ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

การฟื้นตัวของการใช้จ่ายภาคครัวเรือน ช่วงครึ่งปีหลัง (s.88)

 

แม้ปัจจุบันเริ่มมีการฟื้นตัวของธุรกิจให้ได้เห็นบ้างภายหลังการผ่อนคลายการปิดเมือง โดย Google mobility index ชี้ให้เห็นถึงการที่ผู้คนเดินทางไป grocery ในระดับที่มากขึ้นกว่าช่วงก่อน COVID +4% แต่ยังไปห้างและสถานสันทนาการลดลง -7% หรือกรณีสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ -12%  ในขณะที่ข้อมูลของ TripAdvisor พบการฟื้นตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดือน เม.ย. แต่ยังน้อยกว่าเดิมช่วงก่อน COVID ค่อนข้างมาก และการฟื้นตัวนี้เป็นไปแบบกระจุกอยู่ที่ budget hotel และโรงแรมรอบๆ กทม. อย่างไรก็ดีการฟื้นตัวยังมีความเสี่ยงจากความเปราะบาง 3 ด้าน ได้แก่
.
1. แนวโน้มการจ้างงานและรายได้ที่ซบเซา - อัตราการว่างงานภายในระบบประกันสังคมกระโดดมาอยู่ที่ 3.5% ในเดือน มิ.ย. ขณะที่ข้อมูลจาก JobsDB.com แสดงให้เห็นถึงตำแหน่งงานทที่เปิดรับเดือน ก.ค. ลดลงจากช่วงก่อน COVID ถึง -17% ในทุกหมวดธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มยานยนต์ ท่องเที่ยว และเครื่องนุ่งห่ม
.
2. ปัญหา Debt Overhang ของภาคครัวเรือนจะมีความรุนแรงขึ้น - ความเปราะบางของภาคครัวเรือนตั้งแต่ช่วงก่อน COVID โดยสัดส่วนระดับหนี้ต่อรายได้ครัวเรือนทั้งปีเพิ่มอยู่ที่สูงสุด 99% จากการสำรวจในปี 2019 โดย 60% ของครัวเรือนมีเงินออมเพียงพอต่อค่าใช้จ่ายไม่เกิน 3 เดือน  ทั้งนี้ผลกระทบจาก COVID ยิ่งทำให้ปัญหาดังกล่าวมีความรุ่นแรงเพิ่มมากขึ้น
.
3. ความเชื่อมั่นได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนที่อยู่ในระดับสูง - แม้ว่าภาพรวม เศรษฐกิจอาจได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว แต่ตัวเลขความเสี่ยงของเศรษฐกิจหลายตัวยังมีแนวโน้มแย่ลงได้อีก โดยเฉพาะตัวเลขการเปิดปิดกิจการของภาคธุรกิจ โดยข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าพบว่าธุรกิจปิดกิจการในช่วงครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้น 11% จากปีก่อน และการเปิดธุรกิจลดน้อยลงถึง 13%
.
ความเปราบางที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ภาคครัวเรือนยังคงต้องใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง ให้ความสำคัญกับการออมมากขึ้น โดยภาครัฐควรต้องมีบทบาทในการปรับตัวของภาคครัวเรือนผ่านการใช้งบประมาณให้มีประสิทธิภาพสูงสุดและตรงจุดมากขึ้น ตลอดจนมาตรการภาษีหรือการลดต้นทุนมากขึ้น และรวมถึงการปรับทักษะของแรงงานให้ตอบโจทย์ของอนาคต
.
#busguy
#ธุรกิจแบ่งปัน #business
อ้างอิง : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 23 ก.ค. 63 คอลัมม์ก้าวทันเศรษฐฏิจ โดย ดร.ยรรยง ไทยเจริญ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กระตุ้นพฤติกรรม ด้วยโบนัสแบบ Spot (s.154)

  บริษัทจำนวนมาจะมีระบบการให้ผลตอบแทนที่เรียกว่า "โบนัส" ประจำปี  โดยอาจพิจารณาจากผลประกอบการของบริษัทร่วมกับผลงานของพนักงาน และโบนัสดังกล่าวมักอยู่ในรูปของเงินก้อนใหญ่เมื่อเปรียบกับเงินเดือนของพนักงานผู้นั้น ทำให้บริษัทต้องมีภาระทางการเงินเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาดังกล่าวที่มีการให้โบนัส  อย่างไรก็ดียังมีวิธีหนึ่งในการให้ผลตอบแทนพนักงานซึ่งเป็นการให้ที่ถี่กว่าและจำนวนเงินก้อนเล็กกว่าเมื่อเทียบกับโบนัสประจำปี ซึ่งอาจเรียกว่าโบนัสในลักษณะนี้ว่าเป็น Spot Bonus โดยทั่วไปนั้น Spot Bonus จะให้กับพนักงานหรือกลุ่มของพนักงานสำหรับพฤติรรม การกระทำ หรือผลลัพธ์ในเรื่องหนึ่งๆ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกระตุ้นผลงานและสร้างแรงจูงใจของพนักงานในการทำงาน โดยมักเกี่ยวข้องกับงานที่เป็นโครงการ หรือเป็นการให้เพื่อส่งเสริมการกระทำหรือพฤติกรรมบางอย่างที่บริษัทประสงค์จากตัวพนักงาน.  ประโยชน์การนำ Spot Bonus มาใช้ในองค์กรนั้นมีประเด็นที่น่าสนใจที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ ดังนี้ 1. Spot Bonus สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับพนักงานได้บ่อยครั้งขึ้น - แทนที่ต้องรอโบนัสในช่วงปลายปี การให้ Spot Bonus จะ...

