ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ESG ดี ? (s.85)

 

บทความล่าสุดของ รศ.ดร.พสุ เดชะรินทร์ ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ คอลัมม์มุมมองใหม่ วันอังคารที่ 21 กรกฎาคม 2563 ได้กล่าวถึงเรื่อง ESG ในมุมมองของการลงทุนไว้ได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งครั้งนี้ขอจดเก็บบันทึกไว้ โดยมีความสำคัญคือ
.
มุมมองผลการดำเนินงาน 
ในทางวิชาการได้มีการหาความสัมพันธ์ระหว่างผลประกอบการกับการให้ความสำคัญในด้านความยั่งยืน โดยมีงานวิจัยที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก โดยพบว่า 62% ของงานวิจัยกว่า 2,000 ชิ้น พบว่า ESG มีความสัมพันธ์ในเชิงบวกกับผลการดำเนินงานด้านการเงินของบริษัท  ขณะที่มีเพียง 10% ที่ปัจจัยทั้งสองเป็นลบ และส่วนที่เหลือไม่พบความสัมพันธ์
.
มุมมองการบริหารจัดการ
ผู้บริหารที่ให้ความสนใจด้าน ESG มีความเชื่อว่า ESG ที่ดีจะส่งผลทำให้ชื่อเสียง ภาพลักษณ์ของบริษัทออกมาดี ทำให้สามารถดึงดูดและรักษาบุคลากรรุ่นใหม่ที่มีความรู้ ความสามารถได้  นอกจากนี้ยังมีบทความของ McKinsey ที่ได้กำหนดกรอบ ESG ที่ส่งผลดีต่อองค์กร โดยมีแนวทางหลัก 5 ข้อ คือ
1. เพิ่มรายได้ - เนื่องจาก ESG ส่งผลต่อชื่อเสียงและภาพลักษณ์ทำให้บริษัทมีโอกาสในการขยายเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ ได้มากขึ้น
2. ลดต้นทุน - โดยการใช้พลังงานและทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
3. ลดความเสี่ยงในการทำผิดต่อกฎระเบียบของหน่วยงานภาครัฐและหน่วยกำกับต่างๆ เนื่องจากบริษัทเน้นในเรื่องของธรรมาภิบาล
4. สามารถดึงดูด รักษาและทำให้พนักงานมีความมุ่งมั่นตั้งใจทำงานมากขึ้น เนื่องจากบริษัทมี purpose ที่ชัดเจนและเพื่อสังคม
5. ช่วยทำให้ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีขึ้น เนื่องจากมุ่งเน้นในการลงทุนในโอกาสและโครงการที่ให้กับความสำคัญในเรื่องความยั่งยืนและอนาคต ซึ่งถือเป็นโอกาสในการลงทุนใหม่ๆ 
.
มุมมองของการลงทุน 
หุ้นของบริษัท ESG ในระดับที่สูง จะได้รับความสนใจจากบรรดากองทุนและนักลงทุนต่างๆ เนื่องจากความเชื่อจากมุมมองของผลการดำเนินงานและนักลงทุนบางส่วนยังมีความเชื่อว่าตนเองสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการทำดีให้กับโลก
.
สำหรับความท้าทายของ ESG คือ การที่ยังไม่มีนิยามหรือมาตรฐานสากลที่เป็นหนึ่งเดียว ทำให้สามารถตีความ ESG ที่แตกต่างกันได้ อย่างไรก็ดีในปัจจุบันมีหน่วยงานที่ให้คะแนน ESG เพิ่มมากขึ้น ซึ่งก็คงต้องดูกันต่อไปว่านิยามของ ESG จะมีการบรรจบเข้าเป็นมาตรฐานเดียวกันได้หรือไม่ในอนาคต
.
#busguy
#ธุรกิจแบ่งปัน #business

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กระตุ้นพฤติกรรม ด้วยโบนัสแบบ Spot (s.154)

