ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

หนี้สาธารณะ (s.164)


บทความของ SCB EIC เรื่อง "ปัญหาระดับโลก : หนี้สาธารณะและเศรษฐกิจที่ถดถอย" ได้มีบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับหนี้สาธารณะ ซึ่งเป็นประเด็นใหญ่ประเด็นหนึ่งที่ได้มีการถกเถียงอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดวิเกฤตโควิด-19 ที่ทำให้รัฐบาลของหลายประเทศต้องอัดฉีดเงินเป็นจำนวนมหาศาลเพื่อพยุงเศรษฐกิจและส่งผลให้หนี้สาธารณะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก. โดยผลจากโควิด-19 นั้นได้ส่งผลต่อการจัดเก็บภาษีที่ลดลงและรายจ่ายที่เพิ่มขึ้นอย่างมากจากมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐต่างๆ. หนี้สาธารณะที่ปรับตัวเพิ่มอย่างรวดเร็วนี้จึงมาจาก 2 ปัจจัย คือ GDP ที่หดตัว และ การเพิ่มขึ้นของหนี้สินสาธารณะ.


ทั้งนี้การประเมินว่าหนี้สาธารณะจะยั่งยืนในระยะยาวหรือไม่จะขึ้นกับสมมุติฐาน 2 เรื่อง ได้แก่ (1) อัตราดอกเบี้ย และ (2) อัตราการเติบโตของ GDP.  โดยหากอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าอัตราการเติบโตของ GDP อย่างต่อเนื่องและหากรัฐบาลไม่กู้เพิ่ม จะทำให้หนี้สาธารณะต่อ GDP ลดลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดีการตั้งสมมุติฐานของอัตราดอกเบี้ยและ GDP ในระยะยาวในระยะยาวที่แม่นยำจะเป็นเรื่องยาก. 


นอกจากนี้อัตราดอกเบี้ยและ GDP  ยังมีปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้องกับระดับเพดานหนี้สาธารณะที่ยั่งยืนซึ่งแตกต่างไปตามปัจจัยเฉพาะของแต่ละประเทศและช่วงเวลา โดยขึ้นกับ (1) พัฒนาการของตลาดเงิน  (2) ความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อความสามารถในการชำระหนี้ของรัฐบาล  (3) ความน่าดึงดูดของสินทรัพย์ประเภทอื่นเมื่อเทียบกับพันธบัตรของรัฐบาล. อย่างไรก็ดี มีงานวิจัยหลายชิ้นได้ชี้ให้เห็นถึงผลเสียของหนี้สาธารณะในระดับที่สูง เช่น งานวิจัยหนึ่งพบว่าประเทศที่มีหนี้สาธารณะสูงเกิน 90% ต่อ GDP จะทำให้เศรษฐกิจโตได้ช้าลง และสำหรับกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ หากหนี้ต่างประเทศอยู่ในระดับที่เกิน 60% เศรษฐกิจก็มักโตช้าเช่นกัน

-

แม้ว่าระดับหนี้สาธารณะที่สูงจะส่งผลกระทบถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะยาว แต่รัฐบาลส่วนใหญ่ยังคงให้ความสำคัญกับการพยุงเศรษฐกิจเมื่อเกิดวิกฤตมากกว่าการควบคุมระดับหนี้สาธารณะ ซึ่งประเด็นระดับหนี้สาธารณะที่สูงนี้จะมีแนวโน้มที่เป็นประเด็นสำคัญต่อไปในอนาคต.


#busguy 
#ธุรกิจแบ่งปัน #business

อ้างอิง: SCB EIC

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กระตุ้นพฤติกรรม ด้วยโบนัสแบบ Spot (s.154)

  บริษัทจำนวนมาจะมีระบบการให้ผลตอบแทนที่เรียกว่า "โบนัส" ประจำปี  โดยอาจพิจารณาจากผลประกอบการของบริษัทร่วมกับผลงานของพนักงาน และโบนัสดังกล่าวมักอยู่ในรูปของเงินก้อนใหญ่เมื่อเปรียบกับเงินเดือนของพนักงานผู้นั้น ทำให้บริษัทต้องมีภาระทางการเงินเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาดังกล่าวที่มีการให้โบนัส  อย่างไรก็ดียังมีวิธีหนึ่งในการให้ผลตอบแทนพนักงานซึ่งเป็นการให้ที่ถี่กว่าและจำนวนเงินก้อนเล็กกว่าเมื่อเทียบกับโบนัสประจำปี ซึ่งอาจเรียกว่าโบนัสในลักษณะนี้ว่าเป็น Spot Bonus โดยทั่วไปนั้น Spot Bonus จะให้กับพนักงานหรือกลุ่มของพนักงานสำหรับพฤติรรม การกระทำ หรือผลลัพธ์ในเรื่องหนึ่งๆ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกระตุ้นผลงานและสร้างแรงจูงใจของพนักงานในการทำงาน โดยมักเกี่ยวข้องกับงานที่เป็นโครงการ หรือเป็นการให้เพื่อส่งเสริมการกระทำหรือพฤติกรรมบางอย่างที่บริษัทประสงค์จากตัวพนักงาน.  ประโยชน์การนำ Spot Bonus มาใช้ในองค์กรนั้นมีประเด็นที่น่าสนใจที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ ดังนี้ 1. Spot Bonus สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับพนักงานได้บ่อยครั้งขึ้น - แทนที่ต้องรอโบนัสในช่วงปลายปี การให้ Spot Bonus จะ...

