ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เพิ่มราคาสินค้า จากความเข้าใจในพฤติกรรมผู้บริโภค (s.110)

 


"..ซึ่งกลยุทธ์ในการตั้งราคาถือเป็นส่วนหนึ่งในการชักจูงลูกค้าเพื่อให้เลือกซื้อสินค้าที่มีราคาสูงนั้น มีตัวอย่างวิธีที่สามารถนำไปใช้ได้ เช่น การสื่อสารในรูปแบบของการ upgrade คุณภาพของสินค้า.."
.
การนำเสนอทางเลือกให้แก่ลูกค้า โดยการการเพิ่มความหลากหลายของคุณภาพของสินค้า และปรับเปลี่ยนราคาของสินค้าตามคุณภาพที่ปรับเพิ่มขึ้นนั้น ถือเป็นเรื่องปกติที่เห็นได้โดยทั่วไปในการนำเสนอความหลากหลายของคุณภาพของสินค้าให้แก่ลูกค้าเลือกตามความเหมาะสมและรสนิยม อย่างไรก็ดี ในเบื้องลึกแล้วผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีความต้องการที่จะให้ลูกค้าเลือกซื้อสินค้าที่มีราคาสูง มากกว่าสินค้าที่มีราคาต่ำ ซึ่งกลยุทธ์ในการตั้งราคาถือเป็นส่วนหนึ่งในการชักจูงลูกค้าเพื่อให้เลือกซื้อสินค้าที่มีราคาสูงนั้น มีตัวอย่างวิธีที่สามารถนำไปใช้ได้ดังนี้
.
1. สื่อสารราคาสินค้าที่สูงขึ้น ในรูปแบบที่ของการ "upgrade" คุณภาพของสินค้าที่เพิ่มขึ้น - แทนที่ผู้ประกอบการจะสื่อสารนำเสนอสินค้าโดยแบ่งเป็นระดับคุณภาพหรือระดับราคา เช่น "สินค้าคุณภาพปกติ 100 บาท สินค้าคุณภาพดี 150 บาท" ให้ผู้ประกอบการทำการนำเสนอสินค้าในลักษณะของการ "upgrade" คุณลักษณะของสินค้าแทน เช่น "สินค้าคุณภาพปกติ 100 บาท สินค้าคุณภาพดีเพิ่ม + 50 บาท" เป็นต้น. ซึ่งการสื่อสารนำเสนอสินค้าในลักษณะนี้จะทำให้ผู้ซื้อรู้สึกยอมรับและซื้อสินค้าที่มีราคาสูง เพิ่มมากขึ้นกว่าการที่ผู้ประกอบสื่อสารแบบปกติ.
.
2. สื่อสารสิ่งที่เป็นคุณลักษณะที่จับต้องไม่ได้ ให้อยู่ในรูปของตัวเงิน - สินค้าที่มีคุณภาพดีขึ้นส่วนใหญ่มักเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของสินค้าซึ่งลักษณะดังกล่าวเป็นสิ่งที่บอกกล่าวให้เข้าใจได้ยาก ผู้ประกอบการจึงควรแปลงคุณลักษณะดังกล่าวให้ออกมาในรูปของตัวเงิน ซึ่งทำผู้ซื้อมีความเข้าใจที่ง่ายขึ้น เช่น "ตู้เย็นรุ่นพิเศษที่มีคุณลักษณะที่ดีในประการหยัดไฟราคาสูงกว่าตู้เย็นรุ่นปกติ 1,000 บาท แต่จะช่วยประหยัดไฟได้ถึงปีละ 2,000 บาท เมื่อเทียบกับตู้เย็นรุ่นปกติ" เป็นต้น. การสื่อสารในลักษณะนี้จะช่วยแปรเปลี่ยนคุณลักษณะที่เป็นนามธรรมซึ่งยากต่อการเข้าใจให้อยู่ในรูปแบบที่ผู้ซื้อสามารถเข้าใจได้ง่าย ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจที่ง่ายขึ้นของผู้ซื้อ
.
3. กำหนดส่วน "ลดราคา" ในลักษณะที่เป็นส่วนลดเพิ่ม ด้วยลำดับที่ถูกต้อง - การกำหนดส่วนลดราคาในลักษณะส่วนลดเพิ่ม (top up) จะมีประสิทธิภาพมากกว่าการกำหนดส่วนลดจำนวนใหญ่เพียงจำนวนเดียว เช่น การให้ "ส่วนลด 20% เพิ่มจากส่วนลดปกติที่ 10%" จะมีประสิทธิภาพมากกว่าการให้ส่วนลดก้อนใหญ่ 30% เป็นต้น. นอกจากนี้ การเรียงลำดับของส่วนลดที่เพิ่ม ควรเรียงลำดับจากส่วนลดน้อยที่สุดไปยังส่วนลดมากที่สุด ซึ่งจะช่วยให้การทำโปรโมชั่นส่วนลดดังกล่าวมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น "ส่วนลด 10% และลดเพิ่มอีก 20%" จะมีประสิทธิภาพมากกว่า "ส่วนลด 20% และลดเพิ่มอีก 10%" เป็นต้น. อย่างไรก็ดี การกำหนดส่วนลดราคาในลักษณะที่เป็นขั้นของส่วนลดเพิ่มนี้จะมีประสิทธิผลในสินค้าที่เป็น offline มากกว่าสินค้า online.
.
#busguy
#ธุรกิจแบ่งปัน #business

อ้างอิง : HBR "Upgrade Your Pricing Strategy to Match Consumer Behavior" โดย David J. Hardisty, Thomas Allard และ Dale Griffin.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กระตุ้นพฤติกรรม ด้วยโบนัสแบบ Spot (s.154)

