ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

11 แหล่งที่มาของ Disruption ที่องค์กรควรติดตาม (s.118)

 "...การกระจายความมั่งคั่ง โดยอาจมองเป็ฯการกระจุกตัวความมั่งคั่งหรือการกระจายตัวความมั่งคั่งในแต่ละชุมชน เป็นสาเหตุหลักหนึ่งที่จะทำให้เกิดการพลิกผันได้..."

 


บทความในวารสาร MIT Sloan Management Review ได้นำเสนอบทความของศาสตราจารย์ด้านการคาดการณ์เชิงกลยุทธ์ ชื่อ ศ. เอมี่ ค็อบบ์ ซึ่งเขียนเกี่ยวกับบทความที่เกี่ยวแหล่งที่มาของการพลักผันที่บริษัทต้องคอยจับตา โดยกล่าวว่านับจากปี 2020 นี้เป็นต้นไป โลกของเรามีโอกาสพลักผัน (Disruption) จาก 11 ปัจจัย นี้
.
1. การกระจายความมั่งคั่ง - การกระจุกตัวความมั่งคั่งหรือการกระจายตัวความมั่งคั่งในแต่ละชุมชน เป็นสาเหตุหลักหนึ่งที่จะทำให้เกิดการพลิกผันได้

2. การศึกษาสมัยใหม่ - คนทุกระดับสามารถแสวงหาความรู้ด้วยตนเองได้ง่ายขึ้น และถือเป็นปัจจัยหนึ่งในการขับเคลื่อนนวัตกรรม

3. โครงสร้างพื้นฐาน - ชุมชนที่มีโครงสร้างที่สมบูรณ์ทันสมัยจะมีโอกาสในการสร้างนวัตกรรมพลิกผันสังคมโลกได้มาก

4. รัฐบาล - องค์กรปกครองในทุกระดับ รวมถึงนยบายของพรรคการเมือง เป็นปัจจัยให้เกิดความนิ่งเฉย หรือ เกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคม

5. ภูมิศาสตร์ทางการเมือง - เครือข่ายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือกับในประเทศ จะเป็นพื้นฐานให้ผู้นำในการพลิกผันหรือสกัดกั้นการผลิกผันได้

6. เศรษฐกิจ - การเปลี่ยนแปลงโมเดลทางเศรษฐศาสตร์จะสามารถนำไปสู่การพลิกผันได้

7. สาธารณสุข - เกิดจากพฤติกรรมด้านสุขอนามัยของคนในสังคม เช่น การใส่หน้ากาก หรือการล้างมือบ่อยๆ ที่พบเห็นได้ในปัจจุบัน

8. การเปลี่ยนแปลงทางประชากรศาสตร์ - จากการที่หลายประเทศเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุทำให้สินค้าและบริการจำเป็นต้องปรับตัวเกิดการพลิกผันในธุรกิจ

9. สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ - ได้แก่ แผ่นดินไหว พายุ น้ำท่วม ไฟป่า ซึ่งเราจะได้ยินรับรู้บ่อยมากขึ้นในช่วงปัจจุบัน และรวมถึงอนาคต

10. สื่อและการสื่อสาร - โดยเฉพาะทาง Social Media หรือแพลทฟอร์มทำงานต่างๆ สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพลิกผันในสังคมได้

11. เทคโนโลยีอื่นๆ - อาจกล่าวได้ว่าความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในปัจจุบันอยู่ในจุดที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทำให้ทุกสาขาสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงพลิกผันได้ทั้งสิ้น
.
#busguy 
#ธุรกิจแบ่งปัน #business 

อ้างอิง : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 24 ส.ค.63 คอลัมม์ "Think Leadership" เรื่อง "จับตา 11 ปัจจัย สร้างความพลิกผัน" โดย รศ.ดร.ศิริยุพา รุ่งเริงสุข

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กระตุ้นพฤติกรรม ด้วยโบนัสแบบ Spot (s.154)

