ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

3 ปัจจัยเศรษฐกิจ หลังยุคโควิด (s.288)



#busguy #จดมาสรุปให้ฟัง #ธุรกิจแบ่งปัน

.

เศรษฐกิจโลกหลังโควิดมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงไปมาก ซึ่งหลายอย่างจะไม่เหมือนเดิมโดยมาจากพลวัตของปัจจัย 3 อย่าง คือ เศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอกว่าเดิม ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน และ บทบาทของเทคโนโลยี โดยมีรายละเอียดดังนี้

.

1. เศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอกว่าเดิม - ผลกระทบนี้จะมีต่อเนื่องถึงอนาคต และวิกฤติโควิดก็ได้ทำให้การกระจายรายได้ในเกือบทุกประเทศแย่ลงด้วย ส่งผลให้การฟื้นตัวในแต่ละประเทศแตกต่างกันมาก. ที่เห็นได้ชัดคือการฟื้นตัวส่วนใหญ่จะเป็นแบบตัวอักษร K คือ มีสาขาเศรษฐกิจที่ขึ้นนำและได้ประโยชน์จากการฟื้นตัว เช่น เทคโนโลยี การเงิน เป็นต้น ในขณะที่สาขาบริการและการท่องเที่ยวซึ่งเป็นฐานรายได้และการจ้างงานของคนส่วนใหญ่จะฟื้นตัวช้า เป็นการฟื้นตัวที่คนส่วนใหญ่ขาดกำลังซื้อ 

.

2. ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีน - เมื่อเทียบระหว่างสหรัฐและจีน วิกฤติโควิดแสดงให้เห็นชัดเจนถึงความสามารถของจีนในการแก้ปัญหาที่สามารถควบคุมการระบาดได้ดีกว่าในสหรัฐ และเป็นเศรษฐกิจเพียงไม่กี่แห่งที่ยังสามารถขยายตัวได้ในปีที่ผ่านมา ซึ่งความสำเร็จนี้ทำให้บทบาทของจีนในเศรษฐกิจโลกเพิ่มสูงขึ้น. ทั้งนี้มีการวิเคราะห์กันว่าการแข่งขันระหว่างจีนและสหรัฐจะเป็นการแข่งขันในพื้นที่ที่จีนเลือกที่จะแข่งและเป็นพื้นที่ที่จีนทำได้ดีกว่า เช่น การแก้ไขปัญหาโควิด การลดความยากจน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน

.

3. เทคโนโลยี - การแข่งขันระหว่างสหรัฐและจีนลึกๆ แล้วคือการแข่งขันทางเทคโนโลยีที่ต่างฝ่ายต้องการเป็นผู้นำ โดยในแง่ของเศรษฐกิจนั้น เทคโนโลยีเป็นที่มาของความมั่งคั่งของประเทศ เพราะคนทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะพึ่งพาเทคโนโลยีกันมากขึ้น และเทคโนโลยียังเป็นที่มาของสมรรถภาพทางด้านการทหารอีกด้วย.

.

เราจะเห็นได้ว่าระบบโลกาภิวัฒน์ที่เคยเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจของโลกกำลังถูกกดดันให้แบ่งเป็นสองขั้ว รวมไปถึงเทคโนโลยี ซึ่งทำให้ขนาดหรือตลาดการค้าโลกหดตัว และกดดันให้ประเทศในภูมิภาคเดียวกันจับกลุ่มค้าขายระหว่างกันมากขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการถือข้าง ผลถือระบบโลกาภิวัฒน์จะมีแนวโน้มที่อ่อนแอกว่าเดิมนั่นเอง

 . 

อ้างอิง: 'เศรษฐกิจโลกหลังโควิด หน้าตาจะเป็นอย่างไร' บัณฑิต นิจถาวร กรุงเทพธุรกิจ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กระตุ้นพฤติกรรม ด้วยโบนัสแบบ Spot (s.154)

  บริษัทจำนวนมาจะมีระบบการให้ผลตอบแทนที่เรียกว่า "โบนัส" ประจำปี  โดยอาจพิจารณาจากผลประกอบการของบริษัทร่วมกับผลงานของพนักงาน และโบนัสดังกล่าวมักอยู่ในรูปของเงินก้อนใหญ่เมื่อเปรียบกับเงินเดือนของพนักงานผู้นั้น ทำให้บริษัทต้องมีภาระทางการเงินเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาดังกล่าวที่มีการให้โบนัส  อย่างไรก็ดียังมีวิธีหนึ่งในการให้ผลตอบแทนพนักงานซึ่งเป็นการให้ที่ถี่กว่าและจำนวนเงินก้อนเล็กกว่าเมื่อเทียบกับโบนัสประจำปี ซึ่งอาจเรียกว่าโบนัสในลักษณะนี้ว่าเป็น Spot Bonus โดยทั่วไปนั้น Spot Bonus จะให้กับพนักงานหรือกลุ่มของพนักงานสำหรับพฤติรรม การกระทำ หรือผลลัพธ์ในเรื่องหนึ่งๆ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกระตุ้นผลงานและสร้างแรงจูงใจของพนักงานในการทำงาน โดยมักเกี่ยวข้องกับงานที่เป็นโครงการ หรือเป็นการให้เพื่อส่งเสริมการกระทำหรือพฤติกรรมบางอย่างที่บริษัทประสงค์จากตัวพนักงาน.  ประโยชน์การนำ Spot Bonus มาใช้ในองค์กรนั้นมีประเด็นที่น่าสนใจที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ ดังนี้ 1. Spot Bonus สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับพนักงานได้บ่อยครั้งขึ้น - แทนที่ต้องรอโบนัสในช่วงปลายปี การให้ Spot Bonus จะ...

