ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

คิดบวก กับ การมองโลกในแง่ดี (s.278)

 

#busguy #จดมาสรุปให้ฟัง #ธุรกิจแบ่งปัน

.

การคิดบวก (Positivity) เป็นการคิด การรู้สึก หรือการมองอย่างมีหวังว่าต้องมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นในอนาคต ถือเป็นพลังทางความคิดที่จะช่วยให้ผ่านพ้นสถานการณ์ที่แย่ไปได้ โดยการคิดบวกนั้น เริ่มง่ายๆ ด้วยการคิดหรือพูดคุยกับตนเองก่อน.  การมองโลกในแง่ดี (Optimism) เป็นการเชื่อมั่นว่าจะมีสิ่งดีๆ หรือเรื่องราวดีๆ ที่เป็นบวกเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งไม่ใช่การมองข้ามในสถานการณ์ปัจจุบัน หรือไม่สนใจเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่มีศรัทธาและเชื่อมั่นในสิ่งดีๆ ในอนาคต.

.

การคิดบวกนั้นถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะคนคิดบวกมักจะเป็นคนที่ไม่เครียดและมองโลกในแง่ดี ซึ่งมักทำให้มีคนอยากอยู่ใกล้ อยากพูดคุยด้วย. อย่างไรก็ดี การคิดในแง่ดี การมองในแง่ดีไปทั้งหมด ก็อาจเป็นการปฏิเสธสถานการณ์ ทำเป็นไม่สนใจ เพิกเฉยต่อเหตุการณ์ปัจจุบัน. สิ่งที่สำคัญคือการมองโลกในแง่ดีและการคิดบวกนั้น เราสามารถมองให้เป็นแง่ดีกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ คือ การมองสิ่งต่างๆ อย่างเข้าใจ ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น และหากเป็นเรื่องไม่ดีก็รู้จักคิดและพยายามหามุมมองที่เป็นประโยชน์ทางด้านบวกจากสิ่งนั้นๆ ให้เกิดประโยชน์.

.

คนที่คิดบวกจะมองสิ่งต่างๆ ทั้งในด้านดีและด้านไม่ดี แต่คนเหล่านี้เลือกที่จะรับรู้และเข้าใจในด้านที่ไม่ดี แต่ไม่ยึดติด และโฟกัสในด้านที่ดี เพื่อสร้างพลังบวกให้แก่ตนเอง. เมื่อมองกลับมาในองค์กร ปัญหาหนึ่งที่พบเจอคือ การคิดบวกได้กลายเป็นวัฒนธรรมเชิงสังคมในการทำงานที่จำเป็นต้องคิดบวก ต้องมีแนวคิดต่อการทำงานที่ดี ทั้งนี้การถูกบังคับให้คิดบวกนั้นอาจทำให้เราเจ็บปวดได้มากกว่าเดิม เพราะเป็นการผลักให้ออกจากความรู้สึกที่ควรจะได้รับ และทิ้งให้ติดอยู่กับความรู้สึกผิดเพราะคิดไม่เหมือนใคร. วัฒนธรรมการคิดบวกเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องไม่ทำให้ใครต้องรู้สึกแบกความรับผิดชอบไว้มากเกินไป และต้องไม่ใช่วัฒนธรรมเชิงบังคับ ซึ่งความคิดดังกล่าวต้องมาจากความรู้สึกของบุคคลนั้นจริงๆ จึงจะเป็นสิ่งที่ดี มีประโยชน์.

🙏🙏

อ้างอิง: 'วัฒนธรรมการคิดบวกมองโลกในแง่ดี กำลังจะกลายเป็นพิษภัยให้องค์กร' ดร.ฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์ กรุงเทพธุรกิจ


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กระตุ้นพฤติกรรม ด้วยโบนัสแบบ Spot (s.154)

