ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

การนำเสนอที่มีประสิทธิภาพ



เราสามารถพบเห็นเทคนิคของการนำเสนอที่มีประสิทธิภาพได้มากมายหลากหลาย. ซึ่งหลายคนน่าจะเคยอ่านเทคนิคที่ดีเกี่ยวกับการนำเสนอมาบ้าง ครั้งนี้ขอหยิบยกเทคนิคที่มาจากบทความ "What it takes to give a great presentation" มาแบ่งปัน โดยมีจุดเด่นคือมีเทคนิคที่มีข้อไม่เยอะ แต่เทคนิคแต่ละอย่างล้วนค่อนข้างตรงประเด็นและมีผลกระทบที่สูง โดยประกอบด้วย

1. การนำเสนอที่ดีจะใช้จำนวน Slide และคำพูด ที่น้อย
    เราจะสังเกตได้ว่านักเขียนและนักพูดที่ดีส่วนใหญ่มักจะเป็นบรรณาธิการ (editor) ที่ดีเช่นกัน โดยเขาจะพยายามแก้ไขคำพูดต่างๆ ให้เหลือน้อยที่สุดและตรงประเด็นที่สุด การใช้จำนวน slide หรือคำพูดจำนวนมากไม่ได้ช่วยอะไรมาก และมักจะยิ่งทำให้ผู้ฟังยิ่งจับใจความยากขึ้น

2. ผู้นำเสนอที่ดีจะไม่ใช้สัญลักษณ์หัวข้อ (Bullet Point)
     สัญลักษณ์หัวข้อจะมีประสิทธิภาพน้อย ในการเชื่อมเรื่องราวร้อยเรียงแต่ละหัวข้อให้เข้าด้วยกัน. สิ่งที่จะมีประสิทธิภาพมากกว่าคือการใช้รูปภาพ และ ข้อความ หรืออาจใช้วีดีโอในการนำเสนอซึ่งจะให้ทำการนำเสนอมีความน่าสนใจมากขึ้น

3. ใช้ประโยชน์ของน้ำเสียงในการนำเสนอ
     การใช้น้ำเสียงรวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงจังหวะการพูด โทนเสียง หรือความดังของเสียง ซึ่งจะทำให้การนำเสนอมีผลในการโน้มน้าวและควบคุมคนฟังได้ดีขึ้น

4. ผู้นำเสนอที่ดีจะสร้างช่วงเวลา "ว้าว"
     คนทั่วไปจะไม่สามารถจำ slide หรือคำพูดทุกอย่างที่นำเสนอได้. พวกเขาจะจำได้แค่ช่วงเวลา. ดังนั้นการสร้างบรรยายกาศช่วงเวลาพิเศษที่ทำให้คนฟังรู้สึก ว้าว จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ทำให้คนฟังจำเรื่องราว บรรยายกาศ และอารมณ์ได้มากกว่า

5. การนำเสนอที่ดีต้อง ซ้อม ซ้อม และซ้อม
     ไม่มีการนำเสนอที่ดีครั้งไหนที่ไม่มีการซ้อม. แม้แต่นักพูด ผู้ที่นำเสนอที่ดีมีประสบการณ์ ยังต้องซ้อมอย่างมากก่อนนำเสนอจริงเพื่อให้ได้การนำเสนอที่ดีที่สุด. ดังนั้นสำหรับคนทั่วไปแล้ว การซ้อมจึงยิ่งไม่ใช่ข้อยกเว้น.

สุดท้ายการนำเสนอที่ดีคือ ส่วนหนึ่งของการสื่อสารที่ดี. มันสามารถช่วยเราได้งานที่ดี ดึงดูดนักลงทุนที่จะสนับสนุนไอเดีย หรือแม้กระทั่งเพิ่มระดับทางสังคมในที่ทำงาน.

#busguy
#ธุรกิจแบ่งปัน #business

สรุปจาก "What It Takes to Give a Great Presentation" by Carmine Gallo
   
   
   

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กระตุ้นพฤติกรรม ด้วยโบนัสแบบ Spot (s.154)

