รางวัลแบบคาดเดาไม่ได้ ทำให้กิจกรรมในสมองส่วนนิวเครียส แอ็กคัมเบนส์ และระดับสื่อประสาทโดพามีนเพิ่มขึ้น ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นคือ เราจะกระหายที่จะแสวงหารางวัลมากขึ้น. รางวัลแบบคาดเดาไม่ได้ดังกล่าวอาจพบได้ในผลิตภัณฑ์และประสบการณ์ทุกรูปแบบที่เหนี่ยวความสนใจของเรา โดยแบ่งรางวัลแบบคาดเดาไม่ได้ออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ พวกพ้อง, การล่า, และ ตัวเอง
.
1. รางวัลในรูปแบบของพวกพ้อง : เป็นรางวัลทางสังคมได้รับแรงผลักดันจากความเชื่อมโยงระหว่างเรากับคนอื่น. เราแสวงหารางวัลที่ทำให้เรารู้สึกถึงการยอมรับ น่าดึงดูด เป็นคนสำคัญ และเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม. มีนักจิตวิทยานาม อัลเบิร์ต แบนดูรา ตั้ง "ทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคม" ขึ้นโดยสรุปว่า คนที่สังเกตเห็นใครซักคนได้รับรางวัลจากพฤติกรรมบางอย่างย่อมมีแนวโน้มมากขึ้นที่จะปรับเปลี่ยนความเชื่อและพฤติกรรมของตนเองให้เวลาต่อมา
.
2. รางวัลในรูปแบบของการล่า : การแสวงหาทรัพยากรเป็นตัวกำหนดรางวัลแบบคาดเดาไม่ได้ประเภทของรูปแบบการล่า โดยความต้องการที่จะได้รับวัตถุต่างๆ เช่น อาหารและสิ่งของที่ช่วยให้เราอยู่รอด เป็นส่วนหนึ่งของระบบปฏิบัติการของสมอง. จากเดิมที่เราเคยล่าสัตว์เพื่อใช้เป็นอาหาร ทุกวันนี้เราล่าสิ่งอื่นแทน ตัวอย่างของการไล่ล่า เช่น รางวัลที่ได้รับจากเครื่องเล่นพนัน ข้อมูลจากโซเซียลมีเดียที่ผู้ใช้สามารถเลื่อนอ่านได้แบบไม่มีที่สิ้นสุด
.
3. รางวัลในตัวเอง : เราได้รับแรงผลักดันให้เอาชนะอุปสรรคต่างๆ โดยอาจทำไปเพื่อให้เกิดความพึงพอใจเท่านั้น ประเด็นที่น่าสนใจคือ เราแสวงหารางวัลแม้แต่ตอนที่เราไม่ได้ปลาบปลื้มกับมันเท่าไหร่. ทฤษฎีการตัดสินใจด้วยตนเองของเอ็ดเวิร์ด เดซี และ ริชาร์ด ไรอัน ระบุว่าความปรารถนาอย่างหนึ่งของผู้คนคือการรู้สึกว่าตัวเองมีความสามารถ เมื่อเพิ่มความลึกลับเข้าไปในเป้าหมายนี้ การทำบางสิ่งบางอย่างก็จะยิ่งน่าเย้ายวนมากขึ้น
.
การออกแบบผลิตภัณฑ์หรือบริการโดยใช้แนวคิดรางวัลแบบคาดเดาไม่ได้ โดยบริษัทจะเสนอรางวัลอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับพฤติกรรมที่มุ่งหวังก็ต่อเมื่อบริษัทเข้าใจว่าอะไรเป็นสำคัญต่อผู้ใช้อย่างแท้จริง.
.
#busguy
#ธุรกิจแบ่งปัน #business
อ้างอิง "สร้างของให้คนติด HOOKED" โดย Nir Eyal & Ryan Hoover
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น