  บริษัทจำนวนมาจะมีระบบการให้ผลตอบแทนที่เรียกว่า "โบนัส" ประจำปี  โดยอาจพิจารณาจากผลประกอบการของบริษัทร่วมกับผลงานของพนักงาน และโบนัสดังกล่าวมักอยู่ในรูปของเงินก้อนใหญ่เมื่อเปรียบกับเงินเดือนของพนักงานผู้นั้น ทำให้บริษัทต้องมีภาระทางการเงินเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาดังกล่าวที่มีการให้โบนัส  อย่างไรก็ดียังมีวิธีหนึ่งในการให้ผลตอบแทนพนักงานซึ่งเป็นการให้ที่ถี่กว่าและจำนวนเงินก้อนเล็กกว่าเมื่อเทียบกับโบนัสประจำปี ซึ่งอาจเรียกว่าโบนัสในลักษณะนี้ว่าเป็น Spot Bonus โดยทั่วไปนั้น Spot Bonus จะให้กับพนักงานหรือกลุ่มของพนักงานสำหรับพฤติรรม การกระทำ หรือผลลัพธ์ในเรื่องหนึ่งๆ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกระตุ้นผลงานและสร้างแรงจูงใจของพนักงานในการทำงาน โดยมักเกี่ยวข้องกับงานที่เป็นโครงการ หรือเป็นการให้เพื่อส่งเสริมการกระทำหรือพฤติกรรมบางอย่างที่บริษัทประสงค์จากตัวพนักงาน.  ประโยชน์การนำ Spot Bonus มาใช้ในองค์กรนั้นมีประเด็นที่น่าสนใจที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ ดังนี้ 1. Spot Bonus สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับพนักงานได้บ่อยครั้งขึ้น - แทนที่ต้องรอโบนัสในช่วงปลายปี การให้ Spot Bonus จะ...

Word of the Year 2022 (s.540)

  #จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy  ➼ Word of The Year ที่นำเสนอโดยสำนักพิมพ์ดิกชันนารีออกฟอร์ด ซึ่งได้ประกาศออกมาโดยการใช้วิธีการโหวตออนไลน์ ได้คำว่า "goblin mode" ซึ่งหมายถึงชนิดของพฤติกรรมที่ตามใจตนเอง ขี้เกียจ ดูสกปรก ไร้ระเบียบ มีลักษณะทั่วไปที่ปฏิเสธแบบแผนของสังคมซึ่งเป็นที่ยอมรับกัน. ➼ การตีความว่าคนอยู่ในโหมดของการเป็น goblin หมายถึงคนที่เลือกเองว่าจะอยู่ในโหมดของการเป็นคนสกปรก ขี้เกียจ ไม่สนใจสารรูปของตนเอง บริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และชอบอยู่ในบ้านไม่ออกไปข้างนอก. ➼ สำหรับสำนักพิมพ์ดิกชันนารี Merriam-Webster ได้เลือก Word of the Year คำว่า "gaslighting" ซึ่งหมายความถึงการพยายามทำให้บุคคลหนึ่งรู้สึกไม่มั่นคงและสั่นคลอนในความเชื่อของตน จนทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่เห็นหรือมีประสบการณ์มิได้เกิดขึ้นจริง. ซึ่งเพื่อประโยชน์ของตนเอง. ➼ สำนักพิมพ์ดิกชันนารี Collins เลือก "permacrisis" ซึ่งแปลว่าวิกฤตที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและคงทน เพื่อเล่าสถานการณ์ของโลกปัจจุบันที่คาดเดาได้ยาก เกิดความไม่มั่นคงในหลายด้าน บรรยากาศเต็มไปด้วยความวุ่นวาย. อ้างอิง: ...

Reserve Currency (s.538)

  #จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy  ➼ Reserve Currency คือ เงินตราต่างประเทศที่ธนาคารกลางและสถาบันการเงินใหญ่ๆ ในโลกถือไว้เป็นจำนวนมาก เพื่อใช้ในการค้า การลงทุนและการชำระหนี้ระหว่างประเทศ. ➼ ตั้งแต่ปี 1944 มี 44 ประเทศได้ตกลงกันที่เมือง Bretton Woods ที่จะให้ดอลลาร์เป็นเงินตราที่จะใช้ในธุรกรรมระหว่างประเทศ โดยประเทศต่างๆ จะผูกค่าเงินของตนไว้กับดอลลาร์ และดอลลาร์ก็จะผูกไว้กับทองคำอีกต่อหนึ่ง ในอัตรา 35 ดอลลาร์ต่อทองทำ 1 Troy Ounce นี่เป็นจุดกำหนดของระบบอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ (Fixed Exchange Rate System). ➼ ในปี 1973 ประธานาธิบดีนิกสันได้ประกาศยกเลิกการผูกค่าเงินดอลลาร์ไว้กับทองคำ อันเป็นจุดเริ่มต้นของระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัว (Flexible Exchange Rate System) โดยแม้ดอลลาร์จะไม่มีทองคำหนุนหลัง แต่ดอลลาร์ก็ยังคงเป็น reserve currency หลักของโลกมาตลอดมาตลอดเกือบ 80 ปี เพราะสภาพคล่องที่มีสูงมาก. ➼ สหรัฐถือเป็นประเทศที่ได้เปรียบทุกประเทศในการที่สามารถใช้เงินของตนทำธุรกรรมต่างประเทศได้ อย่างไรก็ดี ในระยะยาว ยังมีคำถามที่เกิดขึ้นคือ ดอลลาร์อาจสูญเสียความเป็น reserve currency หลักของ...