ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

แผลเป็น กับ เศรษฐกิจ (s.309)



#busguy #จดมาสรุปให้ฟัง #ธุรกิจแบ่งปัน

.

แผลเป็นทางเศรษฐกิจ หรือ economic scars เป็นคำในภาษาอังกฤษที่เราจะได้ยินบ่อยๆ ในช่วงเวลานี้ ซึ่งสื่อความหมายถึงบางสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตหรือวันนี้ที่มีลักษณะคล้ายแผลเป็นที่จะเป็นอุปสรรคต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจในระยะปานกลางและยาว. โดยแผลเป็นทางเศรษฐกิจนี้จะทำให้ศักยภาพในการผลิตของประเทศมีปัญหาหรือลดลงในอนาคต ซึ่งหมายถึงความสามารถในการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจในอนาคตมีแนวโน้มลดลง

.

ทั้งนี้การขยายตัวของเศรษฐกิจถือเป็นเรื่องสำคัญ หากมีสิ่งใดไปกระทบจนเกิดเป็นปัญหาหรือทำให้มีศักยภาพลดลงในระยะกลางหรือยาว ความกินดีอยู่ดีของประชาชนหรือระดับรายได้เฉลี่ยต่อหัวในอนาคตก็จะขยับเพิ่มได้ช้าหรือเกิดมีขีดจำกัดขึ้น โดยตัวอย่างของ economic scars มีดังนี้

.

1) เศรษฐกิจหยุดชะงัก หากแรงงานไม่มีงานทำนานเกินไปก็จะเกิดแผลเป็นขึ้น กล่าวคือเมื่อกลับสู่ตลาดแรงงานอีกครั้งก็อาจปรับตัวไม่ทัน กระทบต่อศักยภาพการผลิตในอนาคตได้

2) หากไม่มีการลงทุนใหม่ในประเทศเป็นเวลานาน เครื่องจักรและอุปกรณ์การผลิตที่มีก็จะมีอายุมากขึ้น เสื่อมประสิทธิภาพ จนทำให้กระทบต่อศักยภาพในนการผลิต

3) หากธุรกิจ SME จำนวนมากปิดตัวลง ทำให้แรงงานย้ายไปภาคอื่น และเมื่อเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวทำให้ SME ที่ปิดไป ไม่สามารถกลับมาทำงานได้ตามปกติจนกระทบต่อการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจในอนาคตได้

4) หากสุขภาพเฉลี่ยของประชาชนแย่ลงเช่น กินหวาน/เค็ม โรคอ้วน โรคไต เป็นต้น ก็จะทำให้ศักยภาพการผลิตของประเทศมีปัญหา

5) การเคยชินกับกิจการอื่นที่ไม่ใช่การผลิต ก็จะเป็นอุปสรรคต่อการเพิ่มศักยภาพการผลิตได้

6) การเคยชินกับการอยู่ในระบบเศรษฐกิจสังคมนิยมเป็นเวลานาน ทำให้เกิดแผลเป็นจนทำการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจภายใต้ระบบทุนนิยมที่หันมายึดถือใหม่เป็นไปอย่างเชื่องช้า

.

แผลเป็นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้แต่สามารถแก้ไขได้ ตราบใดที่เราตระหนักว่ามีแผลเป็นและพยายามมุ่งมั่นแก้ไขโดยเร็ว ไม่ปล่อยไว้ให้เป็นอุปกสรรคต่อการขยายตัวของศักยภาพในการผลิตในอนาคต ต้องทำให้อดีตเป็นอดีต อย่าให้มันมีผลกระทบถึงอนาคตแบบถาวร

อ้างอิง: 'แผลเป็น ทางเศรษฐกิจ' วราภรณ์ สามโกเศศ กรุงเทพธุรกิจ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กระตุ้นพฤติกรรม ด้วยโบนัสแบบ Spot (s.154)

