ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

การกระตุ้นให้เกิดนิสัย (s.50)




มีเพียงความเข้าใจที่อยู่ในใจของผู้ใช้เท่านั้นที่จะทำให้เราสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่ต้องการจนเกิดเป็นนิสัยของผู้ใช้
.
✅ นิสัยใหม่ๆ ต้องอาศัยรากฐานในการก่อตัว และรากฐานของการสร้างนิสัยก็มาจากการตุ้นนั่นเอง ทั้งนี้การกระตุ้นแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ (1) ตัวกระตุ้นภายนอก และ (2) ตัวกระตุ้นภายใน
✅ ตัวกระตุ้นภายนอกเป็นการบ่งบอกที่ให้ผู้ใช้ทราบว่าต้องทำอะไรต่อไป ตัวอย่างได้แก่ ปุ่มกดในแอพพลิเคชั่นซึ่งทำให้เด่นสะดุดตา
✅ ตัวกระตุ้นภายนอกมี 4 ประเภท ได้แก่
        1. ตัวกระตุ้นแบบเสียเงิน : มีประสิทธิภาพแต่สิ้นเปลืองในการดึงดูดให้ผู้ใช้กลับมา อีกทั้งตัวเลือกนี้ไม่ยั่งยืน บริษัทส่วนใหญ่จึงใช้เฉพาะการดึงดูดลูกค้าใหม่ และเมื่อลูกค้าเข้ามาใช้ ก็จะเปลี่ยนไปใช้ตัวกระตุ้นอื่นต่อไป
        2. ตัวกระตุ้นแบบลงทุนลงแรง : อาศัยการลงทุนในรูปแบบการทุ่มเทเวลาเพื่อสร้างความสัมพันธ์
        3. ตัวกระตุ้นจากความสัมพันธ์ : เป็นการที่บุคคลหนึ่งบอกคนอื่นๆ เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ เช่น การกด like ใน facebook หรือการบอกปากต่อปาก เป็นต้น
        4. ตัวกระตุ้นแบบยอมรับเอง : ถูกกำหนดขึ้นต่อเมื่อผู้ใช้สมัครสมาชิกเพื่อสร้างบัญชี กรอกอีเมล์ตัวเอง หรือทำสิ่งใดๆ ที่บอกว่าผู้ใช้อยากได้รับการติดต่อหลังจากนี้ 
✅ ตัวกระตุ้นภายในจะปรากฎขึ้นในความคิดของเราโดยอัตโนมัติ การเชื่อมโยงตัวกระตุ้นภายในเข้ากับผลิตภัณฑ์จะสร้างโอกาสสำเร็จของบริษัท  ทั้งนี้อารมณ์โดยเฉพาะอารมณ์ด้านลบ จะเป็นตัวกระตุ้นภายในที่ทรงพลังและมีอิทธิพลอย่างยิ่ง. ผลิตภัณฑ์ของเราต้องถูกออกแบบมาเพื่อการแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้า อันจะทำให้เกิดความเชื่อมโยงด้านบวกของลูกค้าที่แนบแน่นกับผลิตภัณฑ์
✅ การหาตัวกระตุ้นภายในของลูกค้าต้องอาศัยการเรียนรู้เกี่ยวกับผู้คนมากกว่าสิ่งที่เขาบอกให้คุณทราบ ซึ่งเราต้องระบุให้ได้ถึงความคับข้องใจหรือความเจ็บปวดทางอารมณ์ของผู้ใช้ 
.  
💡 เมื่อผู้ใช้ใช้จนเกิดเป็นนิสัย ผลิตภัณฑ์ก็ไม่ต้องอาศัยแรงผลักดันที่ชัดเจนอีกต่อไป แต่อาศัยการตอบสนองต่อความรู้สึกโดยอัตโนมัติ  ดังนั้นเจ้าของผลิตภัณฑ์ควรพยายามทำความเข้าใจว่าผู้ใช้มีปัญหาอย่างไร เพื่อนำมาสร้างผลิตภัณฑ์ที่ช่วยแก้ปัญหาให้กับลูกค้าได้ อันเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างนิสัยที่ให้ลูกค้าชอบผลิตภัณฑ์ของเรา.
#busguy
#ธุรกิจแบ่งปัน #business

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กระตุ้นพฤติกรรม ด้วยโบนัสแบบ Spot (s.154)

