ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ลูกค้า กับการแชร์ข้อมูลส่วนตัวบนมือถือที่มากกว่า (s.108)

การค้นพบหนึ่งจากงานวิจัยที่น่าสนใจ คือ ลูกค้าจะยินดีที่จะแชร์ข้อมูลเบื้องลึกหรือเรื่องเกี่ยวกับตนเอง (ส่วนบุคคล) เมื่อพวกเขาทำการสื่อสารผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ มากกว่าการแชร์ผ่านทางคอมพิวเตอร์บุคคล. ซึ่งคำอธิบายทั่วไป คือ การที่โทรศัพท์เคลื่อนที่มีขนาดที่เล็กและแป้นพิมพ์ต้องการสมาธิในการพิมพ์มากกว่าคอมพิวเตอร์ ทำให้ผู้ใช้งานจำเป็นต้องจดจ่อ และการจดจ่อดังกล่าวทำให้พวกเขาถูกปิดกั้นสมาธิจากสิ่งแวดล้อมอื่นๆ.

.

ทั้งนี้ เราอาจลองนึกถึงช่วงที่เวลาเรากำลังเขียน email หรือพิมพ์ข้อความเพื่อส่งให้เพื่อนของเราเปรียบเทียบระหว่างทำบนโทรศัพท์เคลื่อนที่กับทำบนคอมพิวเตอร์  เราจะสังเกตได้ว่าช่วงเวลาที่เราทำกิจกรรมดังกล่าวเราจะปิดกั้นสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัวและให้ความสนใจโดยเฉพาะกับกิจกรรมบนหน้าจอโทรศัพท์เคลื่อนที่มากกว่ากิจกรรมบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ โดยงานวิจัยได้ระบุถึง 2 เหตุผลสำหรับเหตุการณ์นี้ คือ 

1. โทรศัพท์เคลื่อนที่ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือที่ทำให้เรารู้สึกสบายใจเมื่อเทียบกับคอมพิวเตอร์ โดยในเชิงจิตวิทยาแล้ว โทรศัพท์เคลื่อนที่จะทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งเมื่อรู้สึกผ่อนคลาย เราก็จะมีแนวโน้มที่จะแบ่งปันเรื่องส่วนตัวมากขึ้น

2. ด้วยจอภาพที่มีขนาดเล็กของโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทำให้เราต้องเพ่งความสนใจและโฟกัสไปกับการกระทำสิ่งต่างๆ บนหน้าจอโทรศัพท์มากกว่าบนคอมพิวเตอร์ ซึ่งเมื่อเราพยายามโฟกัส เรามีแนวโน้มที่จะตัดขาดจากสิ่งรอบตัวภายนอกเช่นกัน ซึ่งรวมไปการตัดขาดจากความกังวลในการที่ผู้อื่นจะรับรู้หรือแสดงออกในสิ่งที่เราแชร์ออกไป

.

เมื่อเราพิจารณาไปที่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เราจะพบว่าสิ่งนี้แทบเป็นสิ่งที่อยู่กับเราตลอดเวลาทั้งตอนกลางวันและตอนกลางคืน และเรามักจะใช้มันกับกิจกรรมที่มีความเป็นส่วนตัวสูง เช่น ส่งข้อความ ทำธุรกรรมการเงิน เป็นต้น และหากพิจารณามุมของการตลาด การที่บริษัทได้รับข้อมูลหรือเนื้อหา (content) ที่ผู้ใช้สร้างจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ (smartphone-generated) เนื้อหาดังกล่าว จะมีแนวโน้มที่แสดงถึงความคิดหรือความรู้สึกของผู้ใช้งานจริงได้มากกว่า.

#busguy   
#ธุรกิจแบ่งปัน #business 
อ้างอิง : Knowledge@Wharton "Why Consumers Are Willing to Share Personal Information on Smartphones"

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กระตุ้นพฤติกรรม ด้วยโบนัสแบบ Spot (s.154)

