ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

โรงงานผลิตพืช (s.168)

 


บทความในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 23 พ.ย. 63 โดยทีมงานวิเคราะห์ตลาดและเทคโนโลยี (MIIT) เนคเทค เรื่องสถานภาพอุตสาหกรรม 'Plant Facotry' ซึ่งมีความน่าสนใจและน่าจะเหมาะกับบริบทของสังคมไทยที่เป็นสังคมเกษตรกรรม โดยขอนำมาสรุปเล่าให้ฟังในที่นี้


โดยโรงงานผลิตพืช หรือ Plant Factory เป็นการปลูกพืชภายในอาคารหรือสถานที่ที่ถูกสร้างและออกแบบมาโดยเฉพาะ ซึ่งควบคุมสภาวะสิ่งแวดล้อมต่างๆ เช่น อุณหภูมิ แสงแดด สารอาหาร ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นต้น เป้าหมายเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมที่สุดที่ทำให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพและดีที่สุดตลอดปี ซึ่งจะข้อดีอื่นๆ ด้วย เช่น 1.ป้องกันศัตรูพืชและลดความเสียหายจากการใช้ยาฆ่าแมลง  2.เพิ่มก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้กับพืชโดยตรงทำให้พืชเติบโตได้มากขึ้น และ 3.ปรับปรุงการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและประหยัดการใช้น้ำ.

-

หากคิดถึงสภาพปัจจุบันที่พื้นที่ทางการเกษตรเสื่อมโทรมมากขึ้น ทำให้ขาดแคลนพื้นที่การเกษตร ประกอบกับสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวนถี่ขึ้น อีกทั้งการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากร ทำให้มีความต้องการอาหารและพื้นที่เพาะปลูกมากขึ้นตาม.  การปลูกพืชแนวตั้ง (vertical farming) และการทำโรงงานผลิตพืช (plant factory) จึงถือเป็นทางเลือกหนึ่งในการแก้ไขปัญหา.  ทั้งนี้เมื่อพิจารณาถึงอุตสาหกรรมการปลูกพืชแนวตั้งและโรงงานผลิตพืชพบว่ามีมูลค่าถึง 46.8 พันล้านบาท ในปี 2561 และคาดว่าจะมีมูลค่าถึง 682.8 พันล้านบาท ในปี 2568 ซึ่งคิดอัตราเติบโต 39.8% ต่อปี  โดยภูมิภาคเอเซียแปซิฟิคจะเป็นผู้เล่นที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดภายในปี 2565 

-

เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมประกอบด้วย 1.ระบบปลูกแบบไร้ดิน  2.หลอดไฟแอลอีดี  3.เทคโนโลยีด้านแสง  4.วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และ 5.ระบบอัตโนมัติและ AI สำหรับติดตามการเพาะปลูก ซึ่งปัจจุบันหลายประเทศได้มีการแข่งขันกันวิจัยพัฒนาและสร้างเทคโนโลยีในเรื่องดังกล่าวเพื่อสนับสนุนการทำ plant factory อย่างต่อเนื่อง. จึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศเกษตรกรรมและมีความรู้ในเรื่องการเกษตรเป็นพื้นฐานอย่างดี จะละเลยการวิจัยพัฒนาเพื่อสร้างเทคโนโลยีในเรื่องที่เกี่ยวข้องในการต่อยอดกับเกษตรกรรมในประเทศของเรา ทั้งนี้หากเอาจริงกับเรื่องดังกล่าว จะสามารถช่วยยกระดับการแข่งขันและเพิ่มโอกาสให้ประเทศก้าวสู่การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในภาคเกษตรกรรมต่อไป. 


#busguy 
#ธุรกิจแบ่งปัน #business

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กระตุ้นพฤติกรรม ด้วยโบนัสแบบ Spot (s.154)

  บริษัทจำนวนมาจะมีระบบการให้ผลตอบแทนที่เรียกว่า "โบนัส" ประจำปี  โดยอาจพิจารณาจากผลประกอบการของบริษัทร่วมกับผลงานของพนักงาน และโบนัสดังกล่าวมักอยู่ในรูปของเงินก้อนใหญ่เมื่อเปรียบกับเงินเดือนของพนักงานผู้นั้น ทำให้บริษัทต้องมีภาระทางการเงินเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาดังกล่าวที่มีการให้โบนัส  อย่างไรก็ดียังมีวิธีหนึ่งในการให้ผลตอบแทนพนักงานซึ่งเป็นการให้ที่ถี่กว่าและจำนวนเงินก้อนเล็กกว่าเมื่อเทียบกับโบนัสประจำปี ซึ่งอาจเรียกว่าโบนัสในลักษณะนี้ว่าเป็น Spot Bonus โดยทั่วไปนั้น Spot Bonus จะให้กับพนักงานหรือกลุ่มของพนักงานสำหรับพฤติรรม การกระทำ หรือผลลัพธ์ในเรื่องหนึ่งๆ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกระตุ้นผลงานและสร้างแรงจูงใจของพนักงานในการทำงาน โดยมักเกี่ยวข้องกับงานที่เป็นโครงการ หรือเป็นการให้เพื่อส่งเสริมการกระทำหรือพฤติกรรมบางอย่างที่บริษัทประสงค์จากตัวพนักงาน.  ประโยชน์การนำ Spot Bonus มาใช้ในองค์กรนั้นมีประเด็นที่น่าสนใจที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ ดังนี้ 1. Spot Bonus สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับพนักงานได้บ่อยครั้งขึ้น - แทนที่ต้องรอโบนัสในช่วงปลายปี การให้ Spot Bonus จะ...

