ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ความสุขของแต่ละวัย กับ แรงจูงใจเบื้องหลัง (s.81)


 

บทความในกรุงเทพธุรกิจ วันที่ 14 ก.ค.63 คอลัมม์มองมุมใหม่ โดย รศ.ดร.พสุ เดชะรินทร์ เรื่อง "นิยามความสุขของแต่ละวัย" ได้ให้มุมมองข้อสังเกตที่น่าสนใจคือ คนแต่ละวัยจะมีวิธีการในการแสวงหาความสุขเพื่อชดเชยกับช่วงโควิดที่ผ่านมา ด้วยรูปแบบและวิธีที่แตกต่างกัน จึงอยากสรุปมาจดเก็บบันทึกไว้ ดังนี้
.
คนช่วง "วัยรุ่น รวมถึงวัยทำงานช่วงต้น" - โดยคนในช่วงอายุดังกล่าวมักจะเป็นการได้ออกไปทำในสิ่งที่ท้าทาย แปลกใหม่ เจอคนใหม่ๆ.  ในขณะที่ "คนช่วงวัยกลางคน" มักจะเป็นการได้อยู่กับครอบครัว การนั่งดูหนัง หรืออ่านหนังสืออย่างสงบที่บ้าน หรือการได้พบเจอ กินข้าว ออกกำลังกายกับเพื่อนฝูงที่ไม่ได้เจอกันมานาน
.
สำหรับคนช่วง "เมื่อเจริญวัย" ซึ่งมีอายุมากขึ้น นิยามของความสุขก็จะค่อยๆ มีการเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาการไปพร้อมๆ กับวัย กิจการหลายๆ ประการที่เคยทำแล้วมีแล้วความสุขดังเช่นวันรุ่นหรือวันทำงานก็มักจะไม่ได้นำไปสู่ความสุขเหมือนในอดีต  อย่างไรก็ดี ในลักษณะนี้จะไม่ได้หมายความว่าความสุขของคนวัยนี้จะลดน้อยลง แต่เป็นเพราะนิยามของความสุขนั้นแตกต่างกันตามวัย
.
มีนักจิตวิทยาทางด้านสังคมได้ให้คำอธิบายต่อปรากฏการณ์ความสุขที่เปลี่ยนไปในแต่ละวัยว่าเกิดจากปัจจัยกระตุ้นหรือจูงใจที่แตกต่างกัน โดย "ช่วงวัยรุ่นหรือวัยทำงาน" จะเป็นช่วงที่มีแรงจูงใจแบบ "Promotion motivation" มองเป้าหมายในสิ่งที่ต้องการบรรลุ ให้ความสำคัญกับความหวังในอนาคต และเชื่อว่าสามารถทำและบรรลุในเป้าหมายได้
.
แต่เมื่อเจริญวัยขึ้น แรงจูงใจจะเริ่มเปลี่ยนเป็น "Prevention motivation" โดยเป้าหมายจะเป็นการป้องกันสิ่งที่มีอยู่ หลีกเลี่ยงการสูญเสีย และทำให้ชีวิตอยู่ได้อย่างราบรื่น คนในกลุ่มนี้จะให้ความสำคัญกับสิ่งที่มีอยู่ และรักษาสิ่งนั้นให้คงอยู่ต่อไป
.
💡 ความสุขของแต่ละคนอาจแตกต่างกันตามวัย ลักษณะนิสัย และสภาพแวดล้อม  จากบทความที่ได้กล่าวมาจะแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของวิธีการหาความสุขของคนในแต่ละช่วงอายุ ซึ่งทำให้เราไม่สามารถตัดสินความากน้อยของความสุขของผู้อื่นโดยเอาตัวเราเป็นบรรทัดฐานได้เสียทีเดียว ซึ่งการเข้าใจนิยามของความสุขนั้น จะทำให้เราเข้าใจอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างราบรื่นและมีความสุขมากขึ้น.
.
#busguy
#ธุรกิจแบ่งปัน #business

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กระตุ้นพฤติกรรม ด้วยโบนัสแบบ Spot (s.154)

