ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

คนไทย กับ การบริจาค (s.270)



#busguy #จดมาสรุปให้ฟัง #ธุรกิจแบ่งปัน

.

มีดัชนีของมูลนิธิช่วยเหลือการกุศล (Charity Aid Foundation: CAF) ได้แสดงดัชนีที่เกี่ยวข้องกับการบริจาคโดยจัดประเทศไทยให้อยู่ในกลุ่ม 10 ประเทศต้นๆ ที่มีการบริจาคเงินสูงสุด. โดยเป็นการวัดการบริจาคทั่วโลกด้วยตัวชี้วัด 3 ตัว ได้แก่ (1) การให้ความช่วยเหลือคนแปลกหน้า (2) การบริจาคเงินเพื่อสาธารณประโยชน์ และ (3) การให้เวลากับการอาสาสมัคร.

.

สำหรับคนไทยแล้ว การบริจาคเงินจะเป็นสัดส่วนที่มากเมื่อเทียบกับการบริจาคแรง นอกจากนี้ในส่วนของการช่วยเหลือคนแปลกหน้า และ เรื่องของอาสาสมัคร ดัชนีของคนไทยในส่วนดังกล่าวจะอยู่ในระดับต่ำมาอย่างต่อเนื่อง. โดยข้อมูลจากการสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมประจำปี ในช่วง 2554-2559 พบว่ามูลค่าบริจาคของครัวเรือนเพิ่มจาก 65,980 ลบ. เป็น 88,416 ลบ. ซึ่งสูงกว่างบประมาณของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่งคงของมนุษย์ในปีเดียวกัน ซึ่งมีงบประมาณเพียง 10,379 ลบ. 

.

จากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติในปี 2554 พบว่าคนประมาณ 93% บริจาคเงินเพื่อกิจกรรมทางด้านศาสนา แต่การบริจาคในรูปแบบการให้เงินหรือสิ่งของกับคนนอกครัวเรือน และ การบริจาคให้กับองค์กรการกุศลจัดอยู่ในลำดับที่ต่ำกว่ามาก. โดยการบริจาคในรูปแบบที่เป็นทางการ หรือการบริจาคให้กับองค์กรการกุศล มูลนิธิและองค์กรไม่แสวงหากำไรกลับได้รับบริจาคเพียง 17.8% ของกลุ่มครัวเรือนตัวอย่าง.

.

ทั้งนี้วัฒนธรรมการบริจาคเพื่อการกุศลของคนไทย มักเน้นแต่เรื่องของศาสนาและการศึกษา ซึ่งมุ่งเน้นในเรื่องของการทำความดีแทนที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่ออนาคต นอกจากนี้ยังมีปัจจัยของการลดหย่อนภาษีซึ่งทำให้เกิดแรงจูงใจในการบริจาคดังกล่าว. อย่างไรก็ดี แนวโน้มของคนรุ่นใหม่จะเน้นเป็นการบริจาคให้แก่องค์กรที่ทำงานให้สังคมดีขึ้น เช่น การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การพัฒนาเด็กและเยาวชน ซึ่งการขับเคลื่อนดังกล่าวควรมีการส่งเสริมด้วยมาตรการทางภาษีให้ขึ้นอันจะช่วยส่งเสริมการพัฒนาทางสังคมได้อีกทางหนึ่ง

.

🙏🙏

อ้างอิง: 'การบริจาคเพื่ออนาคต' โรซาเลีย ซิออติโน กรุงเทพธุรกิจ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กระตุ้นพฤติกรรม ด้วยโบนัสแบบ Spot (s.154)

  บริษัทจำนวนมาจะมีระบบการให้ผลตอบแทนที่เรียกว่า "โบนัส" ประจำปี  โดยอาจพิจารณาจากผลประกอบการของบริษัทร่วมกับผลงานของพนักงาน และโบนัสดังกล่าวมักอยู่ในรูปของเงินก้อนใหญ่เมื่อเปรียบกับเงินเดือนของพนักงานผู้นั้น ทำให้บริษัทต้องมีภาระทางการเงินเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาดังกล่าวที่มีการให้โบนัส  อย่างไรก็ดียังมีวิธีหนึ่งในการให้ผลตอบแทนพนักงานซึ่งเป็นการให้ที่ถี่กว่าและจำนวนเงินก้อนเล็กกว่าเมื่อเทียบกับโบนัสประจำปี ซึ่งอาจเรียกว่าโบนัสในลักษณะนี้ว่าเป็น Spot Bonus โดยทั่วไปนั้น Spot Bonus จะให้กับพนักงานหรือกลุ่มของพนักงานสำหรับพฤติรรม การกระทำ หรือผลลัพธ์ในเรื่องหนึ่งๆ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกระตุ้นผลงานและสร้างแรงจูงใจของพนักงานในการทำงาน โดยมักเกี่ยวข้องกับงานที่เป็นโครงการ หรือเป็นการให้เพื่อส่งเสริมการกระทำหรือพฤติกรรมบางอย่างที่บริษัทประสงค์จากตัวพนักงาน.  ประโยชน์การนำ Spot Bonus มาใช้ในองค์กรนั้นมีประเด็นที่น่าสนใจที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ ดังนี้ 1. Spot Bonus สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับพนักงานได้บ่อยครั้งขึ้น - แทนที่ต้องรอโบนัสในช่วงปลายปี การให้ Spot Bonus จะ...

