ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

แนวโน้มการจ้างงานหลังโควิด-19 (s.284)

 

#busguy #จดมาสรุปให้ฟัง #ธุรกิจแบ่งปัน

.

การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในครั้งนี้กระทบกับธุรกิจต่างๆ อย่างไม่คาดคิด และผลกระทบนั้นก็ยังแผ่ขยายไปยังตลาดแรงงานด้วยในหลากหลายมิติ โดยรูปแบบที่ส่งผลกระทบนั้นรวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงของความต้องการแรงงาน การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงาน หรือแม้กระทั่งการสัมภาษณ์งาน เป็นต้น.  โดยองค์กรจำนวนมากมีการให้พนักงานทำงานที่บ้าน ซึ่งทำให้รูปแบบการทำงานมีการเปลี่ยนแปลงไปโดยใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยีมากขึ้น ทั้งนี้ประเด็นที่น่าสนใจสำหรับเรื่องที่อาจจะเป็นปกติใหม่ขององค์กรในอนาคต ประกอบด้วย

.

New Normal Employment - จากการที่องค์กรต้องมีการปรับตัวทำให้ส่งผลกระทบถึงการจ้างงาน โดยองค์กรจำนวนมากมีมาตรการการลดค่าใช้จ่ายของบริษัท เช่น การปลดพนักงาน การลดสวัสดิการ อัตราการเปิดรับสมัครงานลดลง เป็นต้น. ในยุค New Normal นี้ องค์กรจะเริ่มมีการทบทวนปรับเปลี่ยนสวัสดิการ ซี่งอาจเพิ่มสวัสดิการให้พนักงานสามารถทำงานที่ไหนก็ได้โดยไม่ต้องเข้าออฟฟิต ส่วนสวัสดิการบางอย่างก็อาจถูกยกเลิก เช่น กิจกรรมสันทนาการ งานเลี้ยงสังสรรค์ ท่องเที่ยวประจำปี เป็นต้น

.

Next Normal Employment - รูปแบบการจ้างงานที่เปลี่ยนไป เช่น แรงงานส่วนหนึ่งอาจต้องทำงานที่บ้านแบบถาวรเพราะสามารถใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยได้ ลูกจ้างประจำอาจถูกเปลี่ยนไปเป็นฟรีแลนซ์ เทคโนโลยีและหุ่นยนต์อัจฉริยะจะเข้ามาแทนที่พนักงาน การลงทุนใหม่โดยเฉพาะใน EEC จะมีการใช้ระบบอัตโนมัติและเทคโนโลยีชั้นสูงเข้ามาเป็นองค์ประกอบหลัก บางอุตสาหกรรมอาจมีการย้ายฐานการผลิต และรวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคหลังยุคโควิคที่เริ่มชินกับการจับจ่ายซื้อสินค้าผ่านทาง application ซึ่งจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับแรงงานครั้งใหญ่

.

The Future of Work After Covid-19 - จากข้อมูลซึ่งสรุปได้จากรายงานของ McKinsey Global Institute ซึ่งพูดถึง 3 เทรนด์สำคัญที่ส่งผลต่อการจ้างงาน ได้แก่ 1) รูปแบบการทำงานที่มีการผสมผสานระหว่างการทำงานที่บ้านและการทำงานในออฟฟิต ทำให้ความต้องการระบบขนส่ง ร้านอาหารและร้านค้าในโซนออฟฟิตลดลงน้อย  2) การเติบโตของการบริโภคผ่านออนไลน์ มีผลต่อการเคลื่อนย้ายการจ้างงาน โดยเป็นการจ้างงานจำนวนมากในภาคการขนส่งสินค้า และ 3) การนำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการทำงานมากขึ้น ทำให้งานถูกทดแทนได้ด้วยหุ่นยนต์

อ้างอิง: 'การจ้างงานยุคหลังโควิด Next Normal Employment' ดร.ฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์ กรุงเทพธุรกิจ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กระตุ้นพฤติกรรม ด้วยโบนัสแบบ Spot (s.154)

