ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

สถานการณ์หนี้ ครัวเรือน ธุรกิจ และ รัฐบาล (s.273)

 


#busguy #จดมาสรุปให้ฟัง #ธุรกิจแบ่งปัน

.

ประเด็นเรื่องหนี้เถือเป็นประเด็นที่ใหญ่และกระทบในทุกภาคส่วนทั้งในระดับครัวเรือน ระดับธุรกิจ หรือแม้กระทั่งภาครัฐ โดยเฉพาะยิ่งในช่วงที่ภาวะโควิด-19 ยังระบาดอยู่ในหลายประเทศ ทำให้ประเด็นเรื่องหนี้กับความสามารถในการชำระหนี้ได้กลายมาเป็นหัวข้อให้ถกเถียงกันอย่างแพร่หลาย. ทั้งนี้สถานการณ์หนี้ในปัจจุบันของภาคส่วนต่างๆ สามารถแจกแจงได้ดังนี้

.

ภาคครัวเรือน - โดยหนี้ภาคครัวเรือนของประเทศไทย จากตัวเลขของธนาคารแห่งประเทศไทยได้ระบุอยู่ที่ระดับร้อยละ 89.3 ของรายได้ประชาชาติ ซึ่งถือว่าสูงมาก และคาดว่าจะเพิ่มเป็นร้อยละ 91 ในสิ้นปีนี้.  หนี้ครัวเรือนตัวที่ใหญ่ คือ หนี้บัตรเครดิตและหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งคิดเป็นมากกว่าร้อยละ 50 ทำให้ความสามารถในการชำระหนี้ของภาคครัวเรือนจะมีความอ่อนไหวมากเมื่อผู้กู้รายได้ลดลงหรือขาดรายได้. นอกจากนี้ ได้มีการประมาณการจำนวนผู้ว่างงานสูงถึง 2.7-2.9 ล้านคนสิ้นปีหน้า ซึ่งจะยิ่งส่งผลถึงความสามารถในการชำระหนี้ของภาคครัวเรือนยิ่งขึ้น.

.

ภาคธุรกิจ - ระดับหนี้ในปี 2562 อยู่ที่ร้อยละ 143 ของรายได้ประชาชาติ ซึ่งพิจารณาว่าสูง. อย่างไรก็ดี หนี้ภาคธุรกิจจะมีสินทรัพย์หรือหลักทรัพย์ค้ำประกันการกู้ยืม ทำให้การผิดนัดเป็นเรื่องที่เจรจาปรับเงื่อนไขหรือปรับโครงสร้างหนี้ได้. นอกจากนี้วิกฤตครั้งนี้ ปัญหาหนี้จะตกอยู่กับธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กเป็นหลัก โดยเฉพาะธุรกิจบริการ จากความไม่แน่นอนของรายได้.

.

ภาครัฐ - ในวิกฤตครั้งนี้ ภาครัฐได้กู้เงินเพิ่มมากขึ้นเพื่อใช้เยียวยาประชาชน โดยตัวเลขหนี้สาธารณะของประเทศไทยคงเพิ่มขึ้นใกล้เคียงเพดานสูงสุดของหนี้สาธารณะที่รัฐบาลจะกู้ได้ หรือร้อยละ 60 ของรายได้ประชาชาติ. ในขณะเดียวกันเมื่อพิจารณาด้านรายได้พบว่าภรายได้ภาษีที่รัฐจัดเก็บก็ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจ ทำให้รัฐบาลมีข้อจำกัดมากขึ้นในการชำระหนี้.

.

ทั้งนี้ ทุกวิกฤตเศรษฐที่เกิดขึ้นมักมีต้นเหตุมาจากการสร้างหนี้ที่เกินกำลังทั้งสิ้น โดยสำหรับประเทศไทยเราขณะนี้ปัญหาสำคัญคือ เศรษฐกิจไม่ขยายตัว การว่างงานเพิ่มขึ้นและหนี้ครัวเรือนสูง. ดังนั้นนโยบายเศรษฐกิจที่ตรงเป้าจากประสบการณ์การแก้ไขปัญหา และมีเหตุผลทางเศรษฐศาสตร์ จะช่วยนำประเทศไปสู่ความสำเร็จในการแก้ปัญหา ซึ่งจะดีกว่านโยบายที่มาจากเหตุหรือแรงผลักดันทางการเมืองหรือกลุ่มผลประโยชน์.

.

🙏🙏

อ้างอิง: 'เศรษฐกิจมีหนี้ แต่ไม่มีรายได้ แก้อย่างไร' บัณฑิต นิจถาวร กรุงเทพธุรกิจ



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กระตุ้นพฤติกรรม ด้วยโบนัสแบบ Spot (s.154)

