ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เคล็ดลับการบริหารจัดการที่น่าสนใจในปี 2019


เราขอสรุป 10 เคล็ดลับสำหรับวิธีบริหารจัดการที่น่าสนใจในปี 2019 ที่ผ่านมาว่ามีเทคนิตเคล็ดลับอะไรกันบ้าง

1. Timebox วางแผนการทำงานมากกว่าแค่ To-Do List
     - ปัญหาของ To-do List คือ มันไม่ได้มีการกำหนดว่างานนั้นจะเสร็จเมื่อไหร่
     - Timebox เป็นเทคนิคของการกำหนดช่วงเวลาในปฏิทินว่าเราจะทำงานอะไร
     - ข้อดีของ Timebox คือ การที่่ทำให้คุณสามารถควบคุมปฏิทินงานของคุณได้ในระดับหนึ่ง
     - หากคุณสนใจ ลองค้นหา Timebox เพื่อปรับใช้กับการทำงานของคุณ แล้วคุณอาจพบว่าประสิทธิภาพในการจัดการเวลาของคุณจะเพิ่มมากขึ้นจนคุณประหลาดใจ

2. เพิ่มประสิทธิภาพของการคิดเชิงวิเคราะห์
     - การคิดเชิงวิเคราะห์จะช่วยให้ในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ ทำได้ดีขึ้น
     - เทคนิค 3 ขั้นตอน สำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพในการคิดเชิงวิเคราะห์
     - หนึ่ง เข้าใจถึงสมมุติฐานของคุณเมื่อต้องตัดสินใจ โดยเฉพาะเมื่อผลกระทบของการตัดสินใจสูง
     - สอง ทำความเข้าใจตรรกะ โดยพิจาณาข้อมูลหลักฐานที่มีว่าสนับสนุนผลสรุปที่ได้หรือไม่
     - สาม พยายามหามุมมองใหม่ โดยอาจขอความเห็นจากคนที่มีความเห็นแตกต่าง เป็นต้น

3. เทคนิคการโน้มน้าวเมื่อนำเสนอ
     - ในการขายความคิดในที่ทำงานหรือระหว่างการนำเสนอ มีเทคนิค 5 ข้อ ประกอบด้วย
     - (i) เริ่มจากการพูดถึงตัว เกี่ยวกับประสบการณ์หรือคุณสมบัติว่าทำไมเราถึงเหมาะสมหรือมีความรู้อย่างไรกับเรื่องที่จะพูด
     - (ii) ใช้ข้อมูล หลักฐาน และข้อเท็จจริงในการนำเสนอ
     - (iii) รวบความคิดออกมาเป็นเรื่องราว จะช่วยให้ผู้รับฟังมีอารมณ์ร่วมและคล้อยตาม
     - (iv) เปรียบเทียบความคิดที่เราต้องการนำเสนอ ให้ออกมาในรูปที่ผู้ฟังรู้สึกคุ้นเคย
     - (v) อธิบายความคิดของเราให้เป็นคำพูดที่สั้นที่สุด และให้พูดประเด็นสนับสนุนที่สำคัญเป็นอันดับแรก

4. การหยุดย้ำคิดในข้อผิดพลาดของคุณ
     - การวนเวียนคิดถึงข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นตลอดเวลาจะทำให้เราเกิดความกังวลอย่างรุนแรง
     - การหยุดวงจรความคิดดังกล่าว เริ่มจากการที่เราต้องระบุตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดการครุ่นคิด
     - สังเกตถึงช่วงเวลาหรือเหตุผลในสถานการณ์ที่ทำให้เกิดอาการครุ่นคิด
     - เทคนิคหนึ่งที่ช่วยคือพยายามนำตัวเองออกจากความคิดที่เป็นลบ โดยการจำแนกความคิดดังกล่าวเป็น "ความคิด" หรือ "ความรู้สึก" ซึ่งการที่เราแยกความคิดที่เป็นลบเป็นให้เป็นเพียงความรู้สึก จะทำให้ตัวตนของเราแยกออกมาจากความรู้ดังกล่าวได้ง่ายขึ้น
     - นอกจากนี้การเปลี่ยนความสนใจโดยไปทำกิจกรรมอย่างอื่น ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้เราหยุดคิดซ้ำๆ ถึงข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้

