ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

แนวคิดวิกฤตสิ่งแวดล้อม (s.78)

.
รศ.วิทยากร เชียงกูล ได้ลงบทความในกรุงเทพธุรกิจ วันที่ 13 ก.ค.63 ในคอลัมม์ปฏิรูปประเทศไทย เรื่องบทความว่า "แนวคิดวิกฤตสิ่งแวดล้อมของ ฟริตจอฟ คาปร้า" ซึ่งถึงแม้เริ่มแรกจะฟังเหมือนเป็นเรื่องสิ่งแวดล้อมที่ดูน่าเบื่อ แต่เนื้อหาของบทความได้ผูกโยงแนวคิดที่น่าสนใจไว้ชวนให้ขบคิด ครั้งนี้จึงความจดเก็บบันทึกไว้ โดยมีสรุปได้ดังนี้
.
ฟริตจอฟ คาปร้า เป็นนักฟิสิกส์ และนักคิดเชิงระบบองค์รวม ได้เขียนหนังสือเรื่อง The Systems Views of Life : A Unifying Vision วิเคราะห์ทัศนะทางวิทยาศาสตร์ ชีวิตและสังคม เชื่อมโยงกับปัญหาระบบนิเวศ รวมถึงวิกฤตระบบเศรษฐกิจ การเมือง สังคม
.
คาปร้า เสนอว่าการปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ในยุโรปเมื่อ 300 ปีที่แล้ว ทำให้มนุษย์มองชีวิตธรรมชาติแบบกลไกอย่างแยกเป็นส่วนย่อยๆ ว่าประกอบด้วยธาตุ โมเลกุลต่างๆ ที่อยู่ได้ด้วยตนเอง ไม่เกี่ยวข้องกับความคิดจิตใจ 
.
อย่างไรก็ดี คาปร้ามองว่าเราควรมองชีวิตและสิ่งต่างๆ ในโลกแบบเป็นกระบวนการ แบบมีความสัมพันธ์เชื่อมโยง พึ่งพากันและกันอยู่เป็นประชาคม โดยประชาคมในระบบธรรมชาติจะพยายามสร้างความสมดุลอย่างมีพลวัต ภายใต้บริบทของสถานที่ กาลเวลา เพื่อความอยู่รอดและดำเนินต่อไป ไม่มีสิ่งใดอยู่เดี่ยวๆ เป็นเอกเทศได้
.
ปัญหาการขาดควาสมดุลครั้งใหญ่ในปัจจุบัน เกิดจากมนุษย์ในยุคการพัฒนาอุตสาหกรรมในรอบ 200 กว่าปีที่ผ่านมา โดยมนุษย์พยายามที่เอาชนะธรรมชาติมากกว่าที่จะเรียนรู้อยู่กับธรรมชาติ ทั้งนี้คาปร้าได้วิจารณ์ระบบเศรษฐกิจอุตสาหกรรมว่าเป็นตัวการที่สำคัญและรัฐบาลก็ไม่กล้าที่จะปฏิรูป. เป็นความผิดของนักคิด นักวิทยาศาสตร์ในยุคการทำโลกสว่างด้วยเหตุผลและการปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์ของโลกตะวันตกมากกว่าที่จะมองว่าเป็นความผิดของระบบทุนนิยมในปัจจุบัน
.
สุดท้าย รศ.วิทยากร ได้ลงท้ายไว้น่าสนใจในบทความซึ่งยกตัวอย่างของ เกรต้า ซึ่งเป็นเด็กผู้หญิงชาวสวีเดนอายุ 14 ปี ที่ขึ้นมาประท้วงเรื่องสิ่งแวดล้อมจนเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก และมองกลับมายังประเทศไทยที่เด็กวัยรุ่นไทยที่มักไม่ได้สนใจเรื่องสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังไม่รู้ภาษาในเรื่องชีวิตสังคมและความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่ควรรู้ ซึ่งอาจเป็นเพราะระบบการศึกษาอบรมเลี้ยงดูเป็นแบบจารีตนิยม ได้สอนให้เข้าใจชีวิต ธรรมชาติ สังคม แบบองค์รวม รวมถึงการวิเคราะห์ในการเชื่อมความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ
.
#busguy
#ธุรกิจแบ่งปัน #business

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กระตุ้นพฤติกรรม ด้วยโบนัสแบบ Spot (s.154)

