ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ขัดจังหวะการกล่าวถึงตัวคุณเอง




ทุกคนมีเรื่องเล่าที่เราพูดถึงเกี่ยวกับตัวเรา ซึ่งเรื่องเล่าดังกล่าวเป็นส่วนประกอบที่สามารถสร้างความเป็นตัวตน ความทะเยอทะยาน และประสบการณ์ของเราได้. อีกทั้งเรื่องเล่าดังกล่าวยังเป็นตัวกำหนดถึงสิ่งที่เราสามารถทำได้.

อย่างไรก็ดี เรื่องที่เราพูดเกี่ยวกับตัวเรานี้ สามารถสร้างผลทางลบต่อตัวเราได้เช่นกัน. โดยหากเรื่องเล่าดังกล่าวที่เราสร้างขึ้นได้รับอิทธิพลจากสิ่งรอบตัว เช่น จากความคิดคนอื่น หรือจากแรงกดดันทางสังคม ซึ่งทำให้เรื่องเล่ากลายเป็นการจำกัดความสามารถที่แท้จริงของตัวเรา.

ในความจริง พวกเราทุกคนมีความสามารถและต้องมีความรับผิดชอบที่จะขัดขวางสิ่งที่ส่งผลให้เกิดเรื่องเล่าทางลบเหล่านี้ ไม่ให้เปลี่ยนมาเป็นความเชื่อ และจำกัดความสำเร็จของตัวเรา ซึ่งวิธีที่จะขัดขวางความคิดดังกล่าวมีดังนี้

1. สร้างความตระหนักในเรื่องราวที่กล่าวถึงที่ดำเนินอยู่เบื้องหลังของชีวิตเรา - โดยมีเป้าหมายคือ การที่เราหยุดที่จะปล่อยตัวเราไปตามสถานการณ์ แต่เริ่มที่จะเป็นคนที่สร้างเรื่องราวของตัวคุณเอง

2. กำหนดวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนสำหรับเรื่องราวของคุณที่อยากเป็น - คุณต้องรู้ว่าปลายของคุณคืออะไรก่อนที่คุณจะเริ่มต้น. ทั้งนี้โดยการสร้างภาพในอนาคตที่คุณอยากเป็น.

3. สนใจเฉพาะสิ่งที่คุณควบคุมได้ - ให้คุณสนใจเฉพาะความคิด การกระทำ ทัศนคติ และความพยายามในสิ่งที่อยู่ภายใต้การควบคุมของคุณ และจงหลีกเลี่ยงแรงต่างๆ ที่นอกเหนือจากการควบคุมของคุณ

4. เมื่อเปลี่ยนแปลงเรื่องเล่าเกี่ยวกับตัวคุณ คุณต้องเชื่อความสามารถในอารมณ์ จิตใจ และร่างกายของคุณ - เทคนิคที่ดีอันหนึ่งคือ การเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ.  โดยเมื่อคุณทำสิ่งเล็กๆ สำเร็จ สิ่งนี้จะสร้างกำลังใจ ความเชื่อ และจิตใจของคุณในการที่เอาชนะสิ่งที่ใหญ่ขึ้นต่อไปได้

5. เลือกที่จะฟัง - แต่ไม่ควรเพิกเฉยต่อการวิพากวิจารณ์หรือคำพูดจากคนอื่น.  คุณจำเป็นต้องเลือกฟังคำวิจารณ์หรือคำพูดที่เป็นประโยชน์จากคนอื่น เพื่อมาปรับปรุงตัวเราให้ดีขึ้น

สุดท้ายนี้ เรื่องเล่าที่คุณพูดเกี่ยวกับตัวคุณเองจะเป็นสิ่งที่สำคัญ. จงอย่าจำกัดตัวเอง. แต่ให้สร้างเรื่องราวที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของชีวิตที่คุณต้องการ

#busguy
#ธุรกิจแบ่งกัน #business

สรุปจาก "Disrupt Your Own Narrative" by Michael Gervais

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กระตุ้นพฤติกรรม ด้วยโบนัสแบบ Spot (s.154)