  บริษัทจำนวนมาจะมีระบบการให้ผลตอบแทนที่เรียกว่า "โบนัส" ประจำปี  โดยอาจพิจารณาจากผลประกอบการของบริษัทร่วมกับผลงานของพนักงาน และโบนัสดังกล่าวมักอยู่ในรูปของเงินก้อนใหญ่เมื่อเปรียบกับเงินเดือนของพนักงานผู้นั้น ทำให้บริษัทต้องมีภาระทางการเงินเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาดังกล่าวที่มีการให้โบนัส  อย่างไรก็ดียังมีวิธีหนึ่งในการให้ผลตอบแทนพนักงานซึ่งเป็นการให้ที่ถี่กว่าและจำนวนเงินก้อนเล็กกว่าเมื่อเทียบกับโบนัสประจำปี ซึ่งอาจเรียกว่าโบนัสในลักษณะนี้ว่าเป็น Spot Bonus โดยทั่วไปนั้น Spot Bonus จะให้กับพนักงานหรือกลุ่มของพนักงานสำหรับพฤติรรม การกระทำ หรือผลลัพธ์ในเรื่องหนึ่งๆ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกระตุ้นผลงานและสร้างแรงจูงใจของพนักงานในการทำงาน โดยมักเกี่ยวข้องกับงานที่เป็นโครงการ หรือเป็นการให้เพื่อส่งเสริมการกระทำหรือพฤติกรรมบางอย่างที่บริษัทประสงค์จากตัวพนักงาน.  ประโยชน์การนำ Spot Bonus มาใช้ในองค์กรนั้นมีประเด็นที่น่าสนใจที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ ดังนี้ 1. Spot Bonus สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับพนักงานได้บ่อยครั้งขึ้น - แทนที่ต้องรอโบนัสในช่วงปลายปี การให้ Spot Bonus จะ...

หงส์ดำ แรดเทา ความเสี่ยง (s.257)

#busguy #ธุรกิจแบ่งปัน #business . สัตว์สองตัวที่มักถูกนำมาเรียกเปรียบเปรยในช่วงสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 นี้ได้แก่ หงส์ดำ (Back Swan) และ แรดเทา (Grey Rhino) ซึ่งมีนอกเหนือจากที่มีการเปรียบเปรยแล้ว ยังมีการถกเถียงกันถึงเรื่องว่าเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโควิดนี้ควรจัดเป็นเหตุการณ์ลักษณะของ หงส์ดำ หรือ แรดเทา กันแน่ โดยเหตุการณ์ทั้งสองถือเป็นสิ่งเราควรเรียนรู้ในเรื่องของการบริหารความเสี่ยง . เรื่องของ หงส์ดำ มีมาช้านานแล้ว โดยใช้เปรียบเปรยในลักษณะของเหตุการณ์ที่เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากในอดีตนั้น คนส่วนใหญ่จะคิดว่าหงส์จะต้องเป็นสีขาวเท่านั้น ดังนั้นหงส์ดำจึงเป็นสิ่งนอกความคิดหรือเป็นไปไม่ได้. อย่างไรก็ดี เมื่อต่อมาได้มีการค้นพบหงส์ดำเกิดขึ้นจริง การเปรียบเปรยหงส์ดำก็กลายเป็นการกล่าวถึงเหตุการณ์ที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้หรือไม่น่ามีทางเกิดขึ้น แต่สุดท้ายก็เป็นไปได้. ทั้งนี้เหตุการณ์ที่จะเป็นหงส์ดำต้องมีลักษณะ 1.เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดมาก่อน ข้อมูลในอดีตไม่มีการบ่งบอกที่จะเกิดเหตุการณ์นั้น 2. มีผลกระทบที่รุนแรง และ 3. เมื่อมันเกิดขึ้นจริง แล้วเรามองย้อนกลับไป ก็จะสามารถหาเหตุผลมาอธิบายการเกิดข...

Word of the Year 2022 (s.540)

  #จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy  ➼ Word of The Year ที่นำเสนอโดยสำนักพิมพ์ดิกชันนารีออกฟอร์ด ซึ่งได้ประกาศออกมาโดยการใช้วิธีการโหวตออนไลน์ ได้คำว่า "goblin mode" ซึ่งหมายถึงชนิดของพฤติกรรมที่ตามใจตนเอง ขี้เกียจ ดูสกปรก ไร้ระเบียบ มีลักษณะทั่วไปที่ปฏิเสธแบบแผนของสังคมซึ่งเป็นที่ยอมรับกัน. ➼ การตีความว่าคนอยู่ในโหมดของการเป็น goblin หมายถึงคนที่เลือกเองว่าจะอยู่ในโหมดของการเป็นคนสกปรก ขี้เกียจ ไม่สนใจสารรูปของตนเอง บริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และชอบอยู่ในบ้านไม่ออกไปข้างนอก. ➼ สำหรับสำนักพิมพ์ดิกชันนารี Merriam-Webster ได้เลือก Word of the Year คำว่า "gaslighting" ซึ่งหมายความถึงการพยายามทำให้บุคคลหนึ่งรู้สึกไม่มั่นคงและสั่นคลอนในความเชื่อของตน จนทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่เห็นหรือมีประสบการณ์มิได้เกิดขึ้นจริง. ซึ่งเพื่อประโยชน์ของตนเอง. ➼ สำนักพิมพ์ดิกชันนารี Collins เลือก "permacrisis" ซึ่งแปลว่าวิกฤตที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและคงทน เพื่อเล่าสถานการณ์ของโลกปัจจุบันที่คาดเดาได้ยาก เกิดความไม่มั่นคงในหลายด้าน บรรยากาศเต็มไปด้วยความวุ่นวาย. อ้างอิง: ...