มีบริษัทจำนวนมากขึ้นที่แสดงให้เห็นถึงลูกค้าที่อยู่ภายใต้โปรแกรมสร้างความภักดี (loyalty program) จับจ่ายซื้อสินค้ามากกว่าลูกค้าทั่วไป อีกทั้งลูกค้ากลุ่มนี้ยังมักจะบอกต่อสิ่งดีๆ ของบริษัทออกไป. ซึ่งสิ่งนี้เป็นเหตุผลที่ทำให้เราเห็นว่าบริษัทต่างๆ ในหลายอุตสาหกรรมเริ่มสร้างโปรแกรมสร้างความภักดีกันมากขึ้น
งานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ได้จัดทำขึ้นได้แสดงให้เห็นว่าการออกแบบ social media ที่ดีนั้น จะสามารถทำให้โปรแกรมสร้างความภักดี มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นในการเพิ่มยอดขาย โดยงานวิจัยดังกล่าวได้ทดสอบเรื่องของประสบการณ์ของลูกค้าที่มีต่อสินค้า (brand experience) โดยลงข้อความเนื้อหาใน social media ซึ่งมีความเกี่ยวข้องในด้านใดด้านหนึ่งเป็นพิเศษใน 5 ด้าน ประกอบด้วย
- ด้านความสัมพันธ์ : ข้อความเป็นลักษณะการสร้างความเชื่อมโยงกับผู้ใช้งานคนอื่น
- ด้านปัญญา : ข้อความที่กระตุ้นในลูกค้าได้ใช้ความคิด เช่น เกี่ยวกับการแก้ปัญหา หรือความคิดสร้างสรรค์
- ด้านพฤติกรรม : ข้อความกระตุ้นให้ลูกค้าร่วมกิจกรรม หรือ มีปฏิสัมพันธ์กับสินค้าหรือบริการ
- ด้านประสาทสัมผัส : ข้อความกระตุ้นประสาทสัมผัส ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับรูปภาพหรือเนื้อหาที่ทำให้ตกใจ ประหลาดใจ เป็นต้น
- ด้านอารมณ์ : ข้อความในลักษณะที่พยายามสร้างอารมณ์ความรู้สึกให้แก่ลูกค้า
งานวิจัยดังกล่าวพบว่าข้อความที่เกี่ยวข้องกับ "ด้านความสัมพันธ์" และ "ด้านปัญญา" จะมีประสิทธิภาพสูงในการผลักดันยอดขายสำหรับลูกค้าภายใต้โปรแกรมสร้างความภักดี ในขณะที่ข้อความ "ด้านพฤติกรรม" จะกระตุ้นยอดขายสำหรับลูกค้าที่ไม่ได้อยู่ในโปรแกรมดังกล่าว
นอกจากนี้ ข้อความที่เกี่ยวกับ "ด้านความสัมพันธ์" ที่เชื่อมโยงผู้อ่านเข้ากับกลุ่มคนที่ใช้สินค้าหรือบริการ จะช่วยให้พวกเขามีความรู้สึกเป็นเจ้าของ เป็นพวกเดียวกันมากขึ้น
และเนื่องจากลูกค้าในโปรแกรมสร้างความภักดีมักจะความสัมพันธ์กับสินค้าในระดับหนึ่ง ทำให้ลูกค้ากลุ่มดังกล่าวเปิดรับกับชุดข้อความด้านความสัมพันธ์ ในขณะที่ลูกค้าที่ไม่ได้อยู่ในโปรแกรมจะรู้สึกถึงความเชื่อมโยงกับสินค้าน้อยกว่า
ข้อความที่เกี่ยวข้องกับ "ด้านปัญญา" เป็นอีกด้านหนึ่งที่มีประสิทธิผลกับกลุ่มที่อยู่ในโปรแกรม เนื่องจากลูกค้ากลุ่มนี้มีการลงทุนกับสินค้าค่อนข้างมากอยู่แล้ว จึงทำให้เขารู้สึกจริงจังในทำความเข้าใจในรายละเอียดข้อความที่ปรากฎของสินค้า
ชุดข้อความ "ด้านพฤติกรรม" มีประสิทธิผลกับลูกค้าทั้งสองกลุ่ม แต่จะมีประสิทธิผลมากกว่าในการสร้างยอดขายสำหรับลูกค้ากลุ่มที่ไม่ได้อยู่ในโปรแกรม โดยข้อความมักจะอยู่ในรูปแบบที่ไม่ใช้พลังความคิดมากนัก และกระตุ้นให้กลุ่มลูกค้าที่ไม่อยู่ในโปรแกรมจินตนาการถึงการมีปฏิสัมพันธ์กับสินค้าหรือบริการ
สุดท้ายคือชุดข้อความ "ด้านประสาทสัมผัส" และ "ด้านอารมณ์" จะไม่มีประสิทธิผลในการเพิ่มยอดขายมากนักในลูกค้าทั้งสองกลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจาก social media ในปัจจุบันมักจะแสดงข้อความที่พยายามแข่งกันแย่งความสนใจของผู้อ่าน. การใช้ชุดข้อความดังกล่าวจึงเป็นแค่เพียงเพิ่มการกระตุ้นให้แก่ลูกค้าซึ่งจะไม่มีประสิทธิผลใด ในขณะที่ข้อความที่สื่อ "ด้านอารมณ์" ก็ไม่สามารถสร้างยอดขายเพิ่มได้มากนักเนื่องจากข้อความในลักษณะดังกล่าวมักจะทำให้ลูกค้าเหนื่อยกับอารมณ์ที่ผันแปรมากกว่า.
#busguy
#business #ธุรกิจแบ่งปัน
สรุปจาก: "Using Social Media to Connect with Your Most Loyal Customers" by Michael A. Stanko and others.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น