5. รู้เวลาที่เหมาะสมในการที่จะหยุดพูด และเริ่มรับฟัง
     - ในการสนทนาระหว่างผู้จัดการและลูกน้อง บ่อยครั้งที่ผู้จัดการจะเป็นผู้นำในการสนทนา และละเลยความคิดเห็นที่ต่างๆ ของลูกน้อง
     - ผู้จัดการต้องตระหนักรู้ตนเองตลอดเวลา และพยายามที่จะไม่พูดเยอะจนเกินไป โดยให้กำหนดเวลาในการรับฟังเท่ากับเวลาที่เราพูด
     - ในการประชุมต่างๆ เมื่อมีคนถามคำถามหรือให้ความเห็น. ให้ผู้จัดการถามความเห็นของลูกน้องทุกคนก่อนที่ผู้จัดการจะออกความเห็นของตนเอง
     - นอกจากนี้ผู้จัดการยังควรหาเวลาในการพูดคุยตัวต่อตัวกับลูกน้องในทีม เพื่อสนับสนุนการสนทนาแบบเปิดระหว่างกัน

6. ก่อนที่จะคุยเรื่องที่ซีเรียส คุณต้องเตรียมตัว-เตรียมตัว และ เตรียมตัว
     - การจะเริ่มคุยเรื่องที่ซีเรียส อย่างแรกคือคุณต้องรู้ก่อนว่าอะไรถือตัวกระตุ้นให้คุณอยากคุย และคุณต้องการอะไรหลังจากที่คุยแล้ว
     - ขั้นต่อมาคือ คุณต้องรวบรวมข้อเท็จจริงเพื่อสนับสนุนจุดยืนของคุณ รวมถึงคิดถึงข้อกังวลที่อาจเกิดขึ้นของคนที่คุณคุยด้วย
     - การคุยด้วยข้อเท็จจริงและทำความเข้าใจในจุดยืนหรือข้อกังวลของคนที่เราจะคุยด้วย จะทำให้คู่สนทนาสามารถหาข้อสรุปร่วมกันสำหรับการคุยเรื่องซีเรียสนั้นได้

7. ตั้งมาตรฐานที่มีคุณภาพสำหรับทีมของคุณ
     - การมีมาตรฐานการทำงานที่ดี ผู้จัดการต้องเป็นผู้นำในการสร้างมาตรฐานที่ดีที่มีคุณภาพสำหรับทีม ยกตัวอย่างเช่น
     - ทำให้เป็นตัวอย่าง : ผู้จัดการต้องแสดงให้ทีมเห็นเป็นตัวอย่างของสิ่งที่ผู้จัดการอยากให้ทีมเป็น เช่น การทำงานเป็นทีม การรับฟังความเห็นคนอื่น เป็นต้น
     - ให้วางแผนกำหนดช่วงเวลาพิเศษ : งานวิจัยพบว่าคนทั่วไปมักจะคิดในแง่ดีและประมาณระยะเวลาที่ต้องใช้การทำงานน้อยเกินไป  การกำหนดช่วงเวลาพิเศษ (เผื่อฉุกเฉิน) สำหรับการทำงานที่ยังไม่สำเร็จจะช่วยให้เราสามารถบริหารเวลางานที่ต้องทำให้ได้ดีขึ้นโดยไม่รบกวนเวลาในการทำกิจกรรมอื่นที่ได้กำหนดไว้แล้ว

8. การจัดประชุมที่ดี ต้องมีพื้นฐานที่ถูกต้อง
     - เมื่อจะจัดประชุม ให้คิดถึงเหตุผลที่คุณจำเป็นต้องจัดประชุมเป็นว่าทำไม? ซึ่งการที่คุณเข้าใจเหตุผลและมีเป้าหมายของการประชุมจะช่วยให้คุณสามารถกำหนดวาระประชุมที่เป็นประโยชน์ได้
     - ต่อมาคือการเลือกผู้เข้าร่วมประชุม โดยให้พิจารณาว่าใคร คือ ผู้มีอำนาจตัดสินใจ ผู้ที่มีอิทธิพลต่อทีม และ ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ในเรื่องที่จะประชุมนั้น
     - การเป็นผู้อำนวยการประชุม หน้าที่ของคุณคือ การให้ผู้เข้าร่วมประชุมรู้สึกรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ของการประชุม โดยภายหลังจากการประชุมให้ใช้เวลาในการสรุปภาพรวมดังกล่าวซ้ำอีกครั้ง

