ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

น้ำมัน ยุคหลังโควิด-19 (s.63)



จากบทความใน SCB EIC เรื่อง "COVID-19 จะส่งผลต่ออุปสงค์น้ำมันอย่างไร" โดย ดร.ศิวาลัย ขันธะชวนะ ซึ่งได้วิเคราะห์ความเป็นไปได้ของโลกอุปสงค์ในน้ำมันหลังยุคโควิด ซึ่งมีความน่าสนใจไม่น้อย จึงอยากนำมาสรุปจดเก็บบันทึกไว้
.
✅ วิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้อุปสงค์ในน้ำมันหดหายไปอย่างมาก โดยในเดือนเมษายน 2020 ที่มีการแพร่ระบาดกระจายหลายพื้นที่พบว่าอุปสงค์น้ำมันโลกปรับลดลงถึง 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือคิดเป็น 30% ของความต้องการการใช้น้ำมันทั้งหมด. 

✅ EIC มองว่าในระยะสั้น พฤติกรรมการเดินทางของคนเปลี่ยนแปลงไปจากความกังวลของ COVID-19 ที่ยังมีอยู่ ยกตัวอย่างเช่นประเทศจีนในช่วงวันหยุดยาวแรงงาน (1-5 พ.ค. 2020) ซึ่งเป็นช่วงที่วิกฤตเริ่มดีขึ้นแล้วในประเทศแต่การเดินทางยังหดตัวเมื่อเทียบกับปีที่แล้วถึง 41% YoY. 

✅ ในระยะยาวแล้ว ลักษณะการทำงานในอนาคตอาจเป็นรูปแบบทางไกลมากขึ้นโดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งจะกดดันความต้องการใช้น้ำมันในอนาคต โดยมีผลสำรวจพนักงาน full time ในสหรัฐฯ มากกว่า 1,200 คน โดย getAbstract พบว่าพนักงานเกือบ 43% ยังคงต้องการทำงานที่บ้านหลังจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 สิ้นสุดลง 

✅ นอกจากนี้ จากบทเรียน supply chain ทั่วโลกเกิดการหยุดชะงักในช่วงที่มีมาตรการล็อกดาวน์และปิดประเทศ New Normal ของ supply chain จะมีแนวโน้มจะถูกปรับให้สั้นลง ใช้วัตถุดิบหรือสินค้าขั้นกลางในประเทศมากขึ้น ลดการพึ่งพาการผลิตแบบกระจายฐานการผลิตหลายประเทศให้มาอยู่ประเทศเดียว

✅ อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยสนับสนุนการใช้น้ำมัน (ในระยะสั้น) เช่น ความกังวลเรื่องเชื้อโรคทำให้คนเปลี่ยนวิธีเดินทางมาเป็นรถยนต์ส่วนตัวมากขึ้น  นอกจากนี้จากราคาน้ำมันดิบที่ตกอย่างรุนแรงและอยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้ความสามารถทางการแข่งขันของพลังงานทางเลือกและรถยนต์ไฟฟ้าลดลงและคนอาจมีแนวโน้มจะใช้น้ำมันมากขึ้น.
.
💡 ถึงแม้ว่าในระยะยาวเราทุกคนเชื่อว่าการใช้พลังงานฟอสซิลจะมีความต้องการลดน้อยลง และแทนด้วยพลังงานที่สะอาดมากขึ้น อย่างไรก็ดีในระยสั้นแล้วความต้องการของน้ำมันในอนาคตยังคงเป็นสิ่งที่มีความไม่แน่นอนสูงไม่ราบเรียบเหมือนในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งจะเป็นตัวฉุดรั้งนวัตกรรมทางด้านพลังงานไม่ให้สามารถเกิดการพัฒนาไปได้ดังเช่นช่วงก่อนหน้า
.
#busguy
#ธุรกิจแบ่งปัน #business
.
อ้างอิง https://www.scbeic.com/th/detail/product/6909

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กระตุ้นพฤติกรรม ด้วยโบนัสแบบ Spot (s.154)