  บริษัทจำนวนมาจะมีระบบการให้ผลตอบแทนที่เรียกว่า "โบนัส" ประจำปี  โดยอาจพิจารณาจากผลประกอบการของบริษัทร่วมกับผลงานของพนักงาน และโบนัสดังกล่าวมักอยู่ในรูปของเงินก้อนใหญ่เมื่อเปรียบกับเงินเดือนของพนักงานผู้นั้น ทำให้บริษัทต้องมีภาระทางการเงินเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาดังกล่าวที่มีการให้โบนัส  อย่างไรก็ดียังมีวิธีหนึ่งในการให้ผลตอบแทนพนักงานซึ่งเป็นการให้ที่ถี่กว่าและจำนวนเงินก้อนเล็กกว่าเมื่อเทียบกับโบนัสประจำปี ซึ่งอาจเรียกว่าโบนัสในลักษณะนี้ว่าเป็น Spot Bonus โดยทั่วไปนั้น Spot Bonus จะให้กับพนักงานหรือกลุ่มของพนักงานสำหรับพฤติรรม การกระทำ หรือผลลัพธ์ในเรื่องหนึ่งๆ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกระตุ้นผลงานและสร้างแรงจูงใจของพนักงานในการทำงาน โดยมักเกี่ยวข้องกับงานที่เป็นโครงการ หรือเป็นการให้เพื่อส่งเสริมการกระทำหรือพฤติกรรมบางอย่างที่บริษัทประสงค์จากตัวพนักงาน.  ประโยชน์การนำ Spot Bonus มาใช้ในองค์กรนั้นมีประเด็นที่น่าสนใจที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ ดังนี้ 1. Spot Bonus สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับพนักงานได้บ่อยครั้งขึ้น - แทนที่ต้องรอโบนัสในช่วงปลายปี การให้ Spot Bonus จะ...

Word of the Year 2022 (s.540)

  #จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy  ➼ Word of The Year ที่นำเสนอโดยสำนักพิมพ์ดิกชันนารีออกฟอร์ด ซึ่งได้ประกาศออกมาโดยการใช้วิธีการโหวตออนไลน์ ได้คำว่า "goblin mode" ซึ่งหมายถึงชนิดของพฤติกรรมที่ตามใจตนเอง ขี้เกียจ ดูสกปรก ไร้ระเบียบ มีลักษณะทั่วไปที่ปฏิเสธแบบแผนของสังคมซึ่งเป็นที่ยอมรับกัน. ➼ การตีความว่าคนอยู่ในโหมดของการเป็น goblin หมายถึงคนที่เลือกเองว่าจะอยู่ในโหมดของการเป็นคนสกปรก ขี้เกียจ ไม่สนใจสารรูปของตนเอง บริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และชอบอยู่ในบ้านไม่ออกไปข้างนอก. ➼ สำหรับสำนักพิมพ์ดิกชันนารี Merriam-Webster ได้เลือก Word of the Year คำว่า "gaslighting" ซึ่งหมายความถึงการพยายามทำให้บุคคลหนึ่งรู้สึกไม่มั่นคงและสั่นคลอนในความเชื่อของตน จนทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่เห็นหรือมีประสบการณ์มิได้เกิดขึ้นจริง. ซึ่งเพื่อประโยชน์ของตนเอง. ➼ สำนักพิมพ์ดิกชันนารี Collins เลือก "permacrisis" ซึ่งแปลว่าวิกฤตที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและคงทน เพื่อเล่าสถานการณ์ของโลกปัจจุบันที่คาดเดาได้ยาก เกิดความไม่มั่นคงในหลายด้าน บรรยากาศเต็มไปด้วยความวุ่นวาย. อ้างอิง: ...

Reserve Currency (s.538)

  #จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy  ➼ Reserve Currency คือ เงินตราต่างประเทศที่ธนาคารกลางและสถาบันการเงินใหญ่ๆ ในโลกถือไว้เป็นจำนวนมาก เพื่อใช้ในการค้า การลงทุนและการชำระหนี้ระหว่างประเทศ. ➼ ตั้งแต่ปี 1944 มี 44 ประเทศได้ตกลงกันที่เมือง Bretton Woods ที่จะให้ดอลลาร์เป็นเงินตราที่จะใช้ในธุรกรรมระหว่างประเทศ โดยประเทศต่างๆ จะผูกค่าเงินของตนไว้กับดอลลาร์ และดอลลาร์ก็จะผูกไว้กับทองคำอีกต่อหนึ่ง ในอัตรา 35 ดอลลาร์ต่อทองทำ 1 Troy Ounce นี่เป็นจุดกำหนดของระบบอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ (Fixed Exchange Rate System). ➼ ในปี 1973 ประธานาธิบดีนิกสันได้ประกาศยกเลิกการผูกค่าเงินดอลลาร์ไว้กับทองคำ อันเป็นจุดเริ่มต้นของระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัว (Flexible Exchange Rate System) โดยแม้ดอลลาร์จะไม่มีทองคำหนุนหลัง แต่ดอลลาร์ก็ยังคงเป็น reserve currency หลักของโลกมาตลอดมาตลอดเกือบ 80 ปี เพราะสภาพคล่องที่มีสูงมาก. ➼ สหรัฐถือเป็นประเทศที่ได้เปรียบทุกประเทศในการที่สามารถใช้เงินของตนทำธุรกรรมต่างประเทศได้ อย่างไรก็ดี ในระยะยาว ยังมีคำถามที่เกิดขึ้นคือ ดอลลาร์อาจสูญเสียความเป็น reserve currency หลักของ...