9. อย่าปัดข้อเสนอแนะที่เป็นบวก แต่ให้ลองศึกษา
     - คนโดยทั่วไป มักจะรู้สึกถึงการคุมคามเมื่อเวลาที่เราได้รับข้อเสนอแนะจากผู้อื่น โดยเรามักละเลยความคิดเห็นเสนอแนะที่มีโดยไม่ได้พิจารณา
     - อย่างไรก็ดีข้อเสนอแนะที่เป็นบวก ถือเป็นสิ่งที่มีค่ายิ่งในการเรียนรู้จุดแข็งของเราและขอบเขตที่เราสามารถพัฒนาได้
     - ดังนั้นเมื่อคุณได้รับข้อเสนอแนะต่างๆ ให้ลองแยก "ข้อเสนอที่เป็นบวก" และ "ข้อเสนอที่เป็นลบ" ออกจากกัน จากนั้นนำข้อเสนอที่เป็นบวกมาพิจารณาเพื่อที่จะเรียนรู้จากข้อเสนอแนะดังกล่าว

10. พนักงานของคุณต้องการรู้สึกถึงจุดมุ่งหมายของงานที่ทำ
     - ในการสร้างแรงบันดาลใจและดึงดูดพนักงานของคุณ ให้คุณระลึกถึง 2 ปัจจัย
     - หนึ่ง จุดมุ่งหมาย คือ ความรู้สึก ทั้งนี้คุณต้องแสดงให้ทีมงานของคุณรู้สึกถึงผลกระทบของงานของพวกเขาที่มีต่อคนอื่นเพื่อให้ทีมงานเกิดความรู้สึกร่วมในงานที่เขาทำ
     - สอง ตัวตนที่แท้จริงเป็นสิ่งสำคัญ การที่คุณแสดงออกให้ทีมงานคุณเห็นถึงจุดมุ่งหมาย คุณต้องมั่นใจว่านั่นคือตัวตนที่แท้จริงของคุณด้วย มิเช่นนั้นการกระทำของคุณจะถูกตั้งข้อสงสัย และไม่ได้รับความเชื่อใจจากทีมงาน

10 เคล็ดลับ ลองนำไปปฏิบัติกันดูนะครับ. และคุณอาจประหลาดใจในการเปลี่ยนแปลงก็ได้ครับ


#business #ธุรกิจแบ่งปัน #busboy

สรุปจาก: "Our Favorite Management Tips from 2019" by HBR Staff


     -

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กระตุ้นพฤติกรรม ด้วยโบนัสแบบ Spot (s.154)

  บริษัทจำนวนมาจะมีระบบการให้ผลตอบแทนที่เรียกว่า "โบนัส" ประจำปี  โดยอาจพิจารณาจากผลประกอบการของบริษัทร่วมกับผลงานของพนักงาน และโบนัสดังกล่าวมักอยู่ในรูปของเงินก้อนใหญ่เมื่อเปรียบกับเงินเดือนของพนักงานผู้นั้น ทำให้บริษัทต้องมีภาระทางการเงินเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาดังกล่าวที่มีการให้โบนัส  อย่างไรก็ดียังมีวิธีหนึ่งในการให้ผลตอบแทนพนักงานซึ่งเป็นการให้ที่ถี่กว่าและจำนวนเงินก้อนเล็กกว่าเมื่อเทียบกับโบนัสประจำปี ซึ่งอาจเรียกว่าโบนัสในลักษณะนี้ว่าเป็น Spot Bonus โดยทั่วไปนั้น Spot Bonus จะให้กับพนักงานหรือกลุ่มของพนักงานสำหรับพฤติรรม การกระทำ หรือผลลัพธ์ในเรื่องหนึ่งๆ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกระตุ้นผลงานและสร้างแรงจูงใจของพนักงานในการทำงาน โดยมักเกี่ยวข้องกับงานที่เป็นโครงการ หรือเป็นการให้เพื่อส่งเสริมการกระทำหรือพฤติกรรมบางอย่างที่บริษัทประสงค์จากตัวพนักงาน.  ประโยชน์การนำ Spot Bonus มาใช้ในองค์กรนั้นมีประเด็นที่น่าสนใจที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ ดังนี้ 1. Spot Bonus สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับพนักงานได้บ่อยครั้งขึ้น - แทนที่ต้องรอโบนัสในช่วงปลายปี การให้ Spot Bonus จะ...