  บริษัทจำนวนมาจะมีระบบการให้ผลตอบแทนที่เรียกว่า "โบนัส" ประจำปี  โดยอาจพิจารณาจากผลประกอบการของบริษัทร่วมกับผลงานของพนักงาน และโบนัสดังกล่าวมักอยู่ในรูปของเงินก้อนใหญ่เมื่อเปรียบกับเงินเดือนของพนักงานผู้นั้น ทำให้บริษัทต้องมีภาระทางการเงินเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาดังกล่าวที่มีการให้โบนัส  อย่างไรก็ดียังมีวิธีหนึ่งในการให้ผลตอบแทนพนักงานซึ่งเป็นการให้ที่ถี่กว่าและจำนวนเงินก้อนเล็กกว่าเมื่อเทียบกับโบนัสประจำปี ซึ่งอาจเรียกว่าโบนัสในลักษณะนี้ว่าเป็น Spot Bonus โดยทั่วไปนั้น Spot Bonus จะให้กับพนักงานหรือกลุ่มของพนักงานสำหรับพฤติรรม การกระทำ หรือผลลัพธ์ในเรื่องหนึ่งๆ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกระตุ้นผลงานและสร้างแรงจูงใจของพนักงานในการทำงาน โดยมักเกี่ยวข้องกับงานที่เป็นโครงการ หรือเป็นการให้เพื่อส่งเสริมการกระทำหรือพฤติกรรมบางอย่างที่บริษัทประสงค์จากตัวพนักงาน.  ประโยชน์การนำ Spot Bonus มาใช้ในองค์กรนั้นมีประเด็นที่น่าสนใจที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ ดังนี้ 1. Spot Bonus สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับพนักงานได้บ่อยครั้งขึ้น - แทนที่ต้องรอโบนัสในช่วงปลายปี การให้ Spot Bonus จะ...

หงส์ดำ แรดเทา ความเสี่ยง (s.257)

#busguy #ธุรกิจแบ่งปัน #business . สัตว์สองตัวที่มักถูกนำมาเรียกเปรียบเปรยในช่วงสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 นี้ได้แก่ หงส์ดำ (Back Swan) และ แรดเทา (Grey Rhino) ซึ่งมีนอกเหนือจากที่มีการเปรียบเปรยแล้ว ยังมีการถกเถียงกันถึงเรื่องว่าเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโควิดนี้ควรจัดเป็นเหตุการณ์ลักษณะของ หงส์ดำ หรือ แรดเทา กันแน่ โดยเหตุการณ์ทั้งสองถือเป็นสิ่งเราควรเรียนรู้ในเรื่องของการบริหารความเสี่ยง . เรื่องของ หงส์ดำ มีมาช้านานแล้ว โดยใช้เปรียบเปรยในลักษณะของเหตุการณ์ที่เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากในอดีตนั้น คนส่วนใหญ่จะคิดว่าหงส์จะต้องเป็นสีขาวเท่านั้น ดังนั้นหงส์ดำจึงเป็นสิ่งนอกความคิดหรือเป็นไปไม่ได้. อย่างไรก็ดี เมื่อต่อมาได้มีการค้นพบหงส์ดำเกิดขึ้นจริง การเปรียบเปรยหงส์ดำก็กลายเป็นการกล่าวถึงเหตุการณ์ที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้หรือไม่น่ามีทางเกิดขึ้น แต่สุดท้ายก็เป็นไปได้. ทั้งนี้เหตุการณ์ที่จะเป็นหงส์ดำต้องมีลักษณะ 1.เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดมาก่อน ข้อมูลในอดีตไม่มีการบ่งบอกที่จะเกิดเหตุการณ์นั้น 2. มีผลกระทบที่รุนแรง และ 3. เมื่อมันเกิดขึ้นจริง แล้วเรามองย้อนกลับไป ก็จะสามารถหาเหตุผลมาอธิบายการเกิดข...

Word of the Year 2022 (s.540)

  #จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy  ➼ Word of The Year ที่นำเสนอโดยสำนักพิมพ์ดิกชันนารีออกฟอร์ด ซึ่งได้ประกาศออกมาโดยการใช้วิธีการโหวตออนไลน์ ได้คำว่า "goblin mode" ซึ่งหมายถึงชนิดของพฤติกรรมที่ตามใจตนเอง ขี้เกียจ ดูสกปรก ไร้ระเบียบ มีลักษณะทั่วไปที่ปฏิเสธแบบแผนของสังคมซึ่งเป็นที่ยอมรับกัน. ➼ การตีความว่าคนอยู่ในโหมดของการเป็น goblin หมายถึงคนที่เลือกเองว่าจะอยู่ในโหมดของการเป็นคนสกปรก ขี้เกียจ ไม่สนใจสารรูปของตนเอง บริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และชอบอยู่ในบ้านไม่ออกไปข้างนอก. ➼ สำหรับสำนักพิมพ์ดิกชันนารี Merriam-Webster ได้เลือก Word of the Year คำว่า "gaslighting" ซึ่งหมายความถึงการพยายามทำให้บุคคลหนึ่งรู้สึกไม่มั่นคงและสั่นคลอนในความเชื่อของตน จนทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่เห็นหรือมีประสบการณ์มิได้เกิดขึ้นจริง. ซึ่งเพื่อประโยชน์ของตนเอง. ➼ สำนักพิมพ์ดิกชันนารี Collins เลือก "permacrisis" ซึ่งแปลว่าวิกฤตที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและคงทน เพื่อเล่าสถานการณ์ของโลกปัจจุบันที่คาดเดาได้ยาก เกิดความไม่มั่นคงในหลายด้าน บรรยากาศเต็มไปด้วยความวุ่นวาย. อ้างอิง: ...