หงส์ดำ แรดเทา ความเสี่ยง (s.257)

#busguy #ธุรกิจแบ่งปัน #business . สัตว์สองตัวที่มักถูกนำมาเรียกเปรียบเปรยในช่วงสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 นี้ได้แก่ หงส์ดำ (Back Swan) และ แรดเทา (Grey Rhino) ซึ่งมีนอกเหนือจากที่มีการเปรียบเปรยแล้ว ยังมีการถกเถียงกันถึงเรื่องว่าเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโควิดนี้ควรจัดเป็นเหตุการณ์ลักษณะของ หงส์ดำ หรือ แรดเทา กันแน่ โดยเหตุการณ์ทั้งสองถือเป็นสิ่งเราควรเรียนรู้ในเรื่องของการบริหารความเสี่ยง . เรื่องของ หงส์ดำ มีมาช้านานแล้ว โดยใช้เปรียบเปรยในลักษณะของเหตุการณ์ที่เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากในอดีตนั้น คนส่วนใหญ่จะคิดว่าหงส์จะต้องเป็นสีขาวเท่านั้น ดังนั้นหงส์ดำจึงเป็นสิ่งนอกความคิดหรือเป็นไปไม่ได้. อย่างไรก็ดี เมื่อต่อมาได้มีการค้นพบหงส์ดำเกิดขึ้นจริง การเปรียบเปรยหงส์ดำก็กลายเป็นการกล่าวถึงเหตุการณ์ที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้หรือไม่น่ามีทางเกิดขึ้น แต่สุดท้ายก็เป็นไปได้. ทั้งนี้เหตุการณ์ที่จะเป็นหงส์ดำต้องมีลักษณะ 1.เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดมาก่อน ข้อมูลในอดีตไม่มีการบ่งบอกที่จะเกิดเหตุการณ์นั้น 2. มีผลกระทบที่รุนแรง และ 3. เมื่อมันเกิดขึ้นจริง แล้วเรามองย้อนกลับไป ก็จะสามารถหาเหตุผลมาอธิบายการเกิดข...

Word of the Year 2022 (s.540)

  #จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy  ➼ Word of The Year ที่นำเสนอโดยสำนักพิมพ์ดิกชันนารีออกฟอร์ด ซึ่งได้ประกาศออกมาโดยการใช้วิธีการโหวตออนไลน์ ได้คำว่า "goblin mode" ซึ่งหมายถึงชนิดของพฤติกรรมที่ตามใจตนเอง ขี้เกียจ ดูสกปรก ไร้ระเบียบ มีลักษณะทั่วไปที่ปฏิเสธแบบแผนของสังคมซึ่งเป็นที่ยอมรับกัน. ➼ การตีความว่าคนอยู่ในโหมดของการเป็น goblin หมายถึงคนที่เลือกเองว่าจะอยู่ในโหมดของการเป็นคนสกปรก ขี้เกียจ ไม่สนใจสารรูปของตนเอง บริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และชอบอยู่ในบ้านไม่ออกไปข้างนอก. ➼ สำหรับสำนักพิมพ์ดิกชันนารี Merriam-Webster ได้เลือก Word of the Year คำว่า "gaslighting" ซึ่งหมายความถึงการพยายามทำให้บุคคลหนึ่งรู้สึกไม่มั่นคงและสั่นคลอนในความเชื่อของตน จนทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่เห็นหรือมีประสบการณ์มิได้เกิดขึ้นจริง. ซึ่งเพื่อประโยชน์ของตนเอง. ➼ สำนักพิมพ์ดิกชันนารี Collins เลือก "permacrisis" ซึ่งแปลว่าวิกฤตที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและคงทน เพื่อเล่าสถานการณ์ของโลกปัจจุบันที่คาดเดาได้ยาก เกิดความไม่มั่นคงในหลายด้าน บรรยากาศเต็มไปด้วยความวุ่นวาย. อ้างอิง: ...