Recommerce เป็นการเรียกการสร้างคุณค่าจากสิ่งของที่เคยซื้อไปแล้ว ให้กลับมามีประโยชน์สำหรับผู้บริโภคอีกครั้ง. ซึ่งรูปแบบการขายแบบดั้งเดิมนั้น จะเป็นตลาดสำหรับการซื้อขายสินค้าที่ใหม่ (มือ 1) ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่. อย่างไรก็ดีในช่วงที่่ผ่าน เช่น ธุรกิจแฟชั่น recommerce ไม่ว่าจะเป็นการให้เช่า การขายใหม่ หรือสินค้าราคาประหยัด ได้กลายเป็นตลาดที่ใหญ่สำหรับอุตสาหกรรมค้าปลีกไปแล้ว.
กลุ่มคนในรุ่นของเจนมิลเลนเนี่ยน (คือคนที่เกิดปีระหว่าง 1980-2000) หรือกลุ่มเจนซี (Gen Z, คนที่เกิดช่วงปี ค.ศ. 1986-1995) ชอบที่จะเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าราคาประหยัดหรือร้านค้าฝากขาย โดยไม่ได้รู้สึกลำบากใจหรือเขอะเขินในการเข้าร้านดังกล่าว แต่พวกเขารู้สึกถึงความมีส่วนร่วมและมีภาพลักษณ์แสดงถึงตัวตนในกระแสของการชอปปิ้งในสถานที่เหล่านี้.
ทั้งนี้สาเหตุหนึ่งที่ทำให้กระแส recommerce มาแรง คือ การการตระหนักเพิ่มขึ้นในกลุ่มคนดังกล่าวที่เกี่ยวข้องกับประเด็นทางสังคมในเรื่อง ที่มีความคิดว่าอุตสาหกรรมแฟชั่นส่งผลกระทบทางลบต่อสภาพแวดล้อม ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะเป็นเรื่องที่กังวลอย่างมากในกลุ่มคนที่อายุไม่มาก.
นอกจากนี้ในหลายร้านค้า การมีตัวเลือกสำหรับสินค้าที่นำกลับมาขายใหม่ในร้านค้า ยังช่วยให้ยอดขายโดยรวมของร้านค้าปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งบางร้านค้าได้รายงานตัวเลขที่สูงเพิ่มขึ้นถึง 21% เมื่อเทียบกับการจำหน่ายเฉพาะสินค้าใหม่ทั่วไป. นอกจากนี้ การขายสินค้าที่หลากหลายทั้งสินค้าใหม่และสินค้าเก่ายังช่วยให้จำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นถึง 70% อีกด้วย.
ตัวอย่างร้าน Rent the Runway ซึ่งเป็นร้านค้าให้บริการทางออนไลน์ เปิดดำเนินธุรกิจในปี 2009 นำเสนอการเช่าชุดเสื้อผ้าและเครื่องประดับตกแต่งจากผู้ออกแบบที่มีชื่อเสียง. โดยปัจจุบันรายได้ของ Rent Ruway มีสมาชิกที่ลงทะเบียนสูงถึง 11 ร้านราย. ร้านดังกล่าวได้รับการตอบรับที่ดีโดยเฉพากลุ่มผู้หญิงที่ต้องการเช่าชุดเพื่อใช้ในงานแต่งงาน หรืองานเลี้ยงสังสรรค์ ซึ่งต้องการให้ชุดของพวกเขาดูดีในทุกครั้งที่ออกงานในขณะที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย.
ทั้งนี้การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคในเรื่องเครื่องแต่งกายที่สู่การเช่า หรือการนำกลับมาขายซ้ำ ได้แสดงถึงแนวโน้มของอุตสาหกรรมนี้เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่ผู้บริโภคซื้อสินค้าและต้องการเป็นเจ้าของน้อยลง และช่วยให้เวลาของพวกเขาเพิ่มมากขึ้น.
ปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลให้ผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรมไปยัง recommerce รวมไปถึงความตระหนักถึงสภาพแวดล้อม และต้องการที่จะมีส่วนร่วมในการช่วยลดพิษ. นอกจากนี้ เมื่อผู้บริโภครู้ว่าเครื่องแต่งกายของพวกเขาสามารถกลับมาชีวิตได้ใหม่อีกครั้ง ซึ่งไม่จำเป็นต้องถูกทิ้งหรือฝังกลบเสมอไป พวกเขายิ่งสบายใจและเพลินเพลินในการเลือกซื้อสินค้ามากยิ่งขึ้น.
ที่ผ่านมา Recommerce ได้ถูกพิจารณาว่าเป็นการบริโภคเพื่อตนเองมากกว่าซื้อเพื่อเป็นของขวัญ. อย่างไรก็ตาม การให้ของขวัญในรูปแบบสมาชิกของร้านค้ามือสอง แทนการซื้อของใหม่ให้แก่ผู้รับกำลังได้รับการยอมรับมากขึ้น. ทั้งนี้กระแสของ recommerce จะยังคงมีอิทธิพลและอาจเป็นกระแสหลักเมื่อผู้บริโภคปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้การยอมรับมากขึ้นในอนาคต.
#busguy
#ธุรกิจแบ่งปัน #business
สรุปจาก "The Rise of Re-commerce: Why Everything Old is New Again" by Knowledge @WHARTON
s.28 27-apr-20
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น