  บริษัทจำนวนมาจะมีระบบการให้ผลตอบแทนที่เรียกว่า "โบนัส" ประจำปี  โดยอาจพิจารณาจากผลประกอบการของบริษัทร่วมกับผลงานของพนักงาน และโบนัสดังกล่าวมักอยู่ในรูปของเงินก้อนใหญ่เมื่อเปรียบกับเงินเดือนของพนักงานผู้นั้น ทำให้บริษัทต้องมีภาระทางการเงินเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาดังกล่าวที่มีการให้โบนัส  อย่างไรก็ดียังมีวิธีหนึ่งในการให้ผลตอบแทนพนักงานซึ่งเป็นการให้ที่ถี่กว่าและจำนวนเงินก้อนเล็กกว่าเมื่อเทียบกับโบนัสประจำปี ซึ่งอาจเรียกว่าโบนัสในลักษณะนี้ว่าเป็น Spot Bonus โดยทั่วไปนั้น Spot Bonus จะให้กับพนักงานหรือกลุ่มของพนักงานสำหรับพฤติรรม การกระทำ หรือผลลัพธ์ในเรื่องหนึ่งๆ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกระตุ้นผลงานและสร้างแรงจูงใจของพนักงานในการทำงาน โดยมักเกี่ยวข้องกับงานที่เป็นโครงการ หรือเป็นการให้เพื่อส่งเสริมการกระทำหรือพฤติกรรมบางอย่างที่บริษัทประสงค์จากตัวพนักงาน.  ประโยชน์การนำ Spot Bonus มาใช้ในองค์กรนั้นมีประเด็นที่น่าสนใจที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ ดังนี้ 1. Spot Bonus สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับพนักงานได้บ่อยครั้งขึ้น - แทนที่ต้องรอโบนัสในช่วงปลายปี การให้ Spot Bonus จะ...

Word of the Year 2022 (s.540)

  #จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy  ➼ Word of The Year ที่นำเสนอโดยสำนักพิมพ์ดิกชันนารีออกฟอร์ด ซึ่งได้ประกาศออกมาโดยการใช้วิธีการโหวตออนไลน์ ได้คำว่า "goblin mode" ซึ่งหมายถึงชนิดของพฤติกรรมที่ตามใจตนเอง ขี้เกียจ ดูสกปรก ไร้ระเบียบ มีลักษณะทั่วไปที่ปฏิเสธแบบแผนของสังคมซึ่งเป็นที่ยอมรับกัน. ➼ การตีความว่าคนอยู่ในโหมดของการเป็น goblin หมายถึงคนที่เลือกเองว่าจะอยู่ในโหมดของการเป็นคนสกปรก ขี้เกียจ ไม่สนใจสารรูปของตนเอง บริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และชอบอยู่ในบ้านไม่ออกไปข้างนอก. ➼ สำหรับสำนักพิมพ์ดิกชันนารี Merriam-Webster ได้เลือก Word of the Year คำว่า "gaslighting" ซึ่งหมายความถึงการพยายามทำให้บุคคลหนึ่งรู้สึกไม่มั่นคงและสั่นคลอนในความเชื่อของตน จนทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่เห็นหรือมีประสบการณ์มิได้เกิดขึ้นจริง. ซึ่งเพื่อประโยชน์ของตนเอง. ➼ สำนักพิมพ์ดิกชันนารี Collins เลือก "permacrisis" ซึ่งแปลว่าวิกฤตที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและคงทน เพื่อเล่าสถานการณ์ของโลกปัจจุบันที่คาดเดาได้ยาก เกิดความไม่มั่นคงในหลายด้าน บรรยากาศเต็มไปด้วยความวุ่นวาย. อ้างอิง: ...

Reserve Currency (s.538)

  #จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy  ➼ Reserve Currency คือ เงินตราต่างประเทศที่ธนาคารกลางและสถาบันการเงินใหญ่ๆ ในโลกถือไว้เป็นจำนวนมาก เพื่อใช้ในการค้า การลงทุนและการชำระหนี้ระหว่างประเทศ. ➼ ตั้งแต่ปี 1944 มี 44 ประเทศได้ตกลงกันที่เมือง Bretton Woods ที่จะให้ดอลลาร์เป็นเงินตราที่จะใช้ในธุรกรรมระหว่างประเทศ โดยประเทศต่างๆ จะผูกค่าเงินของตนไว้กับดอลลาร์ และดอลลาร์ก็จะผูกไว้กับทองคำอีกต่อหนึ่ง ในอัตรา 35 ดอลลาร์ต่อทองทำ 1 Troy Ounce นี่เป็นจุดกำหนดของระบบอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ (Fixed Exchange Rate System). ➼ ในปี 1973 ประธานาธิบดีนิกสันได้ประกาศยกเลิกการผูกค่าเงินดอลลาร์ไว้กับทองคำ อันเป็นจุดเริ่มต้นของระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัว (Flexible Exchange Rate System) โดยแม้ดอลลาร์จะไม่มีทองคำหนุนหลัง แต่ดอลลาร์ก็ยังคงเป็น reserve currency หลักของโลกมาตลอดมาตลอดเกือบ 80 ปี เพราะสภาพคล่องที่มีสูงมาก. ➼ สหรัฐถือเป็นประเทศที่ได้เปรียบทุกประเทศในการที่สามารถใช้เงินของตนทำธุรกรรมต่างประเทศได้ อย่างไรก็ดี ในระยะยาว ยังมีคำถามที่เกิดขึ้นคือ ดอลลาร์อาจสูญเสียความเป็น reserve currency หลักของ...