกระทำต่อการพูด ถ้าแปลแบบง่ายๆ ก็คือได้ทำตามที่พูดหรือรับปากหรือไม่. ทั้งนี้ Do:Say Ratio ที่เหมาะสมที่สุดควรจะเป็น 1:1 หรือทำเท่ากับที่พูด โดยอัตราส่วนนี้มีผลต่อทั้ง (i) แต่ละบุคคล (ii) ต่อความสัมพันธ์กับบุคคลรอบข้าง และ (iii) ต่อความสำเร็จกับองค์กร

➼ หากเราลองสังเกตตัว Do:Say Ratio ของตนเอง (โดยเฉพาะเกี่ยวกับ New Year Resolution) จะพบว่าคนส่วนใหญ่ก็มักจะต่ำกว่า 1.0 และอาจต่ำกว่า 0.5 สำหรับคนจำนวนมาก 

➼ ทั้งนี้ผลกระทบของการที่ Do:Say Ratio ลดต่ำกว่า 1.0 ระหว่าง (1) กรณีการตั้งใจจะทำแล้วไม่ได้ทำ กับ (2) การรับปากผู้อื่นแล้วไม่ได้ทำนั้น แตกต่างกันอย่างมาก โดยในกรณีแรกก็เพียงแค่สูญเสียโอกาส ไม่ได้ทำตามแผนหรือสิ่งที่ตั้งใจไว้ แต่ในกรณีหลังนั้นจะนำไปสู่ภาพลักษณ์ ความน่าเชื่อถือในสายตาของคนรอบข้างที่จะสูญเสียไป. ทั้งนี้ตัว Do:Say Ratio เป็นตัวที่บอกได้เลยว่าบุคคลนั้นมีความน่าเชื่อถือและสามารถไว้วางใจได้มากน้อยเพียงใด

➼ ในเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลหรือการทำงานร่วมกัน ถ้า Do:Say Ratio ของใครที่ต่ำมากๆ ก็แสดงว่าเป็นพวกที่พูดไว้ก่อน รับปากไว้ก่อน แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถทำตามที่รับปากหรือพูดไว้ได้ ผลคือความน่าเชื่อที่บุคคลรอบข้างมีต่อบุคคลผู้นั้นจะลดลงอย่างมาก รวมทั้งการขาดความไว้วางใจเมื่อต้องปฏิสัมพันธ์หรือทำงานร่วมกัน

➼ นอกจากนี้ Do:Say Ratio ยิ่งมีความสำคัญในระดับองค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่องค์กรไม่ได้เพียงแต่รับผิดชอบต่อลูกค้าและผู้ถือหุ้นเท่านั้น แต่ยังต้องรับผิดชอบต่อทั้งพนักงาน สังคม ชุมชน และผู้มีส่วนได้เสียด้วย

อ้างอิง: "Do : Say Ratio อัตราส่วน การทำต่อการพูด" พสุ เดชะรินทร์, กรุงเทพธุรกิจ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กระตุ้นพฤติกรรม ด้วยโบนัสแบบ Spot (s.154)

  บริษัทจำนวนมาจะมีระบบการให้ผลตอบแทนที่เรียกว่า "โบนัส" ประจำปี  โดยอาจพิจารณาจากผลประกอบการของบริษัทร่วมกับผลงานของพนักงาน และโบนัสดังกล่าวมักอยู่ในรูปของเงินก้อนใหญ่เมื่อเปรียบกับเงินเดือนของพนักงานผู้นั้น ทำให้บริษัทต้องมีภาระทางการเงินเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาดังกล่าวที่มีการให้โบนัส  อย่างไรก็ดียังมีวิธีหนึ่งในการให้ผลตอบแทนพนักงานซึ่งเป็นการให้ที่ถี่กว่าและจำนวนเงินก้อนเล็กกว่าเมื่อเทียบกับโบนัสประจำปี ซึ่งอาจเรียกว่าโบนัสในลักษณะนี้ว่าเป็น Spot Bonus โดยทั่วไปนั้น Spot Bonus จะให้กับพนักงานหรือกลุ่มของพนักงานสำหรับพฤติรรม การกระทำ หรือผลลัพธ์ในเรื่องหนึ่งๆ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกระตุ้นผลงานและสร้างแรงจูงใจของพนักงานในการทำงาน โดยมักเกี่ยวข้องกับงานที่เป็นโครงการ หรือเป็นการให้เพื่อส่งเสริมการกระทำหรือพฤติกรรมบางอย่างที่บริษัทประสงค์จากตัวพนักงาน.  ประโยชน์การนำ Spot Bonus มาใช้ในองค์กรนั้นมีประเด็นที่น่าสนใจที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ ดังนี้ 1. Spot Bonus สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับพนักงานได้บ่อยครั้งขึ้น - แทนที่ต้องรอโบนัสในช่วงปลายปี การให้ Spot Bonus จะ...