Word of the Year 2022 (s.540)

  #จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy  ➼ Word of The Year ที่นำเสนอโดยสำนักพิมพ์ดิกชันนารีออกฟอร์ด ซึ่งได้ประกาศออกมาโดยการใช้วิธีการโหวตออนไลน์ ได้คำว่า "goblin mode" ซึ่งหมายถึงชนิดของพฤติกรรมที่ตามใจตนเอง ขี้เกียจ ดูสกปรก ไร้ระเบียบ มีลักษณะทั่วไปที่ปฏิเสธแบบแผนของสังคมซึ่งเป็นที่ยอมรับกัน. ➼ การตีความว่าคนอยู่ในโหมดของการเป็น goblin หมายถึงคนที่เลือกเองว่าจะอยู่ในโหมดของการเป็นคนสกปรก ขี้เกียจ ไม่สนใจสารรูปของตนเอง บริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และชอบอยู่ในบ้านไม่ออกไปข้างนอก. ➼ สำหรับสำนักพิมพ์ดิกชันนารี Merriam-Webster ได้เลือก Word of the Year คำว่า "gaslighting" ซึ่งหมายความถึงการพยายามทำให้บุคคลหนึ่งรู้สึกไม่มั่นคงและสั่นคลอนในความเชื่อของตน จนทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่เห็นหรือมีประสบการณ์มิได้เกิดขึ้นจริง. ซึ่งเพื่อประโยชน์ของตนเอง. ➼ สำนักพิมพ์ดิกชันนารี Collins เลือก "permacrisis" ซึ่งแปลว่าวิกฤตที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและคงทน เพื่อเล่าสถานการณ์ของโลกปัจจุบันที่คาดเดาได้ยาก เกิดความไม่มั่นคงในหลายด้าน บรรยากาศเต็มไปด้วยความวุ่นวาย. อ้างอิง: ...

Reserve Currency (s.538)

  #จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy  ➼ Reserve Currency คือ เงินตราต่างประเทศที่ธนาคารกลางและสถาบันการเงินใหญ่ๆ ในโลกถือไว้เป็นจำนวนมาก เพื่อใช้ในการค้า การลงทุนและการชำระหนี้ระหว่างประเทศ. ➼ ตั้งแต่ปี 1944 มี 44 ประเทศได้ตกลงกันที่เมือง Bretton Woods ที่จะให้ดอลลาร์เป็นเงินตราที่จะใช้ในธุรกรรมระหว่างประเทศ โดยประเทศต่างๆ จะผูกค่าเงินของตนไว้กับดอลลาร์ และดอลลาร์ก็จะผูกไว้กับทองคำอีกต่อหนึ่ง ในอัตรา 35 ดอลลาร์ต่อทองทำ 1 Troy Ounce นี่เป็นจุดกำหนดของระบบอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ (Fixed Exchange Rate System). ➼ ในปี 1973 ประธานาธิบดีนิกสันได้ประกาศยกเลิกการผูกค่าเงินดอลลาร์ไว้กับทองคำ อันเป็นจุดเริ่มต้นของระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัว (Flexible Exchange Rate System) โดยแม้ดอลลาร์จะไม่มีทองคำหนุนหลัง แต่ดอลลาร์ก็ยังคงเป็น reserve currency หลักของโลกมาตลอดมาตลอดเกือบ 80 ปี เพราะสภาพคล่องที่มีสูงมาก. ➼ สหรัฐถือเป็นประเทศที่ได้เปรียบทุกประเทศในการที่สามารถใช้เงินของตนทำธุรกรรมต่างประเทศได้ อย่างไรก็ดี ในระยะยาว ยังมีคำถามที่เกิดขึ้นคือ ดอลลาร์อาจสูญเสียความเป็น reserve currency หลักของ...