ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

วิธีการหากลยุทธ์ใหม่ๆ (s.341)

 


#busguy #จดมาสรุปให้ฟัง #ธุรกิจแบ่งปัน

.

ปัญหาหนึ่งที่มักจะเกิดขึ้นในการคิดและวางแผนกลยุทธ์ คือ "คิดกลยุทธ์ใหม่ๆ ไม่ออก". ในหลายองค์กร ทุกๆ ปีที่คิดกลยุทธ์ กลยุทธ์ที่คิดมาได้นั้นมักจะไม่แตกต่างจากสิ่งที่ดำเนินการอยู่ อาจมีการต่อยอดหรือขยายจากสิ่งที่เป็นอยู่บ้างเท่านั้น ทำให้กลยุทธ์ที่ได้มักจะเป็นเรื่องของการดำเนินงานมากกว่าเป็นสิ่งใหม่จริงๆ ซึ่งสาเหตุหนึ่งของปัญหานี้คือ การที่ผู้ร่วมคิดกลยุทธ์มักจะเป็นคนกลุ่มเดิม ซึ่งมักจะเป็นกรรมการ ผู้บริหาร บุคคลากรที่มีหน้าที่รับผิดชอบ โดยอาจจะมีที่ปรึกษาจากภายนอกมาร่วมด้วยในบางปี. ดังนั้นข้อแนะนำเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวมีดังนี้

.

1. การเปลี่ยนตัวผู้ที่คิดกลยุทธ์เสียใหม่ - แทนที่กลยุทธ์จะมาจากรรมการ ผู้บริหาร หรือบบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ก็มาจากผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องต่างๆ หรือ Stakeholders แทน. แทนที่จะให้ผู้บริหารมานั่งประชุมเพื่อร่วมกันกำหนดกลยุทธ์ ผู้บริหารจะถูกกระจายออกไปสัมภาษณ์บรรดาผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่างๆ ทั้งลูกค้า คู่ค้า ผู้จัดจำหน่าย Suppliers หรือแม้กระทั่งผู้ถือหุ้น ถึงความคิดและมุมมองต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกลยุทธ์. โดยคำถามที่ใช้มักเกี่ยวข้องกับสาเหตุที่บรรดาผู้เกี่ยวข้องเหล่านั้นเลือกองค์กร และแนวทางที่องค์กรควรทำเพื่อทำให้ได้ดียิ่งขึ้นไปอีก

.

2. การนำหลักการ Jobs to be done มาใช้ - ซึ่งเป็นการมองจากมุมมองของลูกค้าว่าการซื้อสินค้าหรือบริการนั้น ข้อเท็จแล้วลูกค้าซื้อไปเพื่ออะไร แนวคิดนี้จะมองว่าลูกค้าซื้อสินค้าและบริการ ไม่ใช่เพราะต้องการตัวสินค้าหรือบริการนั้น แต่ต้องการนำสินค้าหรือบริการนั้นไปใช้เพื่อทำงานบางอย่างให้สำเร็จ.

.

ทั้งนี้ พบว่ากลยุทธ์จากภายนอก ไม่ว่าจะเป็น Stakeholders หรือการหา Jobs to be done ของลูกค้า จะช่วยให้เกิดมุมมองและมิติใหม่ๆ และสามารถช่วยแก้ไขปัญหาของการคิดกลยุทธ์ใหม่ไม่ออก  อีกทั้งทำให้องค์กรมุ่งมั่นไปที่ภายนอกรวมถึง Customer-Centric มากขึ้น.

.

อ้างอิง: 'คิดกลยุทธ์ไม่ออก ให้เริ่มจากภายนอก' รศ.ดร.พสุ เดชะรินทร์, กรุงเทพธุรกิจ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กระตุ้นพฤติกรรม ด้วยโบนัสแบบ Spot (s.154)