หงส์ดำ แรดเทา ความเสี่ยง (s.257)

#busguy #ธุรกิจแบ่งปัน #business . สัตว์สองตัวที่มักถูกนำมาเรียกเปรียบเปรยในช่วงสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 นี้ได้แก่ หงส์ดำ (Back Swan) และ แรดเทา (Grey Rhino) ซึ่งมีนอกเหนือจากที่มีการเปรียบเปรยแล้ว ยังมีการถกเถียงกันถึงเรื่องว่าเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโควิดนี้ควรจัดเป็นเหตุการณ์ลักษณะของ หงส์ดำ หรือ แรดเทา กันแน่ โดยเหตุการณ์ทั้งสองถือเป็นสิ่งเราควรเรียนรู้ในเรื่องของการบริหารความเสี่ยง . เรื่องของ หงส์ดำ มีมาช้านานแล้ว โดยใช้เปรียบเปรยในลักษณะของเหตุการณ์ที่เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากในอดีตนั้น คนส่วนใหญ่จะคิดว่าหงส์จะต้องเป็นสีขาวเท่านั้น ดังนั้นหงส์ดำจึงเป็นสิ่งนอกความคิดหรือเป็นไปไม่ได้. อย่างไรก็ดี เมื่อต่อมาได้มีการค้นพบหงส์ดำเกิดขึ้นจริง การเปรียบเปรยหงส์ดำก็กลายเป็นการกล่าวถึงเหตุการณ์ที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้หรือไม่น่ามีทางเกิดขึ้น แต่สุดท้ายก็เป็นไปได้. ทั้งนี้เหตุการณ์ที่จะเป็นหงส์ดำต้องมีลักษณะ 1.เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดมาก่อน ข้อมูลในอดีตไม่มีการบ่งบอกที่จะเกิดเหตุการณ์นั้น 2. มีผลกระทบที่รุนแรง และ 3. เมื่อมันเกิดขึ้นจริง แล้วเรามองย้อนกลับไป ก็จะสามารถหาเหตุผลมาอธิบายการเกิดข...

Word of the Year 2022 (s.540)

  #จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy  ➼ Word of The Year ที่นำเสนอโดยสำนักพิมพ์ดิกชันนารีออกฟอร์ด ซึ่งได้ประกาศออกมาโดยการใช้วิธีการโหวตออนไลน์ ได้คำว่า "goblin mode" ซึ่งหมายถึงชนิดของพฤติกรรมที่ตามใจตนเอง ขี้เกียจ ดูสกปรก ไร้ระเบียบ มีลักษณะทั่วไปที่ปฏิเสธแบบแผนของสังคมซึ่งเป็นที่ยอมรับกัน. ➼ การตีความว่าคนอยู่ในโหมดของการเป็น goblin หมายถึงคนที่เลือกเองว่าจะอยู่ในโหมดของการเป็นคนสกปรก ขี้เกียจ ไม่สนใจสารรูปของตนเอง บริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และชอบอยู่ในบ้านไม่ออกไปข้างนอก. ➼ สำหรับสำนักพิมพ์ดิกชันนารี Merriam-Webster ได้เลือก Word of the Year คำว่า "gaslighting" ซึ่งหมายความถึงการพยายามทำให้บุคคลหนึ่งรู้สึกไม่มั่นคงและสั่นคลอนในความเชื่อของตน จนทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่เห็นหรือมีประสบการณ์มิได้เกิดขึ้นจริง. ซึ่งเพื่อประโยชน์ของตนเอง. ➼ สำนักพิมพ์ดิกชันนารี Collins เลือก "permacrisis" ซึ่งแปลว่าวิกฤตที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและคงทน เพื่อเล่าสถานการณ์ของโลกปัจจุบันที่คาดเดาได้ยาก เกิดความไม่มั่นคงในหลายด้าน บรรยากาศเต็มไปด้วยความวุ่นวาย. อ้างอิง: ...