Word of the Year 2022 (s.540)

  #จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy  ➼ Word of The Year ที่นำเสนอโดยสำนักพิมพ์ดิกชันนารีออกฟอร์ด ซึ่งได้ประกาศออกมาโดยการใช้วิธีการโหวตออนไลน์ ได้คำว่า "goblin mode" ซึ่งหมายถึงชนิดของพฤติกรรมที่ตามใจตนเอง ขี้เกียจ ดูสกปรก ไร้ระเบียบ มีลักษณะทั่วไปที่ปฏิเสธแบบแผนของสังคมซึ่งเป็นที่ยอมรับกัน. ➼ การตีความว่าคนอยู่ในโหมดของการเป็น goblin หมายถึงคนที่เลือกเองว่าจะอยู่ในโหมดของการเป็นคนสกปรก ขี้เกียจ ไม่สนใจสารรูปของตนเอง บริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และชอบอยู่ในบ้านไม่ออกไปข้างนอก. ➼ สำหรับสำนักพิมพ์ดิกชันนารี Merriam-Webster ได้เลือก Word of the Year คำว่า "gaslighting" ซึ่งหมายความถึงการพยายามทำให้บุคคลหนึ่งรู้สึกไม่มั่นคงและสั่นคลอนในความเชื่อของตน จนทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่เห็นหรือมีประสบการณ์มิได้เกิดขึ้นจริง. ซึ่งเพื่อประโยชน์ของตนเอง. ➼ สำนักพิมพ์ดิกชันนารี Collins เลือก "permacrisis" ซึ่งแปลว่าวิกฤตที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและคงทน เพื่อเล่าสถานการณ์ของโลกปัจจุบันที่คาดเดาได้ยาก เกิดความไม่มั่นคงในหลายด้าน บรรยากาศเต็มไปด้วยความวุ่นวาย. อ้างอิง: ...

Reserve Currency (s.538)

  #จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy  ➼ Reserve Currency คือ เงินตราต่างประเทศที่ธนาคารกลางและสถาบันการเงินใหญ่ๆ ในโลกถือไว้เป็นจำนวนมาก เพื่อใช้ในการค้า การลงทุนและการชำระหนี้ระหว่างประเทศ. ➼ ตั้งแต่ปี 1944 มี 44 ประเทศได้ตกลงกันที่เมือง Bretton Woods ที่จะให้ดอลลาร์เป็นเงินตราที่จะใช้ในธุรกรรมระหว่างประเทศ โดยประเทศต่างๆ จะผูกค่าเงินของตนไว้กับดอลลาร์ และดอลลาร์ก็จะผูกไว้กับทองคำอีกต่อหนึ่ง ในอัตรา 35 ดอลลาร์ต่อทองทำ 1 Troy Ounce นี่เป็นจุดกำหนดของระบบอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ (Fixed Exchange Rate System). ➼ ในปี 1973 ประธานาธิบดีนิกสันได้ประกาศยกเลิกการผูกค่าเงินดอลลาร์ไว้กับทองคำ อันเป็นจุดเริ่มต้นของระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัว (Flexible Exchange Rate System) โดยแม้ดอลลาร์จะไม่มีทองคำหนุนหลัง แต่ดอลลาร์ก็ยังคงเป็น reserve currency หลักของโลกมาตลอดมาตลอดเกือบ 80 ปี เพราะสภาพคล่องที่มีสูงมาก. ➼ สหรัฐถือเป็นประเทศที่ได้เปรียบทุกประเทศในการที่สามารถใช้เงินของตนทำธุรกรรมต่างประเทศได้ อย่างไรก็ดี ในระยะยาว ยังมีคำถามที่เกิดขึ้นคือ ดอลลาร์อาจสูญเสียความเป็น reserve currency หลักของ...