หงส์ดำ แรดเทา ความเสี่ยง (s.257)

#busguy #ธุรกิจแบ่งปัน #business . สัตว์สองตัวที่มักถูกนำมาเรียกเปรียบเปรยในช่วงสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 นี้ได้แก่ หงส์ดำ (Back Swan) และ แรดเทา (Grey Rhino) ซึ่งมีนอกเหนือจากที่มีการเปรียบเปรยแล้ว ยังมีการถกเถียงกันถึงเรื่องว่าเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโควิดนี้ควรจัดเป็นเหตุการณ์ลักษณะของ หงส์ดำ หรือ แรดเทา กันแน่ โดยเหตุการณ์ทั้งสองถือเป็นสิ่งเราควรเรียนรู้ในเรื่องของการบริหารความเสี่ยง . เรื่องของ หงส์ดำ มีมาช้านานแล้ว โดยใช้เปรียบเปรยในลักษณะของเหตุการณ์ที่เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากในอดีตนั้น คนส่วนใหญ่จะคิดว่าหงส์จะต้องเป็นสีขาวเท่านั้น ดังนั้นหงส์ดำจึงเป็นสิ่งนอกความคิดหรือเป็นไปไม่ได้. อย่างไรก็ดี เมื่อต่อมาได้มีการค้นพบหงส์ดำเกิดขึ้นจริง การเปรียบเปรยหงส์ดำก็กลายเป็นการกล่าวถึงเหตุการณ์ที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้หรือไม่น่ามีทางเกิดขึ้น แต่สุดท้ายก็เป็นไปได้. ทั้งนี้เหตุการณ์ที่จะเป็นหงส์ดำต้องมีลักษณะ 1.เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดมาก่อน ข้อมูลในอดีตไม่มีการบ่งบอกที่จะเกิดเหตุการณ์นั้น 2. มีผลกระทบที่รุนแรง และ 3. เมื่อมันเกิดขึ้นจริง แล้วเรามองย้อนกลับไป ก็จะสามารถหาเหตุผลมาอธิบายการเกิดข...

Word of the Year 2022 (s.540)

  #จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy  ➼ Word of The Year ที่นำเสนอโดยสำนักพิมพ์ดิกชันนารีออกฟอร์ด ซึ่งได้ประกาศออกมาโดยการใช้วิธีการโหวตออนไลน์ ได้คำว่า "goblin mode" ซึ่งหมายถึงชนิดของพฤติกรรมที่ตามใจตนเอง ขี้เกียจ ดูสกปรก ไร้ระเบียบ มีลักษณะทั่วไปที่ปฏิเสธแบบแผนของสังคมซึ่งเป็นที่ยอมรับกัน. ➼ การตีความว่าคนอยู่ในโหมดของการเป็น goblin หมายถึงคนที่เลือกเองว่าจะอยู่ในโหมดของการเป็นคนสกปรก ขี้เกียจ ไม่สนใจสารรูปของตนเอง บริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และชอบอยู่ในบ้านไม่ออกไปข้างนอก. ➼ สำหรับสำนักพิมพ์ดิกชันนารี Merriam-Webster ได้เลือก Word of the Year คำว่า "gaslighting" ซึ่งหมายความถึงการพยายามทำให้บุคคลหนึ่งรู้สึกไม่มั่นคงและสั่นคลอนในความเชื่อของตน จนทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่เห็นหรือมีประสบการณ์มิได้เกิดขึ้นจริง. ซึ่งเพื่อประโยชน์ของตนเอง. ➼ สำนักพิมพ์ดิกชันนารี Collins เลือก "permacrisis" ซึ่งแปลว่าวิกฤตที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและคงทน เพื่อเล่าสถานการณ์ของโลกปัจจุบันที่คาดเดาได้ยาก เกิดความไม่มั่นคงในหลายด้าน บรรยากาศเต็มไปด้วยความวุ่นวาย. อ้างอิง: ...