  บริษัทจำนวนมาจะมีระบบการให้ผลตอบแทนที่เรียกว่า "โบนัส" ประจำปี  โดยอาจพิจารณาจากผลประกอบการของบริษัทร่วมกับผลงานของพนักงาน และโบนัสดังกล่าวมักอยู่ในรูปของเงินก้อนใหญ่เมื่อเปรียบกับเงินเดือนของพนักงานผู้นั้น ทำให้บริษัทต้องมีภาระทางการเงินเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาดังกล่าวที่มีการให้โบนัส  อย่างไรก็ดียังมีวิธีหนึ่งในการให้ผลตอบแทนพนักงานซึ่งเป็นการให้ที่ถี่กว่าและจำนวนเงินก้อนเล็กกว่าเมื่อเทียบกับโบนัสประจำปี ซึ่งอาจเรียกว่าโบนัสในลักษณะนี้ว่าเป็น Spot Bonus โดยทั่วไปนั้น Spot Bonus จะให้กับพนักงานหรือกลุ่มของพนักงานสำหรับพฤติรรม การกระทำ หรือผลลัพธ์ในเรื่องหนึ่งๆ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกระตุ้นผลงานและสร้างแรงจูงใจของพนักงานในการทำงาน โดยมักเกี่ยวข้องกับงานที่เป็นโครงการ หรือเป็นการให้เพื่อส่งเสริมการกระทำหรือพฤติกรรมบางอย่างที่บริษัทประสงค์จากตัวพนักงาน.  ประโยชน์การนำ Spot Bonus มาใช้ในองค์กรนั้นมีประเด็นที่น่าสนใจที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ ดังนี้ 1. Spot Bonus สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับพนักงานได้บ่อยครั้งขึ้น - แทนที่ต้องรอโบนัสในช่วงปลายปี การให้ Spot Bonus จะ...

หงส์ดำ แรดเทา ความเสี่ยง (s.257)

#busguy #ธุรกิจแบ่งปัน #business . สัตว์สองตัวที่มักถูกนำมาเรียกเปรียบเปรยในช่วงสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 นี้ได้แก่ หงส์ดำ (Back Swan) และ แรดเทา (Grey Rhino) ซึ่งมีนอกเหนือจากที่มีการเปรียบเปรยแล้ว ยังมีการถกเถียงกันถึงเรื่องว่าเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโควิดนี้ควรจัดเป็นเหตุการณ์ลักษณะของ หงส์ดำ หรือ แรดเทา กันแน่ โดยเหตุการณ์ทั้งสองถือเป็นสิ่งเราควรเรียนรู้ในเรื่องของการบริหารความเสี่ยง . เรื่องของ หงส์ดำ มีมาช้านานแล้ว โดยใช้เปรียบเปรยในลักษณะของเหตุการณ์ที่เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากในอดีตนั้น คนส่วนใหญ่จะคิดว่าหงส์จะต้องเป็นสีขาวเท่านั้น ดังนั้นหงส์ดำจึงเป็นสิ่งนอกความคิดหรือเป็นไปไม่ได้. อย่างไรก็ดี เมื่อต่อมาได้มีการค้นพบหงส์ดำเกิดขึ้นจริง การเปรียบเปรยหงส์ดำก็กลายเป็นการกล่าวถึงเหตุการณ์ที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้หรือไม่น่ามีทางเกิดขึ้น แต่สุดท้ายก็เป็นไปได้. ทั้งนี้เหตุการณ์ที่จะเป็นหงส์ดำต้องมีลักษณะ 1.เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดมาก่อน ข้อมูลในอดีตไม่มีการบ่งบอกที่จะเกิดเหตุการณ์นั้น 2. มีผลกระทบที่รุนแรง และ 3. เมื่อมันเกิดขึ้นจริง แล้วเรามองย้อนกลับไป ก็จะสามารถหาเหตุผลมาอธิบายการเกิดข...

Word of the Year 2022 (s.540)

  #จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy  ➼ Word of The Year ที่นำเสนอโดยสำนักพิมพ์ดิกชันนารีออกฟอร์ด ซึ่งได้ประกาศออกมาโดยการใช้วิธีการโหวตออนไลน์ ได้คำว่า "goblin mode" ซึ่งหมายถึงชนิดของพฤติกรรมที่ตามใจตนเอง ขี้เกียจ ดูสกปรก ไร้ระเบียบ มีลักษณะทั่วไปที่ปฏิเสธแบบแผนของสังคมซึ่งเป็นที่ยอมรับกัน. ➼ การตีความว่าคนอยู่ในโหมดของการเป็น goblin หมายถึงคนที่เลือกเองว่าจะอยู่ในโหมดของการเป็นคนสกปรก ขี้เกียจ ไม่สนใจสารรูปของตนเอง บริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และชอบอยู่ในบ้านไม่ออกไปข้างนอก. ➼ สำหรับสำนักพิมพ์ดิกชันนารี Merriam-Webster ได้เลือก Word of the Year คำว่า "gaslighting" ซึ่งหมายความถึงการพยายามทำให้บุคคลหนึ่งรู้สึกไม่มั่นคงและสั่นคลอนในความเชื่อของตน จนทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่เห็นหรือมีประสบการณ์มิได้เกิดขึ้นจริง. ซึ่งเพื่อประโยชน์ของตนเอง. ➼ สำนักพิมพ์ดิกชันนารี Collins เลือก "permacrisis" ซึ่งแปลว่าวิกฤตที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและคงทน เพื่อเล่าสถานการณ์ของโลกปัจจุบันที่คาดเดาได้ยาก เกิดความไม่มั่นคงในหลายด้าน บรรยากาศเต็มไปด้วยความวุ่นวาย. อ้างอิง: ...