  บริษัทจำนวนมาจะมีระบบการให้ผลตอบแทนที่เรียกว่า "โบนัส" ประจำปี  โดยอาจพิจารณาจากผลประกอบการของบริษัทร่วมกับผลงานของพนักงาน และโบนัสดังกล่าวมักอยู่ในรูปของเงินก้อนใหญ่เมื่อเปรียบกับเงินเดือนของพนักงานผู้นั้น ทำให้บริษัทต้องมีภาระทางการเงินเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาดังกล่าวที่มีการให้โบนัส  อย่างไรก็ดียังมีวิธีหนึ่งในการให้ผลตอบแทนพนักงานซึ่งเป็นการให้ที่ถี่กว่าและจำนวนเงินก้อนเล็กกว่าเมื่อเทียบกับโบนัสประจำปี ซึ่งอาจเรียกว่าโบนัสในลักษณะนี้ว่าเป็น Spot Bonus โดยทั่วไปนั้น Spot Bonus จะให้กับพนักงานหรือกลุ่มของพนักงานสำหรับพฤติรรม การกระทำ หรือผลลัพธ์ในเรื่องหนึ่งๆ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกระตุ้นผลงานและสร้างแรงจูงใจของพนักงานในการทำงาน โดยมักเกี่ยวข้องกับงานที่เป็นโครงการ หรือเป็นการให้เพื่อส่งเสริมการกระทำหรือพฤติกรรมบางอย่างที่บริษัทประสงค์จากตัวพนักงาน.  ประโยชน์การนำ Spot Bonus มาใช้ในองค์กรนั้นมีประเด็นที่น่าสนใจที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ ดังนี้ 1. Spot Bonus สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับพนักงานได้บ่อยครั้งขึ้น - แทนที่ต้องรอโบนัสในช่วงปลายปี การให้ Spot Bonus จะ...

หงส์ดำ แรดเทา ความเสี่ยง (s.257)

#busguy #ธุรกิจแบ่งปัน #business . สัตว์สองตัวที่มักถูกนำมาเรียกเปรียบเปรยในช่วงสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 นี้ได้แก่ หงส์ดำ (Back Swan) และ แรดเทา (Grey Rhino) ซึ่งมีนอกเหนือจากที่มีการเปรียบเปรยแล้ว ยังมีการถกเถียงกันถึงเรื่องว่าเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโควิดนี้ควรจัดเป็นเหตุการณ์ลักษณะของ หงส์ดำ หรือ แรดเทา กันแน่ โดยเหตุการณ์ทั้งสองถือเป็นสิ่งเราควรเรียนรู้ในเรื่องของการบริหารความเสี่ยง . เรื่องของ หงส์ดำ มีมาช้านานแล้ว โดยใช้เปรียบเปรยในลักษณะของเหตุการณ์ที่เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากในอดีตนั้น คนส่วนใหญ่จะคิดว่าหงส์จะต้องเป็นสีขาวเท่านั้น ดังนั้นหงส์ดำจึงเป็นสิ่งนอกความคิดหรือเป็นไปไม่ได้. อย่างไรก็ดี เมื่อต่อมาได้มีการค้นพบหงส์ดำเกิดขึ้นจริง การเปรียบเปรยหงส์ดำก็กลายเป็นการกล่าวถึงเหตุการณ์ที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้หรือไม่น่ามีทางเกิดขึ้น แต่สุดท้ายก็เป็นไปได้. ทั้งนี้เหตุการณ์ที่จะเป็นหงส์ดำต้องมีลักษณะ 1.เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดมาก่อน ข้อมูลในอดีตไม่มีการบ่งบอกที่จะเกิดเหตุการณ์นั้น 2. มีผลกระทบที่รุนแรง และ 3. เมื่อมันเกิดขึ้นจริง แล้วเรามองย้อนกลับไป ก็จะสามารถหาเหตุผลมาอธิบายการเกิดข...

Word of the Year 2022 (s.540)

  #จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy  ➼ Word of The Year ที่นำเสนอโดยสำนักพิมพ์ดิกชันนารีออกฟอร์ด ซึ่งได้ประกาศออกมาโดยการใช้วิธีการโหวตออนไลน์ ได้คำว่า "goblin mode" ซึ่งหมายถึงชนิดของพฤติกรรมที่ตามใจตนเอง ขี้เกียจ ดูสกปรก ไร้ระเบียบ มีลักษณะทั่วไปที่ปฏิเสธแบบแผนของสังคมซึ่งเป็นที่ยอมรับกัน. ➼ การตีความว่าคนอยู่ในโหมดของการเป็น goblin หมายถึงคนที่เลือกเองว่าจะอยู่ในโหมดของการเป็นคนสกปรก ขี้เกียจ ไม่สนใจสารรูปของตนเอง บริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และชอบอยู่ในบ้านไม่ออกไปข้างนอก. ➼ สำหรับสำนักพิมพ์ดิกชันนารี Merriam-Webster ได้เลือก Word of the Year คำว่า "gaslighting" ซึ่งหมายความถึงการพยายามทำให้บุคคลหนึ่งรู้สึกไม่มั่นคงและสั่นคลอนในความเชื่อของตน จนทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่เห็นหรือมีประสบการณ์มิได้เกิดขึ้นจริง. ซึ่งเพื่อประโยชน์ของตนเอง. ➼ สำนักพิมพ์ดิกชันนารี Collins เลือก "permacrisis" ซึ่งแปลว่าวิกฤตที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและคงทน เพื่อเล่าสถานการณ์ของโลกปัจจุบันที่คาดเดาได้ยาก เกิดความไม่มั่นคงในหลายด้าน บรรยากาศเต็มไปด้วยความวุ่นวาย. อ้างอิง: ...