  บริษัทจำนวนมาจะมีระบบการให้ผลตอบแทนที่เรียกว่า "โบนัส" ประจำปี  โดยอาจพิจารณาจากผลประกอบการของบริษัทร่วมกับผลงานของพนักงาน และโบนัสดังกล่าวมักอยู่ในรูปของเงินก้อนใหญ่เมื่อเปรียบกับเงินเดือนของพนักงานผู้นั้น ทำให้บริษัทต้องมีภาระทางการเงินเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาดังกล่าวที่มีการให้โบนัส  อย่างไรก็ดียังมีวิธีหนึ่งในการให้ผลตอบแทนพนักงานซึ่งเป็นการให้ที่ถี่กว่าและจำนวนเงินก้อนเล็กกว่าเมื่อเทียบกับโบนัสประจำปี ซึ่งอาจเรียกว่าโบนัสในลักษณะนี้ว่าเป็น Spot Bonus โดยทั่วไปนั้น Spot Bonus จะให้กับพนักงานหรือกลุ่มของพนักงานสำหรับพฤติรรม การกระทำ หรือผลลัพธ์ในเรื่องหนึ่งๆ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกระตุ้นผลงานและสร้างแรงจูงใจของพนักงานในการทำงาน โดยมักเกี่ยวข้องกับงานที่เป็นโครงการ หรือเป็นการให้เพื่อส่งเสริมการกระทำหรือพฤติกรรมบางอย่างที่บริษัทประสงค์จากตัวพนักงาน.  ประโยชน์การนำ Spot Bonus มาใช้ในองค์กรนั้นมีประเด็นที่น่าสนใจที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ ดังนี้ 1. Spot Bonus สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับพนักงานได้บ่อยครั้งขึ้น - แทนที่ต้องรอโบนัสในช่วงปลายปี การให้ Spot Bonus จะ...

หงส์ดำ แรดเทา ความเสี่ยง (s.257)

#busguy #ธุรกิจแบ่งปัน #business . สัตว์สองตัวที่มักถูกนำมาเรียกเปรียบเปรยในช่วงสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 นี้ได้แก่ หงส์ดำ (Back Swan) และ แรดเทา (Grey Rhino) ซึ่งมีนอกเหนือจากที่มีการเปรียบเปรยแล้ว ยังมีการถกเถียงกันถึงเรื่องว่าเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโควิดนี้ควรจัดเป็นเหตุการณ์ลักษณะของ หงส์ดำ หรือ แรดเทา กันแน่ โดยเหตุการณ์ทั้งสองถือเป็นสิ่งเราควรเรียนรู้ในเรื่องของการบริหารความเสี่ยง . เรื่องของ หงส์ดำ มีมาช้านานแล้ว โดยใช้เปรียบเปรยในลักษณะของเหตุการณ์ที่เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากในอดีตนั้น คนส่วนใหญ่จะคิดว่าหงส์จะต้องเป็นสีขาวเท่านั้น ดังนั้นหงส์ดำจึงเป็นสิ่งนอกความคิดหรือเป็นไปไม่ได้. อย่างไรก็ดี เมื่อต่อมาได้มีการค้นพบหงส์ดำเกิดขึ้นจริง การเปรียบเปรยหงส์ดำก็กลายเป็นการกล่าวถึงเหตุการณ์ที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้หรือไม่น่ามีทางเกิดขึ้น แต่สุดท้ายก็เป็นไปได้. ทั้งนี้เหตุการณ์ที่จะเป็นหงส์ดำต้องมีลักษณะ 1.เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดมาก่อน ข้อมูลในอดีตไม่มีการบ่งบอกที่จะเกิดเหตุการณ์นั้น 2. มีผลกระทบที่รุนแรง และ 3. เมื่อมันเกิดขึ้นจริง แล้วเรามองย้อนกลับไป ก็จะสามารถหาเหตุผลมาอธิบายการเกิดข...

Word of the Year 2022 (s.540)

  #จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy  ➼ Word of The Year ที่นำเสนอโดยสำนักพิมพ์ดิกชันนารีออกฟอร์ด ซึ่งได้ประกาศออกมาโดยการใช้วิธีการโหวตออนไลน์ ได้คำว่า "goblin mode" ซึ่งหมายถึงชนิดของพฤติกรรมที่ตามใจตนเอง ขี้เกียจ ดูสกปรก ไร้ระเบียบ มีลักษณะทั่วไปที่ปฏิเสธแบบแผนของสังคมซึ่งเป็นที่ยอมรับกัน. ➼ การตีความว่าคนอยู่ในโหมดของการเป็น goblin หมายถึงคนที่เลือกเองว่าจะอยู่ในโหมดของการเป็นคนสกปรก ขี้เกียจ ไม่สนใจสารรูปของตนเอง บริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และชอบอยู่ในบ้านไม่ออกไปข้างนอก. ➼ สำหรับสำนักพิมพ์ดิกชันนารี Merriam-Webster ได้เลือก Word of the Year คำว่า "gaslighting" ซึ่งหมายความถึงการพยายามทำให้บุคคลหนึ่งรู้สึกไม่มั่นคงและสั่นคลอนในความเชื่อของตน จนทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่เห็นหรือมีประสบการณ์มิได้เกิดขึ้นจริง. ซึ่งเพื่อประโยชน์ของตนเอง. ➼ สำนักพิมพ์ดิกชันนารี Collins เลือก "permacrisis" ซึ่งแปลว่าวิกฤตที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและคงทน เพื่อเล่าสถานการณ์ของโลกปัจจุบันที่คาดเดาได้ยาก เกิดความไม่มั่นคงในหลายด้าน บรรยากาศเต็มไปด้วยความวุ่นวาย. อ้างอิง: ...