#busguy #จดมาสรุปให้ฟัง #ธุรกิจแบ่งปัน
ประเทศไทยของเราถือเป็นผู้ส่งออกทุเรียนรายใหญ่เมื่อพิจารณาทั้งจากปริมาณและมูลค่า โดยเป็นอันดับ 1 ของโลก ด้วยส่วนแบ่งตลาดโลกที่ร้อย 75.9 ในปี 2563. โดยทุเรียนของไทยเรานั้นมีข้อได้เปรียบตรงที่ประเทศไทยมีความเชี่ยวชาญในการทำตลาดส่งออกผลไม้เป็นทุนเดิม ทำเลที่ตั้งที่อยู่ใกล้กับตลาดจีน ทำให้การขนส่งไปถึงมือผู้บริโภคทำได้อย่างรวดเร็วในราคาที่ยอมรับได้ อีกทั้งรสชาติยังถือว่าได้รับการยอมรับในตลาดโลก.
อย่างไรก็ดี ความต้องการทุเรียนโดยเฉพาะในตลาดจีนได้ทำให้เกิดการแข่งขันจากประเทศอื่นๆ เพิ่มมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันทุเรียนของประเทศไทยครองส่วนแบ่งตลาดจีนถึงร้อยละ 99 ของการนำเข้าทุเรียนของจีน + ฮ่องกง แต่ด้วยข้อจำกัดในปริมาณการผลิตของประเทศไทยที่มีประมาณ 1.1 ล้านตันในปี 2563 จึงถือเป็นความท้าทายในอนาคตของการส่งออก. ทั้งนี้การชูจุดขายสายพันธุ์ใหม่ให้เป็นที่รู้จัก น่าจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำตลาดในระยะยาว นอกเหนือจากพันธุ์หมอนทองและชะนีที่เป็นที่นิยมอยู่แล้ว. ล่าสุดได้มีพันธุ์มูซันคงจากมาเลเซียและสุลต่าน ซึ่งมีการส่งออกเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาเป็นคู่แข่ง.
ข้อแนะนำคือ เกษตรกรไทยควรเร่งเพิ่มกำลังการผลิตทุเรียนสายพันธุ์อื่นเพื่อเพิ่มตัวเลือกให้แก่ผู้บริโภค รวมทั้งการทำการตลาดผ่านแพลตฟอร์ม wechat หรือ e-comerce ต่างๆ ของจีน. ในระยะสั้น ปี 2564 ทุเรียนไทยยังคงทำตลาดได้ดีด้วยจำนวนพื้นที่ปลูกและปริมาณผลผลิตที่ยังเพิ่มขึ้นได้ โดยคาดว่าการส่งออกในปี 2564 นี้จะขยายตัวถึงร้อยะล 35-40 และมีมูลค่าถึง 2,800-2,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ. โดยในช่วงระยะต่อไป ประเทศไทยเราคงหนีไม่พ้นกับการแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเกษตรกรไทยจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อยกระดับทุเรียนไทยให้ครองใจผู้บริโภคชาวจีนได้ต่อไป รวมถึงการขยายตลาดไปยังประเทศอื่นเพื่อเพิ่มช่องทางให้มากขึ้น.
.
🙏🙏
อ้างอิง: 'ส่งออกทุเรียนไทยอันดับ 1 โลก' ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น