  บริษัทจำนวนมาจะมีระบบการให้ผลตอบแทนที่เรียกว่า "โบนัส" ประจำปี  โดยอาจพิจารณาจากผลประกอบการของบริษัทร่วมกับผลงานของพนักงาน และโบนัสดังกล่าวมักอยู่ในรูปของเงินก้อนใหญ่เมื่อเปรียบกับเงินเดือนของพนักงานผู้นั้น ทำให้บริษัทต้องมีภาระทางการเงินเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาดังกล่าวที่มีการให้โบนัส  อย่างไรก็ดียังมีวิธีหนึ่งในการให้ผลตอบแทนพนักงานซึ่งเป็นการให้ที่ถี่กว่าและจำนวนเงินก้อนเล็กกว่าเมื่อเทียบกับโบนัสประจำปี ซึ่งอาจเรียกว่าโบนัสในลักษณะนี้ว่าเป็น Spot Bonus โดยทั่วไปนั้น Spot Bonus จะให้กับพนักงานหรือกลุ่มของพนักงานสำหรับพฤติรรม การกระทำ หรือผลลัพธ์ในเรื่องหนึ่งๆ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกระตุ้นผลงานและสร้างแรงจูงใจของพนักงานในการทำงาน โดยมักเกี่ยวข้องกับงานที่เป็นโครงการ หรือเป็นการให้เพื่อส่งเสริมการกระทำหรือพฤติกรรมบางอย่างที่บริษัทประสงค์จากตัวพนักงาน.  ประโยชน์การนำ Spot Bonus มาใช้ในองค์กรนั้นมีประเด็นที่น่าสนใจที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ ดังนี้ 1. Spot Bonus สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับพนักงานได้บ่อยครั้งขึ้น - แทนที่ต้องรอโบนัสในช่วงปลายปี การให้ Spot Bonus จะ...

Word of the Year 2022 (s.540)

  #จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy  ➼ Word of The Year ที่นำเสนอโดยสำนักพิมพ์ดิกชันนารีออกฟอร์ด ซึ่งได้ประกาศออกมาโดยการใช้วิธีการโหวตออนไลน์ ได้คำว่า "goblin mode" ซึ่งหมายถึงชนิดของพฤติกรรมที่ตามใจตนเอง ขี้เกียจ ดูสกปรก ไร้ระเบียบ มีลักษณะทั่วไปที่ปฏิเสธแบบแผนของสังคมซึ่งเป็นที่ยอมรับกัน. ➼ การตีความว่าคนอยู่ในโหมดของการเป็น goblin หมายถึงคนที่เลือกเองว่าจะอยู่ในโหมดของการเป็นคนสกปรก ขี้เกียจ ไม่สนใจสารรูปของตนเอง บริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และชอบอยู่ในบ้านไม่ออกไปข้างนอก. ➼ สำหรับสำนักพิมพ์ดิกชันนารี Merriam-Webster ได้เลือก Word of the Year คำว่า "gaslighting" ซึ่งหมายความถึงการพยายามทำให้บุคคลหนึ่งรู้สึกไม่มั่นคงและสั่นคลอนในความเชื่อของตน จนทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่เห็นหรือมีประสบการณ์มิได้เกิดขึ้นจริง. ซึ่งเพื่อประโยชน์ของตนเอง. ➼ สำนักพิมพ์ดิกชันนารี Collins เลือก "permacrisis" ซึ่งแปลว่าวิกฤตที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและคงทน เพื่อเล่าสถานการณ์ของโลกปัจจุบันที่คาดเดาได้ยาก เกิดความไม่มั่นคงในหลายด้าน บรรยากาศเต็มไปด้วยความวุ่นวาย. อ้างอิง: ...

Reserve Currency (s.538)

  #จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy  ➼ Reserve Currency คือ เงินตราต่างประเทศที่ธนาคารกลางและสถาบันการเงินใหญ่ๆ ในโลกถือไว้เป็นจำนวนมาก เพื่อใช้ในการค้า การลงทุนและการชำระหนี้ระหว่างประเทศ. ➼ ตั้งแต่ปี 1944 มี 44 ประเทศได้ตกลงกันที่เมือง Bretton Woods ที่จะให้ดอลลาร์เป็นเงินตราที่จะใช้ในธุรกรรมระหว่างประเทศ โดยประเทศต่างๆ จะผูกค่าเงินของตนไว้กับดอลลาร์ และดอลลาร์ก็จะผูกไว้กับทองคำอีกต่อหนึ่ง ในอัตรา 35 ดอลลาร์ต่อทองทำ 1 Troy Ounce นี่เป็นจุดกำหนดของระบบอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ (Fixed Exchange Rate System). ➼ ในปี 1973 ประธานาธิบดีนิกสันได้ประกาศยกเลิกการผูกค่าเงินดอลลาร์ไว้กับทองคำ อันเป็นจุดเริ่มต้นของระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัว (Flexible Exchange Rate System) โดยแม้ดอลลาร์จะไม่มีทองคำหนุนหลัง แต่ดอลลาร์ก็ยังคงเป็น reserve currency หลักของโลกมาตลอดมาตลอดเกือบ 80 ปี เพราะสภาพคล่องที่มีสูงมาก. ➼ สหรัฐถือเป็นประเทศที่ได้เปรียบทุกประเทศในการที่สามารถใช้เงินของตนทำธุรกรรมต่างประเทศได้ อย่างไรก็ดี ในระยะยาว ยังมีคำถามที่เกิดขึ้นคือ ดอลลาร์อาจสูญเสียความเป็น reserve currency หลักของ...