  บริษัทจำนวนมาจะมีระบบการให้ผลตอบแทนที่เรียกว่า "โบนัส" ประจำปี  โดยอาจพิจารณาจากผลประกอบการของบริษัทร่วมกับผลงานของพนักงาน และโบนัสดังกล่าวมักอยู่ในรูปของเงินก้อนใหญ่เมื่อเปรียบกับเงินเดือนของพนักงานผู้นั้น ทำให้บริษัทต้องมีภาระทางการเงินเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาดังกล่าวที่มีการให้โบนัส  อย่างไรก็ดียังมีวิธีหนึ่งในการให้ผลตอบแทนพนักงานซึ่งเป็นการให้ที่ถี่กว่าและจำนวนเงินก้อนเล็กกว่าเมื่อเทียบกับโบนัสประจำปี ซึ่งอาจเรียกว่าโบนัสในลักษณะนี้ว่าเป็น Spot Bonus โดยทั่วไปนั้น Spot Bonus จะให้กับพนักงานหรือกลุ่มของพนักงานสำหรับพฤติรรม การกระทำ หรือผลลัพธ์ในเรื่องหนึ่งๆ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกระตุ้นผลงานและสร้างแรงจูงใจของพนักงานในการทำงาน โดยมักเกี่ยวข้องกับงานที่เป็นโครงการ หรือเป็นการให้เพื่อส่งเสริมการกระทำหรือพฤติกรรมบางอย่างที่บริษัทประสงค์จากตัวพนักงาน.  ประโยชน์การนำ Spot Bonus มาใช้ในองค์กรนั้นมีประเด็นที่น่าสนใจที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ ดังนี้ 1. Spot Bonus สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับพนักงานได้บ่อยครั้งขึ้น - แทนที่ต้องรอโบนัสในช่วงปลายปี การให้ Spot Bonus จะ...

Word of the Year 2022 (s.540)

  #จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy  ➼ Word of The Year ที่นำเสนอโดยสำนักพิมพ์ดิกชันนารีออกฟอร์ด ซึ่งได้ประกาศออกมาโดยการใช้วิธีการโหวตออนไลน์ ได้คำว่า "goblin mode" ซึ่งหมายถึงชนิดของพฤติกรรมที่ตามใจตนเอง ขี้เกียจ ดูสกปรก ไร้ระเบียบ มีลักษณะทั่วไปที่ปฏิเสธแบบแผนของสังคมซึ่งเป็นที่ยอมรับกัน. ➼ การตีความว่าคนอยู่ในโหมดของการเป็น goblin หมายถึงคนที่เลือกเองว่าจะอยู่ในโหมดของการเป็นคนสกปรก ขี้เกียจ ไม่สนใจสารรูปของตนเอง บริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และชอบอยู่ในบ้านไม่ออกไปข้างนอก. ➼ สำหรับสำนักพิมพ์ดิกชันนารี Merriam-Webster ได้เลือก Word of the Year คำว่า "gaslighting" ซึ่งหมายความถึงการพยายามทำให้บุคคลหนึ่งรู้สึกไม่มั่นคงและสั่นคลอนในความเชื่อของตน จนทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่เห็นหรือมีประสบการณ์มิได้เกิดขึ้นจริง. ซึ่งเพื่อประโยชน์ของตนเอง. ➼ สำนักพิมพ์ดิกชันนารี Collins เลือก "permacrisis" ซึ่งแปลว่าวิกฤตที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและคงทน เพื่อเล่าสถานการณ์ของโลกปัจจุบันที่คาดเดาได้ยาก เกิดความไม่มั่นคงในหลายด้าน บรรยากาศเต็มไปด้วยความวุ่นวาย. อ้างอิง: ...

Reserve Currency (s.538)

  #จดมาสรุปเป็นข้อ #ธุรกิจแบ่งปัน #busguy  ➼ Reserve Currency คือ เงินตราต่างประเทศที่ธนาคารกลางและสถาบันการเงินใหญ่ๆ ในโลกถือไว้เป็นจำนวนมาก เพื่อใช้ในการค้า การลงทุนและการชำระหนี้ระหว่างประเทศ. ➼ ตั้งแต่ปี 1944 มี 44 ประเทศได้ตกลงกันที่เมือง Bretton Woods ที่จะให้ดอลลาร์เป็นเงินตราที่จะใช้ในธุรกรรมระหว่างประเทศ โดยประเทศต่างๆ จะผูกค่าเงินของตนไว้กับดอลลาร์ และดอลลาร์ก็จะผูกไว้กับทองคำอีกต่อหนึ่ง ในอัตรา 35 ดอลลาร์ต่อทองทำ 1 Troy Ounce นี่เป็นจุดกำหนดของระบบอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ (Fixed Exchange Rate System). ➼ ในปี 1973 ประธานาธิบดีนิกสันได้ประกาศยกเลิกการผูกค่าเงินดอลลาร์ไว้กับทองคำ อันเป็นจุดเริ่มต้นของระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัว (Flexible Exchange Rate System) โดยแม้ดอลลาร์จะไม่มีทองคำหนุนหลัง แต่ดอลลาร์ก็ยังคงเป็น reserve currency หลักของโลกมาตลอดมาตลอดเกือบ 80 ปี เพราะสภาพคล่องที่มีสูงมาก. ➼ สหรัฐถือเป็นประเทศที่ได้เปรียบทุกประเทศในการที่สามารถใช้เงินของตนทำธุรกรรมต่างประเทศได้ อย่างไรก็ดี ในระยะยาว ยังมีคำถามที่เกิดขึ้นคือ ดอลลาร์อาจสูญเสียความเป็น reserve currency หลักของ...