  บริษัทจำนวนมาจะมีระบบการให้ผลตอบแทนที่เรียกว่า "โบนัส" ประจำปี  โดยอาจพิจารณาจากผลประกอบการของบริษัทร่วมกับผลงานของพนักงาน และโบนัสดังกล่าวมักอยู่ในรูปของเงินก้อนใหญ่เมื่อเปรียบกับเงินเดือนของพนักงานผู้นั้น ทำให้บริษัทต้องมีภาระทางการเงินเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาดังกล่าวที่มีการให้โบนัส  อย่างไรก็ดียังมีวิธีหนึ่งในการให้ผลตอบแทนพนักงานซึ่งเป็นการให้ที่ถี่กว่าและจำนวนเงินก้อนเล็กกว่าเมื่อเทียบกับโบนัสประจำปี ซึ่งอาจเรียกว่าโบนัสในลักษณะนี้ว่าเป็น Spot Bonus โดยทั่วไปนั้น Spot Bonus จะให้กับพนักงานหรือกลุ่มของพนักงานสำหรับพฤติรรม การกระทำ หรือผลลัพธ์ในเรื่องหนึ่งๆ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกระตุ้นผลงานและสร้างแรงจูงใจของพนักงานในการทำงาน โดยมักเกี่ยวข้องกับงานที่เป็นโครงการ หรือเป็นการให้เพื่อส่งเสริมการกระทำหรือพฤติกรรมบางอย่างที่บริษัทประสงค์จากตัวพนักงาน.  ประโยชน์การนำ Spot Bonus มาใช้ในองค์กรนั้นมีประเด็นที่น่าสนใจที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ ดังนี้ 1. Spot Bonus สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับพนักงานได้บ่อยครั้งขึ้น - แทนที่ต้องรอโบนัสในช่วงปลายปี การให้ Spot Bonus จะ...

Word of the Year 2022 (s.540)

  #จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy  ➼ Word of The Year ที่นำเสนอโดยสำนักพิมพ์ดิกชันนารีออกฟอร์ด ซึ่งได้ประกาศออกมาโดยการใช้วิธีการโหวตออนไลน์ ได้คำว่า "goblin mode" ซึ่งหมายถึงชนิดของพฤติกรรมที่ตามใจตนเอง ขี้เกียจ ดูสกปรก ไร้ระเบียบ มีลักษณะทั่วไปที่ปฏิเสธแบบแผนของสังคมซึ่งเป็นที่ยอมรับกัน. ➼ การตีความว่าคนอยู่ในโหมดของการเป็น goblin หมายถึงคนที่เลือกเองว่าจะอยู่ในโหมดของการเป็นคนสกปรก ขี้เกียจ ไม่สนใจสารรูปของตนเอง บริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และชอบอยู่ในบ้านไม่ออกไปข้างนอก. ➼ สำหรับสำนักพิมพ์ดิกชันนารี Merriam-Webster ได้เลือก Word of the Year คำว่า "gaslighting" ซึ่งหมายความถึงการพยายามทำให้บุคคลหนึ่งรู้สึกไม่มั่นคงและสั่นคลอนในความเชื่อของตน จนทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่เห็นหรือมีประสบการณ์มิได้เกิดขึ้นจริง. ซึ่งเพื่อประโยชน์ของตนเอง. ➼ สำนักพิมพ์ดิกชันนารี Collins เลือก "permacrisis" ซึ่งแปลว่าวิกฤตที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและคงทน เพื่อเล่าสถานการณ์ของโลกปัจจุบันที่คาดเดาได้ยาก เกิดความไม่มั่นคงในหลายด้าน บรรยากาศเต็มไปด้วยความวุ่นวาย. อ้างอิง: ...

Reserve Currency (s.538)

  #จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy  ➼ Reserve Currency คือ เงินตราต่างประเทศที่ธนาคารกลางและสถาบันการเงินใหญ่ๆ ในโลกถือไว้เป็นจำนวนมาก เพื่อใช้ในการค้า การลงทุนและการชำระหนี้ระหว่างประเทศ. ➼ ตั้งแต่ปี 1944 มี 44 ประเทศได้ตกลงกันที่เมือง Bretton Woods ที่จะให้ดอลลาร์เป็นเงินตราที่จะใช้ในธุรกรรมระหว่างประเทศ โดยประเทศต่างๆ จะผูกค่าเงินของตนไว้กับดอลลาร์ และดอลลาร์ก็จะผูกไว้กับทองคำอีกต่อหนึ่ง ในอัตรา 35 ดอลลาร์ต่อทองทำ 1 Troy Ounce นี่เป็นจุดกำหนดของระบบอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ (Fixed Exchange Rate System). ➼ ในปี 1973 ประธานาธิบดีนิกสันได้ประกาศยกเลิกการผูกค่าเงินดอลลาร์ไว้กับทองคำ อันเป็นจุดเริ่มต้นของระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัว (Flexible Exchange Rate System) โดยแม้ดอลลาร์จะไม่มีทองคำหนุนหลัง แต่ดอลลาร์ก็ยังคงเป็น reserve currency หลักของโลกมาตลอดมาตลอดเกือบ 80 ปี เพราะสภาพคล่องที่มีสูงมาก. ➼ สหรัฐถือเป็นประเทศที่ได้เปรียบทุกประเทศในการที่สามารถใช้เงินของตนทำธุรกรรมต่างประเทศได้ อย่างไรก็ดี ในระยะยาว ยังมีคำถามที่เกิดขึ้นคือ ดอลลาร์อาจสูญเสียความเป็น reserve currency หลักของ...