  บริษัทจำนวนมาจะมีระบบการให้ผลตอบแทนที่เรียกว่า "โบนัส" ประจำปี  โดยอาจพิจารณาจากผลประกอบการของบริษัทร่วมกับผลงานของพนักงาน และโบนัสดังกล่าวมักอยู่ในรูปของเงินก้อนใหญ่เมื่อเปรียบกับเงินเดือนของพนักงานผู้นั้น ทำให้บริษัทต้องมีภาระทางการเงินเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาดังกล่าวที่มีการให้โบนัส  อย่างไรก็ดียังมีวิธีหนึ่งในการให้ผลตอบแทนพนักงานซึ่งเป็นการให้ที่ถี่กว่าและจำนวนเงินก้อนเล็กกว่าเมื่อเทียบกับโบนัสประจำปี ซึ่งอาจเรียกว่าโบนัสในลักษณะนี้ว่าเป็น Spot Bonus โดยทั่วไปนั้น Spot Bonus จะให้กับพนักงานหรือกลุ่มของพนักงานสำหรับพฤติรรม การกระทำ หรือผลลัพธ์ในเรื่องหนึ่งๆ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกระตุ้นผลงานและสร้างแรงจูงใจของพนักงานในการทำงาน โดยมักเกี่ยวข้องกับงานที่เป็นโครงการ หรือเป็นการให้เพื่อส่งเสริมการกระทำหรือพฤติกรรมบางอย่างที่บริษัทประสงค์จากตัวพนักงาน.  ประโยชน์การนำ Spot Bonus มาใช้ในองค์กรนั้นมีประเด็นที่น่าสนใจที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ ดังนี้ 1. Spot Bonus สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับพนักงานได้บ่อยครั้งขึ้น - แทนที่ต้องรอโบนัสในช่วงปลายปี การให้ Spot Bonus จะ...

หงส์ดำ แรดเทา ความเสี่ยง (s.257)

#busguy #ธุรกิจแบ่งปัน #business . สัตว์สองตัวที่มักถูกนำมาเรียกเปรียบเปรยในช่วงสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 นี้ได้แก่ หงส์ดำ (Back Swan) และ แรดเทา (Grey Rhino) ซึ่งมีนอกเหนือจากที่มีการเปรียบเปรยแล้ว ยังมีการถกเถียงกันถึงเรื่องว่าเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโควิดนี้ควรจัดเป็นเหตุการณ์ลักษณะของ หงส์ดำ หรือ แรดเทา กันแน่ โดยเหตุการณ์ทั้งสองถือเป็นสิ่งเราควรเรียนรู้ในเรื่องของการบริหารความเสี่ยง . เรื่องของ หงส์ดำ มีมาช้านานแล้ว โดยใช้เปรียบเปรยในลักษณะของเหตุการณ์ที่เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากในอดีตนั้น คนส่วนใหญ่จะคิดว่าหงส์จะต้องเป็นสีขาวเท่านั้น ดังนั้นหงส์ดำจึงเป็นสิ่งนอกความคิดหรือเป็นไปไม่ได้. อย่างไรก็ดี เมื่อต่อมาได้มีการค้นพบหงส์ดำเกิดขึ้นจริง การเปรียบเปรยหงส์ดำก็กลายเป็นการกล่าวถึงเหตุการณ์ที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้หรือไม่น่ามีทางเกิดขึ้น แต่สุดท้ายก็เป็นไปได้. ทั้งนี้เหตุการณ์ที่จะเป็นหงส์ดำต้องมีลักษณะ 1.เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดมาก่อน ข้อมูลในอดีตไม่มีการบ่งบอกที่จะเกิดเหตุการณ์นั้น 2. มีผลกระทบที่รุนแรง และ 3. เมื่อมันเกิดขึ้นจริง แล้วเรามองย้อนกลับไป ก็จะสามารถหาเหตุผลมาอธิบายการเกิดข...

Word of the Year 2022 (s.540)

  #จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy  ➼ Word of The Year ที่นำเสนอโดยสำนักพิมพ์ดิกชันนารีออกฟอร์ด ซึ่งได้ประกาศออกมาโดยการใช้วิธีการโหวตออนไลน์ ได้คำว่า "goblin mode" ซึ่งหมายถึงชนิดของพฤติกรรมที่ตามใจตนเอง ขี้เกียจ ดูสกปรก ไร้ระเบียบ มีลักษณะทั่วไปที่ปฏิเสธแบบแผนของสังคมซึ่งเป็นที่ยอมรับกัน. ➼ การตีความว่าคนอยู่ในโหมดของการเป็น goblin หมายถึงคนที่เลือกเองว่าจะอยู่ในโหมดของการเป็นคนสกปรก ขี้เกียจ ไม่สนใจสารรูปของตนเอง บริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และชอบอยู่ในบ้านไม่ออกไปข้างนอก. ➼ สำหรับสำนักพิมพ์ดิกชันนารี Merriam-Webster ได้เลือก Word of the Year คำว่า "gaslighting" ซึ่งหมายความถึงการพยายามทำให้บุคคลหนึ่งรู้สึกไม่มั่นคงและสั่นคลอนในความเชื่อของตน จนทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่เห็นหรือมีประสบการณ์มิได้เกิดขึ้นจริง. ซึ่งเพื่อประโยชน์ของตนเอง. ➼ สำนักพิมพ์ดิกชันนารี Collins เลือก "permacrisis" ซึ่งแปลว่าวิกฤตที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและคงทน เพื่อเล่าสถานการณ์ของโลกปัจจุบันที่คาดเดาได้ยาก เกิดความไม่มั่นคงในหลายด้าน บรรยากาศเต็มไปด้วยความวุ่นวาย. อ้างอิง: ...