หงส์ดำ แรดเทา ความเสี่ยง (s.257)

#busguy #ธุรกิจแบ่งปัน #business . สัตว์สองตัวที่มักถูกนำมาเรียกเปรียบเปรยในช่วงสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 นี้ได้แก่ หงส์ดำ (Back Swan) และ แรดเทา (Grey Rhino) ซึ่งมีนอกเหนือจากที่มีการเปรียบเปรยแล้ว ยังมีการถกเถียงกันถึงเรื่องว่าเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโควิดนี้ควรจัดเป็นเหตุการณ์ลักษณะของ หงส์ดำ หรือ แรดเทา กันแน่ โดยเหตุการณ์ทั้งสองถือเป็นสิ่งเราควรเรียนรู้ในเรื่องของการบริหารความเสี่ยง . เรื่องของ หงส์ดำ มีมาช้านานแล้ว โดยใช้เปรียบเปรยในลักษณะของเหตุการณ์ที่เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากในอดีตนั้น คนส่วนใหญ่จะคิดว่าหงส์จะต้องเป็นสีขาวเท่านั้น ดังนั้นหงส์ดำจึงเป็นสิ่งนอกความคิดหรือเป็นไปไม่ได้. อย่างไรก็ดี เมื่อต่อมาได้มีการค้นพบหงส์ดำเกิดขึ้นจริง การเปรียบเปรยหงส์ดำก็กลายเป็นการกล่าวถึงเหตุการณ์ที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้หรือไม่น่ามีทางเกิดขึ้น แต่สุดท้ายก็เป็นไปได้. ทั้งนี้เหตุการณ์ที่จะเป็นหงส์ดำต้องมีลักษณะ 1.เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดมาก่อน ข้อมูลในอดีตไม่มีการบ่งบอกที่จะเกิดเหตุการณ์นั้น 2. มีผลกระทบที่รุนแรง และ 3. เมื่อมันเกิดขึ้นจริง แล้วเรามองย้อนกลับไป ก็จะสามารถหาเหตุผลมาอธิบายการเกิดข...

Word of the Year 2022 (s.540)

  #จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy  ➼ Word of The Year ที่นำเสนอโดยสำนักพิมพ์ดิกชันนารีออกฟอร์ด ซึ่งได้ประกาศออกมาโดยการใช้วิธีการโหวตออนไลน์ ได้คำว่า "goblin mode" ซึ่งหมายถึงชนิดของพฤติกรรมที่ตามใจตนเอง ขี้เกียจ ดูสกปรก ไร้ระเบียบ มีลักษณะทั่วไปที่ปฏิเสธแบบแผนของสังคมซึ่งเป็นที่ยอมรับกัน. ➼ การตีความว่าคนอยู่ในโหมดของการเป็น goblin หมายถึงคนที่เลือกเองว่าจะอยู่ในโหมดของการเป็นคนสกปรก ขี้เกียจ ไม่สนใจสารรูปของตนเอง บริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และชอบอยู่ในบ้านไม่ออกไปข้างนอก. ➼ สำหรับสำนักพิมพ์ดิกชันนารี Merriam-Webster ได้เลือก Word of the Year คำว่า "gaslighting" ซึ่งหมายความถึงการพยายามทำให้บุคคลหนึ่งรู้สึกไม่มั่นคงและสั่นคลอนในความเชื่อของตน จนทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่เห็นหรือมีประสบการณ์มิได้เกิดขึ้นจริง. ซึ่งเพื่อประโยชน์ของตนเอง. ➼ สำนักพิมพ์ดิกชันนารี Collins เลือก "permacrisis" ซึ่งแปลว่าวิกฤตที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและคงทน เพื่อเล่าสถานการณ์ของโลกปัจจุบันที่คาดเดาได้ยาก เกิดความไม่มั่นคงในหลายด้าน บรรยากาศเต็มไปด้วยความวุ่นวาย. อ้างอิง: ...