Word of the Year 2022 (s.540)

  #จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy  ➼ Word of The Year ที่นำเสนอโดยสำนักพิมพ์ดิกชันนารีออกฟอร์ด ซึ่งได้ประกาศออกมาโดยการใช้วิธีการโหวตออนไลน์ ได้คำว่า "goblin mode" ซึ่งหมายถึงชนิดของพฤติกรรมที่ตามใจตนเอง ขี้เกียจ ดูสกปรก ไร้ระเบียบ มีลักษณะทั่วไปที่ปฏิเสธแบบแผนของสังคมซึ่งเป็นที่ยอมรับกัน. ➼ การตีความว่าคนอยู่ในโหมดของการเป็น goblin หมายถึงคนที่เลือกเองว่าจะอยู่ในโหมดของการเป็นคนสกปรก ขี้เกียจ ไม่สนใจสารรูปของตนเอง บริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และชอบอยู่ในบ้านไม่ออกไปข้างนอก. ➼ สำหรับสำนักพิมพ์ดิกชันนารี Merriam-Webster ได้เลือก Word of the Year คำว่า "gaslighting" ซึ่งหมายความถึงการพยายามทำให้บุคคลหนึ่งรู้สึกไม่มั่นคงและสั่นคลอนในความเชื่อของตน จนทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่เห็นหรือมีประสบการณ์มิได้เกิดขึ้นจริง. ซึ่งเพื่อประโยชน์ของตนเอง. ➼ สำนักพิมพ์ดิกชันนารี Collins เลือก "permacrisis" ซึ่งแปลว่าวิกฤตที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและคงทน เพื่อเล่าสถานการณ์ของโลกปัจจุบันที่คาดเดาได้ยาก เกิดความไม่มั่นคงในหลายด้าน บรรยากาศเต็มไปด้วยความวุ่นวาย. อ้างอิง: ...

Reserve Currency (s.538)

  #จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy  ➼ Reserve Currency คือ เงินตราต่างประเทศที่ธนาคารกลางและสถาบันการเงินใหญ่ๆ ในโลกถือไว้เป็นจำนวนมาก เพื่อใช้ในการค้า การลงทุนและการชำระหนี้ระหว่างประเทศ. ➼ ตั้งแต่ปี 1944 มี 44 ประเทศได้ตกลงกันที่เมือง Bretton Woods ที่จะให้ดอลลาร์เป็นเงินตราที่จะใช้ในธุรกรรมระหว่างประเทศ โดยประเทศต่างๆ จะผูกค่าเงินของตนไว้กับดอลลาร์ และดอลลาร์ก็จะผูกไว้กับทองคำอีกต่อหนึ่ง ในอัตรา 35 ดอลลาร์ต่อทองทำ 1 Troy Ounce นี่เป็นจุดกำหนดของระบบอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ (Fixed Exchange Rate System). ➼ ในปี 1973 ประธานาธิบดีนิกสันได้ประกาศยกเลิกการผูกค่าเงินดอลลาร์ไว้กับทองคำ อันเป็นจุดเริ่มต้นของระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัว (Flexible Exchange Rate System) โดยแม้ดอลลาร์จะไม่มีทองคำหนุนหลัง แต่ดอลลาร์ก็ยังคงเป็น reserve currency หลักของโลกมาตลอดมาตลอดเกือบ 80 ปี เพราะสภาพคล่องที่มีสูงมาก. ➼ สหรัฐถือเป็นประเทศที่ได้เปรียบทุกประเทศในการที่สามารถใช้เงินของตนทำธุรกรรมต่างประเทศได้ อย่างไรก็ดี ในระยะยาว ยังมีคำถามที่เกิดขึ้นคือ ดอลลาร์อาจสูญเสียความเป็น reserve currency หลักของ...