  บริษัทจำนวนมาจะมีระบบการให้ผลตอบแทนที่เรียกว่า "โบนัส" ประจำปี  โดยอาจพิจารณาจากผลประกอบการของบริษัทร่วมกับผลงานของพนักงาน และโบนัสดังกล่าวมักอยู่ในรูปของเงินก้อนใหญ่เมื่อเปรียบกับเงินเดือนของพนักงานผู้นั้น ทำให้บริษัทต้องมีภาระทางการเงินเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาดังกล่าวที่มีการให้โบนัส  อย่างไรก็ดียังมีวิธีหนึ่งในการให้ผลตอบแทนพนักงานซึ่งเป็นการให้ที่ถี่กว่าและจำนวนเงินก้อนเล็กกว่าเมื่อเทียบกับโบนัสประจำปี ซึ่งอาจเรียกว่าโบนัสในลักษณะนี้ว่าเป็น Spot Bonus โดยทั่วไปนั้น Spot Bonus จะให้กับพนักงานหรือกลุ่มของพนักงานสำหรับพฤติรรม การกระทำ หรือผลลัพธ์ในเรื่องหนึ่งๆ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกระตุ้นผลงานและสร้างแรงจูงใจของพนักงานในการทำงาน โดยมักเกี่ยวข้องกับงานที่เป็นโครงการ หรือเป็นการให้เพื่อส่งเสริมการกระทำหรือพฤติกรรมบางอย่างที่บริษัทประสงค์จากตัวพนักงาน.  ประโยชน์การนำ Spot Bonus มาใช้ในองค์กรนั้นมีประเด็นที่น่าสนใจที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ ดังนี้ 1. Spot Bonus สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับพนักงานได้บ่อยครั้งขึ้น - แทนที่ต้องรอโบนัสในช่วงปลายปี การให้ Spot Bonus จะ...

Word of the Year 2022 (s.540)

  #จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy  ➼ Word of The Year ที่นำเสนอโดยสำนักพิมพ์ดิกชันนารีออกฟอร์ด ซึ่งได้ประกาศออกมาโดยการใช้วิธีการโหวตออนไลน์ ได้คำว่า "goblin mode" ซึ่งหมายถึงชนิดของพฤติกรรมที่ตามใจตนเอง ขี้เกียจ ดูสกปรก ไร้ระเบียบ มีลักษณะทั่วไปที่ปฏิเสธแบบแผนของสังคมซึ่งเป็นที่ยอมรับกัน. ➼ การตีความว่าคนอยู่ในโหมดของการเป็น goblin หมายถึงคนที่เลือกเองว่าจะอยู่ในโหมดของการเป็นคนสกปรก ขี้เกียจ ไม่สนใจสารรูปของตนเอง บริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และชอบอยู่ในบ้านไม่ออกไปข้างนอก. ➼ สำหรับสำนักพิมพ์ดิกชันนารี Merriam-Webster ได้เลือก Word of the Year คำว่า "gaslighting" ซึ่งหมายความถึงการพยายามทำให้บุคคลหนึ่งรู้สึกไม่มั่นคงและสั่นคลอนในความเชื่อของตน จนทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่เห็นหรือมีประสบการณ์มิได้เกิดขึ้นจริง. ซึ่งเพื่อประโยชน์ของตนเอง. ➼ สำนักพิมพ์ดิกชันนารี Collins เลือก "permacrisis" ซึ่งแปลว่าวิกฤตที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและคงทน เพื่อเล่าสถานการณ์ของโลกปัจจุบันที่คาดเดาได้ยาก เกิดความไม่มั่นคงในหลายด้าน บรรยากาศเต็มไปด้วยความวุ่นวาย. อ้างอิง: ...

Reserve Currency (s.538)

  #จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy  ➼ Reserve Currency คือ เงินตราต่างประเทศที่ธนาคารกลางและสถาบันการเงินใหญ่ๆ ในโลกถือไว้เป็นจำนวนมาก เพื่อใช้ในการค้า การลงทุนและการชำระหนี้ระหว่างประเทศ. ➼ ตั้งแต่ปี 1944 มี 44 ประเทศได้ตกลงกันที่เมือง Bretton Woods ที่จะให้ดอลลาร์เป็นเงินตราที่จะใช้ในธุรกรรมระหว่างประเทศ โดยประเทศต่างๆ จะผูกค่าเงินของตนไว้กับดอลลาร์ และดอลลาร์ก็จะผูกไว้กับทองคำอีกต่อหนึ่ง ในอัตรา 35 ดอลลาร์ต่อทองทำ 1 Troy Ounce นี่เป็นจุดกำหนดของระบบอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ (Fixed Exchange Rate System). ➼ ในปี 1973 ประธานาธิบดีนิกสันได้ประกาศยกเลิกการผูกค่าเงินดอลลาร์ไว้กับทองคำ อันเป็นจุดเริ่มต้นของระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัว (Flexible Exchange Rate System) โดยแม้ดอลลาร์จะไม่มีทองคำหนุนหลัง แต่ดอลลาร์ก็ยังคงเป็น reserve currency หลักของโลกมาตลอดมาตลอดเกือบ 80 ปี เพราะสภาพคล่องที่มีสูงมาก. ➼ สหรัฐถือเป็นประเทศที่ได้เปรียบทุกประเทศในการที่สามารถใช้เงินของตนทำธุรกรรมต่างประเทศได้ อย่างไรก็ดี ในระยะยาว ยังมีคำถามที่เกิดขึ้นคือ ดอลลาร์อาจสูญเสียความเป็น reserve currency หลักของ...