  บริษัทจำนวนมาจะมีระบบการให้ผลตอบแทนที่เรียกว่า "โบนัส" ประจำปี  โดยอาจพิจารณาจากผลประกอบการของบริษัทร่วมกับผลงานของพนักงาน และโบนัสดังกล่าวมักอยู่ในรูปของเงินก้อนใหญ่เมื่อเปรียบกับเงินเดือนของพนักงานผู้นั้น ทำให้บริษัทต้องมีภาระทางการเงินเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาดังกล่าวที่มีการให้โบนัส  อย่างไรก็ดียังมีวิธีหนึ่งในการให้ผลตอบแทนพนักงานซึ่งเป็นการให้ที่ถี่กว่าและจำนวนเงินก้อนเล็กกว่าเมื่อเทียบกับโบนัสประจำปี ซึ่งอาจเรียกว่าโบนัสในลักษณะนี้ว่าเป็น Spot Bonus โดยทั่วไปนั้น Spot Bonus จะให้กับพนักงานหรือกลุ่มของพนักงานสำหรับพฤติรรม การกระทำ หรือผลลัพธ์ในเรื่องหนึ่งๆ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกระตุ้นผลงานและสร้างแรงจูงใจของพนักงานในการทำงาน โดยมักเกี่ยวข้องกับงานที่เป็นโครงการ หรือเป็นการให้เพื่อส่งเสริมการกระทำหรือพฤติกรรมบางอย่างที่บริษัทประสงค์จากตัวพนักงาน.  ประโยชน์การนำ Spot Bonus มาใช้ในองค์กรนั้นมีประเด็นที่น่าสนใจที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ ดังนี้ 1. Spot Bonus สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับพนักงานได้บ่อยครั้งขึ้น - แทนที่ต้องรอโบนัสในช่วงปลายปี การให้ Spot Bonus จะ...

Word of the Year 2022 (s.540)

  #จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy  ➼ Word of The Year ที่นำเสนอโดยสำนักพิมพ์ดิกชันนารีออกฟอร์ด ซึ่งได้ประกาศออกมาโดยการใช้วิธีการโหวตออนไลน์ ได้คำว่า "goblin mode" ซึ่งหมายถึงชนิดของพฤติกรรมที่ตามใจตนเอง ขี้เกียจ ดูสกปรก ไร้ระเบียบ มีลักษณะทั่วไปที่ปฏิเสธแบบแผนของสังคมซึ่งเป็นที่ยอมรับกัน. ➼ การตีความว่าคนอยู่ในโหมดของการเป็น goblin หมายถึงคนที่เลือกเองว่าจะอยู่ในโหมดของการเป็นคนสกปรก ขี้เกียจ ไม่สนใจสารรูปของตนเอง บริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และชอบอยู่ในบ้านไม่ออกไปข้างนอก. ➼ สำหรับสำนักพิมพ์ดิกชันนารี Merriam-Webster ได้เลือก Word of the Year คำว่า "gaslighting" ซึ่งหมายความถึงการพยายามทำให้บุคคลหนึ่งรู้สึกไม่มั่นคงและสั่นคลอนในความเชื่อของตน จนทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่เห็นหรือมีประสบการณ์มิได้เกิดขึ้นจริง. ซึ่งเพื่อประโยชน์ของตนเอง. ➼ สำนักพิมพ์ดิกชันนารี Collins เลือก "permacrisis" ซึ่งแปลว่าวิกฤตที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและคงทน เพื่อเล่าสถานการณ์ของโลกปัจจุบันที่คาดเดาได้ยาก เกิดความไม่มั่นคงในหลายด้าน บรรยากาศเต็มไปด้วยความวุ่นวาย. อ้างอิง: ...

Reserve Currency (s.538)

  #จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy  ➼ Reserve Currency คือ เงินตราต่างประเทศที่ธนาคารกลางและสถาบันการเงินใหญ่ๆ ในโลกถือไว้เป็นจำนวนมาก เพื่อใช้ในการค้า การลงทุนและการชำระหนี้ระหว่างประเทศ. ➼ ตั้งแต่ปี 1944 มี 44 ประเทศได้ตกลงกันที่เมือง Bretton Woods ที่จะให้ดอลลาร์เป็นเงินตราที่จะใช้ในธุรกรรมระหว่างประเทศ โดยประเทศต่างๆ จะผูกค่าเงินของตนไว้กับดอลลาร์ และดอลลาร์ก็จะผูกไว้กับทองคำอีกต่อหนึ่ง ในอัตรา 35 ดอลลาร์ต่อทองทำ 1 Troy Ounce นี่เป็นจุดกำหนดของระบบอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ (Fixed Exchange Rate System). ➼ ในปี 1973 ประธานาธิบดีนิกสันได้ประกาศยกเลิกการผูกค่าเงินดอลลาร์ไว้กับทองคำ อันเป็นจุดเริ่มต้นของระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัว (Flexible Exchange Rate System) โดยแม้ดอลลาร์จะไม่มีทองคำหนุนหลัง แต่ดอลลาร์ก็ยังคงเป็น reserve currency หลักของโลกมาตลอดมาตลอดเกือบ 80 ปี เพราะสภาพคล่องที่มีสูงมาก. ➼ สหรัฐถือเป็นประเทศที่ได้เปรียบทุกประเทศในการที่สามารถใช้เงินของตนทำธุรกรรมต่างประเทศได้ อย่างไรก็ดี ในระยะยาว ยังมีคำถามที่เกิดขึ้นคือ ดอลลาร์อาจสูญเสียความเป็น reserve currency หลักของ...