  บริษัทจำนวนมาจะมีระบบการให้ผลตอบแทนที่เรียกว่า "โบนัส" ประจำปี  โดยอาจพิจารณาจากผลประกอบการของบริษัทร่วมกับผลงานของพนักงาน และโบนัสดังกล่าวมักอยู่ในรูปของเงินก้อนใหญ่เมื่อเปรียบกับเงินเดือนของพนักงานผู้นั้น ทำให้บริษัทต้องมีภาระทางการเงินเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาดังกล่าวที่มีการให้โบนัส  อย่างไรก็ดียังมีวิธีหนึ่งในการให้ผลตอบแทนพนักงานซึ่งเป็นการให้ที่ถี่กว่าและจำนวนเงินก้อนเล็กกว่าเมื่อเทียบกับโบนัสประจำปี ซึ่งอาจเรียกว่าโบนัสในลักษณะนี้ว่าเป็น Spot Bonus โดยทั่วไปนั้น Spot Bonus จะให้กับพนักงานหรือกลุ่มของพนักงานสำหรับพฤติรรม การกระทำ หรือผลลัพธ์ในเรื่องหนึ่งๆ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกระตุ้นผลงานและสร้างแรงจูงใจของพนักงานในการทำงาน โดยมักเกี่ยวข้องกับงานที่เป็นโครงการ หรือเป็นการให้เพื่อส่งเสริมการกระทำหรือพฤติกรรมบางอย่างที่บริษัทประสงค์จากตัวพนักงาน.  ประโยชน์การนำ Spot Bonus มาใช้ในองค์กรนั้นมีประเด็นที่น่าสนใจที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ ดังนี้ 1. Spot Bonus สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับพนักงานได้บ่อยครั้งขึ้น - แทนที่ต้องรอโบนัสในช่วงปลายปี การให้ Spot Bonus จะ...

Word of the Year 2022 (s.540)

  #จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy  ➼ Word of The Year ที่นำเสนอโดยสำนักพิมพ์ดิกชันนารีออกฟอร์ด ซึ่งได้ประกาศออกมาโดยการใช้วิธีการโหวตออนไลน์ ได้คำว่า "goblin mode" ซึ่งหมายถึงชนิดของพฤติกรรมที่ตามใจตนเอง ขี้เกียจ ดูสกปรก ไร้ระเบียบ มีลักษณะทั่วไปที่ปฏิเสธแบบแผนของสังคมซึ่งเป็นที่ยอมรับกัน. ➼ การตีความว่าคนอยู่ในโหมดของการเป็น goblin หมายถึงคนที่เลือกเองว่าจะอยู่ในโหมดของการเป็นคนสกปรก ขี้เกียจ ไม่สนใจสารรูปของตนเอง บริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และชอบอยู่ในบ้านไม่ออกไปข้างนอก. ➼ สำหรับสำนักพิมพ์ดิกชันนารี Merriam-Webster ได้เลือก Word of the Year คำว่า "gaslighting" ซึ่งหมายความถึงการพยายามทำให้บุคคลหนึ่งรู้สึกไม่มั่นคงและสั่นคลอนในความเชื่อของตน จนทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่เห็นหรือมีประสบการณ์มิได้เกิดขึ้นจริง. ซึ่งเพื่อประโยชน์ของตนเอง. ➼ สำนักพิมพ์ดิกชันนารี Collins เลือก "permacrisis" ซึ่งแปลว่าวิกฤตที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและคงทน เพื่อเล่าสถานการณ์ของโลกปัจจุบันที่คาดเดาได้ยาก เกิดความไม่มั่นคงในหลายด้าน บรรยากาศเต็มไปด้วยความวุ่นวาย. อ้างอิง: ...

Reserve Currency (s.538)

  #จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy  ➼ Reserve Currency คือ เงินตราต่างประเทศที่ธนาคารกลางและสถาบันการเงินใหญ่ๆ ในโลกถือไว้เป็นจำนวนมาก เพื่อใช้ในการค้า การลงทุนและการชำระหนี้ระหว่างประเทศ. ➼ ตั้งแต่ปี 1944 มี 44 ประเทศได้ตกลงกันที่เมือง Bretton Woods ที่จะให้ดอลลาร์เป็นเงินตราที่จะใช้ในธุรกรรมระหว่างประเทศ โดยประเทศต่างๆ จะผูกค่าเงินของตนไว้กับดอลลาร์ และดอลลาร์ก็จะผูกไว้กับทองคำอีกต่อหนึ่ง ในอัตรา 35 ดอลลาร์ต่อทองทำ 1 Troy Ounce นี่เป็นจุดกำหนดของระบบอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ (Fixed Exchange Rate System). ➼ ในปี 1973 ประธานาธิบดีนิกสันได้ประกาศยกเลิกการผูกค่าเงินดอลลาร์ไว้กับทองคำ อันเป็นจุดเริ่มต้นของระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัว (Flexible Exchange Rate System) โดยแม้ดอลลาร์จะไม่มีทองคำหนุนหลัง แต่ดอลลาร์ก็ยังคงเป็น reserve currency หลักของโลกมาตลอดมาตลอดเกือบ 80 ปี เพราะสภาพคล่องที่มีสูงมาก. ➼ สหรัฐถือเป็นประเทศที่ได้เปรียบทุกประเทศในการที่สามารถใช้เงินของตนทำธุรกรรมต่างประเทศได้ อย่างไรก็ดี ในระยะยาว ยังมีคำถามที่เกิดขึ้นคือ ดอลลาร์อาจสูญเสียความเป็น reserve currency หลักของ...